ดิ แอสเพน ทรี ผู้นำทางด้านการให้บริการและพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงวัยภายใต้บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (MQDC) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความต้องการที่เกิดขึ้นจากสังคมสูงวัยในประเทศไทยนำโดยมิสเฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการ แอสเพน ทรี คาดว่าจะมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดในปี 2583 ภายในงาน Fast Track Seniors Living & Care Thailand 2018 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันเร็วๆ นี้
“ประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกที่จะเข้าสู่ภาวะสังคมสูงวัย หรือ “aged society” แต่ในขณะเดียวกัน เราจะได้เห็นโอกาสจากสถานการณ์นี้ โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์โดยธนาคารโลกว่า เราจะสามารถแปลงภาวะนี้ให้เป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศให้เป็นผู้ให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุแห่งภูมิภาคนี้ได้” มิสเฮ จูน พาร์ค กล่าว
“ภายใต้พันธกิจของบริษัทแม่ MQDC ที่มุ่งเน้นการพัฒนา “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” ดิ แอสเพน ทรีจึงได้นำแนวคิดการให้บริการผนวกกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้คอนเซปต์ “ageing-in-place” ซึ่งเป็นพัฒนาเพื่อสร้างไลฟ์สไตลส์ที่มีความสุข สุขภาพดี ให้กับผู้สูงอายุเป็นสำคัญ”
มิสเฮ จูน พาร์ค ยังกล่าวอีกว่า ความท้าทายที่ประเทศไทยต้องประสบ ได้แก่ ปัญหาความจำเสื่อม มีการคาดการณ์ว่าในปี 2593 จะมีผู้สูงอายุประสบปัญหานี้ร่วมสองล้านคน ทางดิแอสเพนทรีจึงให้ความสำคัญกับการรับมือกับความท้าทายนี้เป็นหลัก การขยายตัวของชุมชนเมืองและอัตราการเกิดที่ลดลงก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ เนื่องจากจำนวนประชากรไทยรุ่นใหม่ที่ลดลง ย่อมสะท้อนถึงจำนวนที่ลดลงของประชากรวัยลูกหลานที่สามารถดูแลผู้สูงวัยในครอบครัวได้
กลยุทธ์ Glocalization โดย ดิ แอสเพน ทรี
“ด้วยพันธกิจของเราที่ต้องการดึงผู้สูงอายุให้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ดิ แอสเพน ทรี จึงเลือกนำเสนอนวัตกรรมใหม่ภายใต้กลยุทธ์ ‘glocalization’ ซึ่งเป็นโมเดลโลกาภิวัฒน์เน้นการพัฒนาการภายในสู่ภายนอกมาจากอเมริกาเหนือมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ซึ่งเราเน้นโปรโมทการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ช่วยสร้างสมดุลย์เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน” มิสเฮ จูน พาร์คกล่าว
จากการริเริ่มและดำเนินการจัดงานโดย Ageing Asia Alliance ผู้สร้างเครือข่ายกิจกรรมการตลาดเพื่อผู้สูงอายุรายแรกของเอเชีย ในงาน Fast Track Seniors Living & Care Thailand Masterclass ที่ผ่านมา ได้นำผู้ประกอบการระดับโลกและผู้ประกอบการชั้นแนวหน้าในประเทศมาพบกันที่โรงแรม เวสติน แกรนด์ สุขุมวิท ชั้น 25 ห้องอัลติจูด ตั้งแต่ 8.30 น.ถึง 18.00 น.
หลักปฏิบัติระดับโลกอันเป็นเลิศ
คุณ เจนิซ เจีย ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Ageing Asia Alliance กล่าวว่า “ตลาดกลุ่มนี้กำลังร้อนแรงขึ้นซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการระดับแนวหน้ากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดการพัฒนาการอยู่อาศัยที่ดีและการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย”
“ตลาดของผู้สูงวัยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากการเติบโตของประชากรสูงอายุ ธุรกิจต่างๆก็แสวงหาโอกาสทางธุรกิจ มีการทบทวนกลยุทธ์ และมุ่งหาความรู้ ความเข้าใจในตลาดผู้สูงวัยที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้นดังกล่าว เพื่อให้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นผู้มีฐานะ การศึกษาสูง ตลอดจนมีความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างดี”
แนวโน้มในอนาคต
ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ผู้ประกอบการและนักลงทุน ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวเพื่อพบปะและจำแนกกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด้านการเงิน การดำเนินการและการพัฒนา เพื่อให้การพัฒนาสาธารณูปการเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีแก่ผู้สูงวัยและธุรกิจให้บริการดูแลผู้สูงอายุสามารถประสบสำเร็จได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งจะสามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มประชากรผู้สูงวัยในประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย
ดร. ทองธนา เพิ่มโพธศรี รองผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและรองอธิบดีกรมยุทธศาสตร์และปฏิรูป ได้กล่าวถึงการปฏิรูประเบียบ ข้อกฏหมายของไทยจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับภาคเอกชนและองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยเฉพาะในด้านการให้บริการดูแลผู้ป่วยระยะเปลี่ยนผ่านและการบริการดูแลระยะฟื้นฟูสภาพ ซึ่งเขาได้ชี้ว่าระยะของการดูแลผู้ป่วยดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างนานก่อนที่ผู้ป่วยจะสามารถเคลื่อนย้ายหรือกลับเข้าไปสู่การใช้ชีวิตตามปกติ
วิทยากรต่างก็คาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทยจะมีนโยบายที่ช่วยให้สามารถรองรับผู้สูงวัยต่างชาติที่อยากย้ายมาพักอาศัยในประเทศไทยได้ง่ายขึ้นเทียบเท่ากับประเทศมาเลเซียที่ซึ่งมีโครงการอนุมัติวีซ่าแบบลองสเตย์เพื่อรองรับผู้สูงอายุต่างชาติที่อยากย้ายมาอยู่ในประเทศ
เกี่ยวกับบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทดีที (DTGO Corporation Limited – DTGO) โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยทั้งแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมีเนียม และอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส โดย MQDC ได้มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ แมกโนเลียส์ และวิสซ์ดอม
MQDC ได้ให้การรับประกัน 30 ปีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม
จากพันธกิจของเราที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับทุกคน MQDC จึงได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มคุณค่าให้กับสังคมรอบโครงการ
ที่ MQDC เราใส่ใจทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก เราจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์สุขของสังคมและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.mqdc.com.
เกี่ยวกับดิ แอสเพน ทรี
ดิ แอสเพน ทรี ผู้ดำเนินธรุกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร ทั้งบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักอาศัย และสร้างสังคมสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย และอุทิศตนเพื่อให้เกิดแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดในโลก
ก่อตั้งโดยบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ดิ แอสเพน ทรี มีความมุ่งมั่นในการสร้าง ‘การดูแลตลอดช่วงอายุ’ และ ‘Aging in place’ หรือ “การดูแลผู้สูงอายุอย่างครบวงจร โดยที่ผู้สูงอายุสามารถอยู่อาศัยในบ้านของตนเองได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุ”
ด้วยความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก ทำให้การบริการของ ดิ แอสเพน ทรี รวมผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง ๆ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพสูงสุดพร้อมกับการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด
ดิ แอสเพน ทรี ตั้งอยู่ที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาด 300 ไร่ บริเวณ ถนนบางนาตราด กรุงเทพฯ ที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางพื้นที่สีเขียวที่กว้างขวาง และแวดล้อมด้วยสถานที่พักผ่อนใจ สถานที่ทำงาน ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
ภายใต้แนวคิด ‘For all well-being’ของ MQDC ทำให้ดิ แอสเพน ทรี ใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีของคนและทุกสรรพสิ่งบนโลก
ดิ แอสเพน ทรี ยังดำเนินงานตามหลักการ ‘นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน’ อีกด้วย โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านจิตวิทยาและงานวิจัยอื่น ๆ เพื่อประยุกต์ให้กับกับความต้องการทางสังคมผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
เกี่ยวกับ Ageing Asia Alliance
Ageing Asia Alliance ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยเป็นพันธมิตรด้านธุรกิจผู้สูงอายุแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อสนับสนุนการลงทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นของประชากรวัยสูงอายุที่มีจำนวนกว่า 1.2 พันล้านคนเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคิดเป็น 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในโอกาสทางการตลาดของกลุ่มผู้สูงวัย
เป้าหมายหลักของพันธมิตรคือการสร้างเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดผู้สูงวัยของเอเชียแปซิฟิกและให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศทั้งในผู้สูงวัยและมาตรฐานอุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นตัวแทนของสมาชิกในการแบ่งปันวิสัยทัศน์ของการเปลี่ยนแปลงอนาคตของผู้สูงอายุ ปัจจุบันพันธมิตรมีสมาชิกมากกว่า 1,700 คน
3 แกนหลักของพันธมิตร
-
ถ่ายทอดความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผู้สูงวัยโลกกับตลาดเอเชีย แปซิฟิก
-
วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
-
ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในเอเชียแปซิฟิก