เมื่อความเป็นตัวตนและมนต์เสน่ห์แห่งกาลเวลา ถูกหลอมรวมกับความเป็นเอกลักษณ์แห่งยุคสมัย จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเรือนเวลาชิ้นเอก ห้างเซ็นทรัล/เซน ผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดสรรนาฬิกาที่ดีที่สุดในทุกห้วงเวลา ชวนเหล่าคอลเลกเตอร์และผู้หลงใหลในเรือนเวลา ร่วมสัมผัสดีไซน์ล้ำจากนาฬิกาคอลเลกชั่นใหม่ ผ่าน 4 เทรนด์นาฬิกา รวบรวมจาก 2 มหกรรมนาฬิการะดับโลก บาเซิลเวิลด์ (BaselWorld) และ เอสไอเอชเอช (SIHH) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ดัง มาไว้ในงาน “เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2018” (Central/ZEN International Watch Fair 2018) ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขาและเซน ระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม – 30 กันยายน 2561
ธาพิดา นรพัลลภ ออมนิ-แชนแนล เมอร์ชั่นไดซิ่ง ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า “งานบาเซิลเวิลด์ และ เอสไอเอชเอช ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็น 2 งานแสดงนาฬิกาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของนาฬิกาทั่วโลกต่างรู้จักกันดี และรอคอยที่จะครอบครอง ทั้งเรือนมาสเตอร์พีซหรือแรร์พีซ ที่ผ่านการออกแบบและประดิษฐ์อย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อน หรือจะเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างสมาร์ทวอทช์ รวมถึงกลุ่มผู้รักการออกกำลังกาย ฯลฯ โดยในปีนี้ ห้างเซ็นทรัล/เซน ได้จับมือค่ายนาฬิกาชั้นนำคัดสรรคอลเลกชั่นดีที่สุด หลากหลายแบรนด์ดัง จาก 2 งานนาฬิการะดับโลก มาไว้ในงาน “เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2018” (Central/ZEN International Watch Fair 2018) โดยในปีนี้มีนาฬิกา 4 เทรนด์ ที่น่าจับตา”
เริ่มที่เทรนด์ “คลาสสิก วินเทจ” (Classic Vintage) ดีไซน์และสีสันอันคลาสสิกของนาฬิกาแห่งยุคสมัยยังคงเสน่ห์จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะนาฬิกาจากยุค 50s–60s นำมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งเป็นเรือนเวลาล้ำค่า รูปทรงสอดรับกับข้อมือและรสนิยมของหนุ่มสาวปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ต่างก็นำดีไซน์อันเป็นตำนาน กลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง ให้โฉบเฉี่ยว และสืบทอดซีรีส์รุ่นคลาสสิกให้เป็นที่รู้จักในทุกเจนเนอเรชั่น อาทิ มงต์บลองค์ (MONTBLANC) รุ่น 1858 Chronograph Tachymeter Limited Edition 100 เรือนเวลาที่รวบรวมจิตวิญญาณของมงต์บลองค์ให้เป็นในรูปแบบวินเทจร่วมสมัย โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีบรอนซ์ที่เข้ากันได้ดีกับสายหนังสีน้ำตาลอ่อน มีเพียง 100 เรือนทั่วโลก และมาจำหน่ายที่ประเทศไทยเพียง 1 เรือนเท่านั้น ในงานเซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2018, มิโด (MIDO) รุ่น Commander Shade Special Edition ในวาระพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งในปีนี้ ทางมิโดนำเสนอความพิเศษโดดเด่นของเรือนเวลาผ่านทางนาฬิการุ่นที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์และผ่านการพิสูจน์ถึงความคลาสสิกมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ อวดโฉมหน้าปัดใหม่ สีรมควันถูกขัดซาตินเป็นลายซันเรย์จัดวางอยู่บนตัวเรือนทรงดั้งเดิมที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1959 โดยตัวสายเป็นแบบสายเหล็กถัก Milaneseพร้อมกับขัด แต่งด้วยลายซาติน ถือเป็นอีกตำนานที่จะได้รับการตอบรับจากผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาที่มีรูปแบบโดดเด่นไม่เหมือนใคร และมีดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
ถัดมาที่เทรนด์ “สมาร์ท ฟังก์ชั่นนอล วอทช์” (Smart Functional Watch) แบรนด์นาฬิกาต่างหันมาสร้างสรรค์ผลงานที่ตรงกับความพึงพอใจของเหล่ามิลเลนเนียล จึงเกิดความท้าทายในการออกแบบในบริบทที่ทันสมัยและแปลกใหม่ อย่างสมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาที่ออกแบบให้มีลูกเล่นและดีไซน์ให้เป็นมากกว่านาฬิกา จนกลายเป็นอีกหนึ่งในเครื่องประดับของคนรุ่นใหม่ ที่เสริมสร้างบุคลิกของผู้สวมใส่ให้ดูดี ขณะที่แบรนด์นาฬิกาหน้าใหม่ที่โดนใจมิลเลนเนียล ก็มีเพิ่มมากขึ้นทุกที ส่วนแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ต่างหันมาออกแบบนาฬิกาที่ง่ายต่อการสวมใส่ อาทิมอริส ลาครัวซ์ (MAURICE LACROIX) รุ่น The AIKON Automatic Skeleton ปรับโฉมนาฬิกาคลาสสิกให้ดูมีมิติและลูกเล่นยิ่งขึ้น ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 45.0 มิลลิเมตร คู่หน้าปัดสเกเลตัน เผยให้เห็นความงามของโครงสร้างกลไกอัตโนมัติ ML234 ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง สามารถสำรองพลังงานได้นาน 52ชั่วโมง หน้าปัดประกบกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน
“คอมพลิเคเต็ด เลดี้ วอทช์” (Complicated Lady Watch) เทรนด์นาฬิกาหวนกลับไปหาดีไซน์หน้าปัดที่มีขนาดเล็กลง ทำให้นาฬิกาของผู้หญิงดูนุ่มนวล สะท้อนความเป็นกุลสตรีมากยิ่งขึ้น และมาพร้อมการตกแต่งประดับประดาที่ซับซ้อน ละมุนละไม แทบไม่ต่างจากจิลเวลรี่วอทช์เรือนสุดหรูอันน่าหลงใหล ขณะที่นาฬิกาของผู้ชายก็เรือนเล็กลงเช่นกัน เพื่อความคล่องตัวในการสวมใส่มากขึ้นนั่นเอง อาทิ ชาร์ริโอล์ (CHARRIOL) รุ่น Lady St – Tropes Falling Stars ผลงานชิ้นเอกที่เจิดจรัสด้วยการประดับประดาโดยการไล่ระดับของไพลินสีน้ำเงินไปถึงสีขาวใสของเพชร ด้านข้างของตัวเรือนแกะสลักอักษร ‘St-Tropes’ และหน้าปัดประดับด้วยเปลือกมุกสีขาวละเอียดประณีต,ฟาเบร์เฌ่ (FABERGÉ) รุ่น Lady Compliquée Peacock ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่อีสเตอร์พีค็อก อิมพีเรียล ของปีเตอร์ คาร์ล ซึ่งผลิตในปี ค.ศ.1908 ตัวเลขชั่วโมงประดับบนแผ่นเปลือกหอยมุกหมุนทวนเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดประดับตัวนกยูงและมีแพนหางที่ขยับคลี่ได้ พร้อมประดับอัญมณี และเพชร 54 เม็ด นํ้าหนัก 1.83 กะรัต มาพร้อมสายหนังจระเข้สีขาวสะอาดตา
ปิดท้ายด้วยเทรนด์ “คลาสสิก คอมพลิเคชั่น” (Classic Complication) แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างนำเสนองานฝีมือของช่างนาฬิกา ที่สร้างสรรค์กลไกสุดซับซ้อนจนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์นั้นๆ แล้วอวดความวิจิตรของศิลปะแห่งกลไกเวลา ด้วยการเปลือยฝาหลังให้เห็นการทำงานและความสวยงามของจักรกล กลายเป็นเสน่ห์อย่างสำคัญประการหนึ่งของการออกแบบนาฬิกาจักรกลโดยช่างผู้ชำนาญ อาทิ โฆรุ่ม (CORUM) รุ่นGolden Bridge Rectangle การผสมผสานระหว่างความสวยงามของการออกแบบและกลไกการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเรือนทำจากทองคำขาว กระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันสะท้อนแสง สามารถมองเห็นกลไกการทำงานแกะสลักบนสะพานทองคำที่ล้อมรอบทั้งสองด้านด้วยตัวเลขโรมันอยู่ติดกับสถาปัตยกรรมของสะพาน ฟังก์ชั่นการทำงานเป็นระบบไขลาน บอกเวลาชั่วโมง นาที สามารถสำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง กันน้ำได้ 30 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้, แทค ฮอยเออร์ (TAG HEUER) รุ่น Calibre Heuer 01 แตกต่างและโดดเด่นด้วยโครงสร้าง ตัวเรือน และการดีไซน์ พร้อมทั้งระบบการทำงานคาลิเบอร์แบบใหม่ ทำงานด้วยระบบกลไกโครโนกราฟที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ช็อปฯ กับช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเลือกซื้อ “นาฬิกา” ในงาน “เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2018” (Central/ZEN International Watch Fair 2018) พร้อมพบข้อเสนอที่ดีที่สุดในรอบปี อาทิ สินค้าราคาปกติลดสูงสุด 50%, รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 44% พร้อมรับคะแนนสะสมเพิ่มสูงสุด 4 เท่า จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พิเศษ เพียงแอดเฟรนด์ Central LINE Official Account โหลดรับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า1,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อนาฬิกามูลค่า 20,000บาท ขึ้นไป พิเศษสุด! รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 80,000 บาท เมื่อช็อปฯ ครบตามเงื่อนไข และรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% สูงสุด10 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ ระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม ถึง 17 กันยายน 2561 ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัล ทุกสาขา และเซน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2561
Related
