‘บมจ.ทีพีบีไอ’ หรือ TPBI รุกขยายตลาดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษตอบรับเทรนด์บรรจุภัณฑ์โลกที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ส่งบริษัทลูก เข้าซื้อกิจการ EDCAWI ประเทศอังกฤษ และบริษัทIntelipac Australia PTY Limited (ITPA) หนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจและช่วยขยายตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกไปยังกลุ่มประเทศในยุโรป พร้อมศึกษาการนำบรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการทำตลาดในไทยเพิ่ม ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส2/61 ฟื้นตัวดีขึ้น ทำกำไรสุทธิ 17.22 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ หลังลูกค้ามีออเดอร์สั่งซื้อสินค้ากลุ่ม Transformation เพิ่มขึ้น เชื่อในไตรมาส 3 และ 4 ทิศทางจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มั่นใจแนวทางการดำเนินงานมาถูกทางเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2561 ได้อนุมัติในหลักการให้บริษัททีพีบีไอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ TPBI ถือหุ้น 100% เข้าดำเนินการซื้อหุ้นสามัญร้อยละ 100 ของบริษัทEDCAWI Limited (EDCAWI) ประเทศอังกฤษ และบริษัท Intelipac Australia PTY Limited (ITPA) ประเทศออสเตรเลีย โดยใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนขายหุ้น IPO เมื่อปี 2559 เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งในเชิงธุรกิจให้แก่ TPBI
ทั้งนี้ EDCAWI เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ที่เข้าลงทุนในบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เบเกอรี่และห้างสรรพสินค้าในประเทศอังกฤษ และบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจซื้อมาขายไปในผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงประเภทใช้ซ้ำ (Re-Usable) ชนิดต่าง ๆ ถุงบรรจุผักผลไม้ และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย ฮ่องกงและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ขณะที่ ITPA เป็นผู้ประกอบธุรกิจซื้อมาขายไปในผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงประเภทใช้ซ้ำ (Re-Usable) ถุงใส่ผักผลไม้ ในประเทศออสเตรเลีย
การอนุมัติหลักการเข้าลงทุนซื้อหุ้นใน EDCAWI และ ITPA ในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ TPBI ให้มีความแข็งแกร่ง จากการขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกไปในทวีปยุโรปและออสเตรเลีย ตลอดจนการนำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญระหว่างกันมาช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่การดำเนินงาน และยังสามารถขยายฐานการดำเนินธุรกิจของ TPBI ไปสู่ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน รวมถึงนำผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษมาใช้ในการศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ TPBI ที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
“การเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ EDCAWI และ ITPA นั้น จะทำให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกในตลาดยุโรปและออสเตรเลียเพิ่มเติม รวมถึงยังทำให้เราสามารถขยายฐานตลาดไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้TPBI มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TPBI กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61(เมษายน–มิถุนายน 2561) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 17.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 537.78% เทียบกับไตรมาส 1/61 ที่มีกำไรสุทธิ2.70 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,248.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ทำได้ 1,136.98 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น มาจากความสำเร็จในการกำหนดยุทธศาสตร์ Transformation สินค้าในกลุ่ม General Packaging ที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในการสั่งผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นและเริ่มทำกำไรให้แก่การดำเนินงานของบริษัทหลังจากที่ได้มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงการนำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของโลก นอกจากนี้ปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรก ยังได้ช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ปรับตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย
ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ตามปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าจากตลาดต่างประเทศ ที่เริ่มทยอยสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกับทาง TPBI ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดถึงยุทธศาสตร์การปรับตัวของบริษัทฯ ที่มาถูกทาง หลังจากได้ปรับกระบวนการผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยแนวทางดังกล่าวจะทำให้ผลการดำเนินงานของ TPBIค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ High Value Added ซึ่งมีกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค (Flexible Packaging) และกลุ่ม Multilayer Blown Film จะเข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัวด้านผลการดำเนินงานได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ TPBI ได้เดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Multilayer Blown Film หลังเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 11,500 ตันต่อปี ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2/61 และบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค ที่เพิ่มกำลังการผลิตอีก 100 ล้านเมตรต่อปี จะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3/61 นี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้มากขึ้น
Related