บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ “เอ็ม–จอย (M-Joy)” และ “เจ–มิกซ์ (J-mix)” ก้าวสู่ปีที่ 25 ประกาศบุกตลาดครึ่งปีหลังเต็มสูบ หลังขึ้นแท่นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ 10% ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ชูจุดขาย “สินค้าอร่อย คุณภาพดี ราคาย่อมเยา” พร้อมปรับสูตรใหม่ ลดน้ำตาล 66% ขยายตลาดคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพมั่นใจสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 300 ล้านบาทภายในสิ้นปี
นางสาวกัญญา ติลกเรืองชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ “เอ็ม–จอย (M-Joy)” และ “เจ–มิกซ์ (J-mix)” เปิดเผยว่า บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 นับถึงปีนี้ก็ก้าวสู่ปีที่ 25 แล้ว โดยดำเนินการใน 3 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มน้ำผลไม้ 2) กลุ่มขนมขบเคี้ยว เช่น แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตรา “โปเตโต้” และข้าวเกรียบผสมผัก ตรา “เมจิโกะ” และ 3) กลุ่มส่วนประกอบที่เป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดพลาสติก และ วุ้นน้ำมะพร้าว ซึ่งจากการที่บริษัทฯ มีธุรกิจที่ครอบคลุมถึงส่วนประกอบและวัตถุดิบหลักนี้ ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ต่ำกว่าคู่แข่ง และสามารถผลิตสินค้าคุณภาพดีในราคาถูกสู่ผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ (R&D) เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทีมีคุณภาพ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จของบริษัทฯ
ขึ้นแท่นผู้นำตลาดน้ำผลไม้มีวุ้น ส่ง “M-Joy” และ “J-mix” รุกต่อเนื่อง ชูจุดขายเน้น “สินค้าอร่อย คุณภาพดี ราคาย่อมเยา”
กลุ่มน้ำผลไม้ระดับ Super Economy (มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ต่ำกว่า 20%) มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,800 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นตลาดน้ำผลไม้มีวุ้นอยู่ประมาณ 400 ล้านบาท โดยบริษัท เวิลด์ ฟูดส์ฯ เป็นผู้บุกเบิกตลาดน้ำผลไม้มีวุ้น และขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้มีวุ้น โดย เอ็ม-จอย (M-Joy) และ เจ-มิกซ์ (J-mix) มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่มากกว่า 57%
“จุดขายที่ทำให้เราสามารถครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 20 ปี คือ “สินค้าอร่อย คุณภาพดี ราคาย่อมเยา” เพราะตลาดน้ำผลไม้ในกลุ่มตลาดล่าง มีการแข่งขันที่รุนแรงมาก โดยเฉพาะสงครามราคา แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพสินค้าเป็นอันดับหนึ่ง เราไม่มีการลดต้นทุนโดยการลดคุณภาพสินค้าเด็ดขาด ตรงกันข้ามเราใช้วิธีเพิ่มคุณภาพสินค้าให้สูงขึ้น โดยหันไปลดต้นทุนส่วนอื่นๆ ลงแทน โดยทางบริษัทฯ ได้มีการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจส่วนประกอบที่เป็นวัตถุดิบหลัก เช่น ขวดพลาสติก และ วุ้นน้ำมะพร้าว เรามีโรงงานผลิตเอง ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพวัตถุดิบได้ สามารถผลิตสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ในต้นทุนที่ถูกลงเพื่อแข่งขันในท้องตลาดได้ นอกจากนี้เวิลด์ ฟูดส์ฯ ยังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เปลี่ยนขวดบรรจุขนาดเล็กที่เดิมใช้ฝาฟอยล์มาเป็นฝาเกลียว จึงทำให้สินค้าดูสะอาด และมีคุณภาพดี ในราคาที่ย่อมเยา จึงทำให้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก”นางสาวกัญญา กล่าวและเสริมว่า
ผลิตภัณฑ์ “เอ็ม-จอย” (M-Joy) จับกลุ่มตลาดวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ได้แก่ M-Joy น้ำผลไม้ 10% ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ขนาด 380 ml. ซึ่งเป็นตัวบุกตลาด มี 4 รส ส้ม ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ องุ่น ราคา 15 บาท และ M-Joy น้ำผลไม้10% ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ขนาด 200 ml. ราคา 5 บาท ส่วนผลิตภัณฑ์ “เจ-มิกซ์” (J-mix) จับกลุ่มตลาดเด็ก ได้แก่ J-mix น้ำผลไม้ 10% ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ขนาด 200 ml. ราคา 5 บาท, J-mix น้ำผลไม้ 25% ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ขนาด 320 ml.ราคา 15 บาท เป็นต้น
ปรับสูตรใหม่ ลดน้ำตาล 66% ขยายฐานคนรุ่นใหม่รักสุขภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้ปรับสูตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์ M-Joy และ J-mix เพื่อเน้นเข้าสู่ตลาดสุขภาพมากขึ้น และลดน้ำตาลลง จนทำให้ผลิตภัณฑ์ J-mix ได้รับสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” (ผลิตภัณฑ์ M-Joy อยู่ในระหว่างการยื่นขอ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายที่รณรงค์ในการลดหวาน มัน เค็ม และภาควิชาการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณโซเดียม น้ำตาล และ/หรือไขมันต่ำลง เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะโภชนาการเกินและโรคที่เกี่ยวข้องในคนไทย
ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 300 ล้านบาท ขยายช่องทางขาย–ส่งเสริมการขายต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2561 บริษัทฯ มียอดขายโดยรวมประมาณ 150ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีที่ผ่านมา ตรงตามเป้าหมายที่คาดไว้โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยปัจจุบันผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว “เจ–มิกซ์ (J-mix)” ขายผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย ส่วน “เอ็ม–จอย (M-Joy)” เวิลด์ ฟูดส์ฯ เป็นผู้ทำตลาดเองทั้งหมด โดยเน้นกระจายสินค้าในตลาดต่างจังหวัด และจำหน่ายในซูเปอร์สโตร์ ซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำ เป็นต้น โดยบริษัทฯ ได้กิจกรรมส่งเสริมการขาย ทั้ง Above the Line และ Below the Line เช่น การโฆษณาโทรทัศน์ท้ายรายการ Bumper Ads ใน YouTube Facebook ต่างๆ รวมถึงการจัดชิงโชคใต้ฝา ส่งรหัสใต้ฝาเพื่อชิงรางวัล รวมถึงการจัดอีเว้นตามสถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า และตามร้านค้าใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด พร้อมทั้งมีการตั้งเป้ายอดขายให้กับลูกค้ารายใหญ่ โดยมีรายการเที่ยวต่างประเทศเป็นรางวัล