แนวคิดการช่วยเหลือสังคมในโลกยุคปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปจากที่เคยช่วยเหลือด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการให้เงินและสิ่งของกลับปรับมาเป็นแนวคิดการนำเอาความเชี่ยวชาญมาสอนอาชีพและสร้างโอกาสให้แทนเช่นเดียวกับ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมากว่า 71 ปี เล็งเห็นถึงความสำคัญของแนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคมแนวใหม่จะให้ความยั่งยืนได้มากกว่า จึงได้จัดงานเปิดตัวโครงการเพื่อสังคม “เซ็นทรัล ทำ” โดยมีเจตนารมณ์ในการ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างชุมชน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พนักงานและสังคมอย่างยั่งยืน ณ ศิวิไล ซิตี้ คลับ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2561
โดย ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ตลอด 71 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัล ได้ทำโครงการเพื่อสังคมต่อเนื่องมากกว่า 1,000 โครงการ ตามเจตนารมณ์ของ คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเซ็นทรัล ที่กล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จของเราเติบโตขึ้นจากความตั้งใจแน่วแน่ที่จะนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ความทันสมัย เรายึดมั่นพันธสัญญาที่จะมีส่วนร่วมสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศ และช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวไทยทุกคน” โดยล่าสุดในปี 2560 กลุ่มเซ็นทรัล ได้เปลี่ยนแนวคิดและหลักการใหม่ในการให้ ความช่วยเหลือสังคมที่ถือเป็นการให้ที่ยั่งยืนมากกว่า โดยเปลี่ยนจากนโยบายเดิมคือ CSR (Corporate Social Responsibility) การรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม มาสู่แนวคิดใหม่ที่เรียกว่า CSV (Creating Shared Values) การสร้างสรรค์คุณค่าเพิ่มร่วมกันให้กับสังคม โดยพยายามหาพื้นที่แห่งความสำเร็จร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคม ภายใต้ชื่อโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” (Central Tham) ซึ่งจะคำนึงถึงด้านผลกระทบต่อสังคม และหาทางปฏิบัติที่ให้ทุกคนในองค์กรได้มีส่วนร่วมกันในการดำเนินการและขยายผลไปสู่สังคมพร้อมจับมือกับภาคีเครือข่ายพันธมิตร (Stakeholders) ทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วโลก
ด้าน ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงแนวคิดและมุมมองของการทำธุรกิจเพื่อสังคมแนวใหม่ของภาคเอกชนโลกยุคปัจจุบันว่า CSV ปรับบทบาทของภาคธุรกิจที่จะร่วมพัฒนาสังคมด้วยการนำทรัพยากรและความเชี่ยวชาญหลักขององค์กรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างคุณค่าร่วมระหว่างองค์กรและสังคมควบคู่ไปพร้อมกันซึ่งมีความแตกต่างจากการขับเคลื่อน CSR ในรูปแบบเดิมที่เน้นเรื่องการให้แบบสำเร็จรูปมากกว่าการสอนให้ทำซึ่งการทำงานเพื่อสังคมแนวใหม่จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้สังคม
ขณะที่ พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” แบ่งออกเป็น กิจกรรม 4 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ที่ดีของคน (PEOPLE) เช่น การจ้างงาน โดยกลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้จ้างงานรายใหญ่ อันดับต้นๆ ของประเทศ มีการจ้างงานมากกว่า 220,000 ราย ทั่วประเทศ อีกทั้งยังสร้างงานให้กับผู้พิการ จนได้รับรางวัล องค์กรสนับสนุนด้านคนพิการดีเด่น ประจำปี 2559 และปี2560 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, การให้ความสำคัญด้านการศึกษาและการพัฒนาโรงเรียนท้องถิ่น โดยเน้นในเรื่อง “โรงเรือนพอเพียงเลี้ยงไก่ไข่” ให้แก่ 9 โรงเรียนประชารัฐ ที่ถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ทางความคิดให้แก่นักเรียนและครูสร้างรายได้ที่มั่นคงสามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 2.ด้านการพัฒนาสินค้าชุมชน (COMMUNITY) ด้วยการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร (Local Sourcing) จัดให้มีตลาดนัดสินค้าชุมชน ในศูนย์การค้าของกลุ่มเซ็นทรัลที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้สินค้ามีความสดใหม่ เน้นผักปลอดภัย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่ง ทำให้ต้นทุนของสินค้าถูกลง สร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร ตลอดจนยกระดับมาตรฐานสินค้าชุมชนให้มีดีไซน์ทันสมัยและตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงผ่านสินค้า Brand (แบรนด์) ที่ชื่อว่า Good Goods (กู้ด กู้ดส์) ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” 3.ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENT) อาทิ เซ็นทรัล กรีน โปรเจกต์ (CENTRAL GREEN PROJECT) ร่วมมือกับพันธมิตรและภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนดูแลพื้นที่บริเวณรอบศูนย์การค้าให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อให้ชุมชนในรัศมี 4 ตารางกิโลเมตรของศูนย์ฯ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยบูรณาการพื้นที่ในการบำบัดน้ำเสียคูคลองรวมทั้งการจัดการบริหารขยะ, การลดใช้ถุงพลาสติก จัดแคมเปญการรณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติกอย่างต่อเนื่อง และเตรียมทำโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นำทรัพยากรหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ เพื่อจัดทำในเรื่องสิ่งแวดล้อมยั่งยืนอย่างจริงจัง และ 4.ด้านความสงบสุขและการอนุรักษ์ศิลปวัฒธรรม (PEACE & CULTURES) อาทิ สนับสนุนการดูแล พิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี“เซ็นทรัล ทำ” ร่วมกับชุมชนปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง วัฒนธรรมการทอผ้าที่ถ่ายทอดกันมามากกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นผ้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะผ้าห่มยกดอกที่มีโครงสร้างของผืนผ้าและลวดลายที่งดงาม โดยนอกจากจะเข้าไปช่วยอนุรักษ์พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ด้วยการเชิญไทยดีไซเนอร์ สิริอร เฑียรฆประสิทธิ์ เจ้าของแบรนด์ เพนคิลเลอร์ (PAINKILLER) และมหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกันพัฒนาเส้นใยผ้า ลวดลาย และออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยให้เป็นที่ต้องการในตลาด และนำไปวางจำหน่ายที่เซ็นทาราโฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (Centara Hotel & Resorts) โรงแรมในเครือเซ็นทรัลทุกสาขาทั้งไทยและต่างประเทศด้วย
ด้านบรรยากาศในงานอบอุ่นไปด้วยผู้บริหารและเซเลบ อาทิ ญนน์ โภคทรัพย์, ศ.ดร.สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์, ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์, ปาสคาล บิลโลว์, ณัฐ วงศ์พานิช, จิรนันท์ ผู้พัฒน์, บุษบา จิราธิวัฒน์, เมทินี พิศุทธิ์สินธพ, วิมลมาศ เกื้อโกมลเดช, ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์, พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มาร่วมชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ผักน้ำดุกใต้, ผักปลอดภัยภูทับเบิก เพชรบูรณ์, ข้าวสังข์หยด พัทลุง เป็นต้น
ก่อนที่ทุกคนจะได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน โดยฝีมือ เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ เชฟไฟแรงจากเชียงใหม่มาจัด สำรับอาหารสำหรับฤดูฝน เสิร์ฟแขกผู้มีเกียรติ โดยใช้วัตถุดิบที่เป็นผลิตผลจากชุมชนต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนของโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” รังสรรค์เมนูพิเศษคอนเซปต์ “กินอาหาร ให้เป็นยา” ออกมาเป็นหลนแหนมเห็ด ผลิตภัณฑ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรัตติกาล เห็ดแปรรูป เพชรบูรณ์, ผัดฟักทองและยอดฟักแม้วผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ กลุ่มแม่ทาออแกนิค เชียงใหม่, พล่าหมูย่างคะน้าฮ่องกง จากสหกรณ์ผลิตผักน้ำดุกใต้ เพชรบูรณ์ และเกษตรอินทรีย์เชียงใหม่, ม้าฮ่อสับปะรด ผลิตภัณฑ์สับปะรดจากวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกสับปะรดบ้านสุรศักดิ์ ชลบุรี, เมี่ยงคำใบชะพลู ผลิตภัณฑ์จากแม่ทาออแกนิค เชียงใหม่, ปลาอินทรีย์น้ำปลาหวาน ปลาอินทรีย์ประมงชายฝั่งชุมพร, ข้าวสังข์หยด พัทลุง, แกงส้มสับปะรด ปลากระพง ใส่ดอกขจร สับปะรดนางแลจากเพชรบูรณ์ ปลากระพงจากกลุ่มประมงเรือเล็กชุมพร และ ดอกขจรจากเพชรบูรณ์ ปิดท้ายด้วย เค้กมะพร้าวน้ำหอม ซอสกาแฟอาราบิกา และ แครกเกอร์มะพร้าวคั่ว มะพร้าวน้ำหอมสมุทรสาคร
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการช่วยเหลือสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ติดตามรายละเอียดโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” (Central Tham) ได้ที่ เฟซบุ๊ก และ ไอจี @centraltham
Related