สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลโดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงาน กสทช. ร่วมกันในการปราบปรามสินค้าที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ว่ามีสินค้าที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าปลอมแปลง อย่างเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงภาพยนตร์ ซีรีส์ต่างๆ เป็นต้น
พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมกับนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) ร่วมแถลงข่าวถึงความร่วมมือในการดำเนินงาน เพื่อลดขั้นตอนในการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ให้ใช้เวลาดำเนินการลดลงเหลือเพียง 1-2 วัน จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไป ตามนโยบายของรัฐบาล
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกับสำนักงาน กสทช. ได้มีการประชุมหารือร่วมกันจนได้กำหนดแนวทางในการปราบปรามสินค้าที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสินค้าปลอมแปลง เลียนแบบ ที่มีการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ ซึ่งขั้นตอนในอดีตที่ผ่านมา เมื่อผู้ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ละเมิดลิขสิทธิ์ ต่างๆ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับทาง สตช. หรือสำนักงาน กสทช. แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากตามขั้นตอนแล้วผู้ที่ถูกละเมิดจะต้องไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล หลังจากศาลมีหมายศาลจึงจะดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่พบการละเมิดลิขสิทธิ์และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวได้ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวใช้ระยะเวลานานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ทำให้ผู้ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้รับความเสียหายมาโดยตลอด ตัวอย่างเช่น กรณีสินค้าปลอมหรือเลียนแบบแบรนด์เนมหรือเครื่องสำอางค์ดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป หรือประเทศอื่น ที่จำหน่ายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์หรือเว็บไซต์ เช่น Facebook Instagram Line เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีภาพยนตร์ และซีรีส์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมจากประเทศสหรัฐอเมริกา เกาหลี ญี่ปุ่น และอื่นๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้สั่งการให้ สตช. และสำนักงาน กสทช. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการให้ดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน
นายฐากร กล่าวว่า สตช. และ สำนักงาน กสทช. ได้ประชุมหารือร่วมกันหลายครั้ง จนได้ข้อสรุปในการลดขั้นตอนในการดำเนินการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ให้มีความรวดเร็ว และกระชับ พร้อมทั้งลดเวลาในการดำเนินการให้มากที่สุด โดยผลจากการหารือขณะนี้ ขั้นตอนในการดำเนินการปราบปรามจะลดลงเหลือเพียง 1-2 วัน ดังนี้
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ(TACTICS)
- เมื่อผู้ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือละเมิดลิขสิทธิ์ ถูกปลอมแปลงสินค้า ให้ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (TACTICS)โดยสามารถดำเนินการด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
- เมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย หรือผู้รับมอบอำนาจแล้วจะรีบส่งเรื่องให้สำนักงาน กสทช. โดยเร็วต่อไป
- สำนักงาน กสทช. จะส่งเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP เพื่อดำเนินการปิดกั้นการเข้าถึง URLหรือเว็บไซต์ดังกล่าวต่อไป
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะร่วมกับสำนักงาน กสทช. ออกจับกุมและตรวจสอบดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายทางการค้าจดทะเบียน การละเมิดลิขสิทธิ์ และการละเมิดสิทธิตามสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ซึ่งมีรูปแบบในการกระทำผิด เช่น การทำซ้ำหรือดัดแปลงซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ในช่องทางออนไลน์ การผลิตและเสนอขายทางออนไลน์ซึ่งสินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายทางการค้าของบุคคลอื่น ต่อไป
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน กสทช. เชื่อว่าการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว จะเป็นการลดขั้นตอนการทำงานจากเดิมจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนในการปิดกั้นการเข้าถึง URL หรือเว็บไซต์ที่กระทำความผิดการละเมิดลิขสิทธิ์ และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นระยะเวลา 1-2 วัน เท่านั้น ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ว่าประเทศไทยได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังในการปราบปรามสินค้าที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสินค้าปลอมแปลง เลียนแบบ ที่มีการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ในขณะนี้ได้ อันจะส่งผลให้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ในประเทศไทยลดลง” นายฐากร กล่าว