นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTGเปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทที่ยังมีความแข็งแกร่ง จากการขยายสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีสาขากว่า 1,800 แห่งในช่วงครึ่งปีแรก และส่วนแบ่งการตลาดยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ปริมาณการขายยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ในไตรมาส 2 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดผ่านช่องทางสถานีบริการน้ำมันเป็นเบอร์ 3 และมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวม อยู่ที่อันดับที่ 4 เพิ่มสูงขึ้นจากอันดับที่ 5 ในไตรมาสที่แล้ว
สำหรับแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทวางแผนเปิดสาขาของสถานีบริการน้ำมันและแก๊สแอลพีจีอยู่ที่ 1,900 สาขา โดยจะเน้นการขยายสาขาเฉพาะในพื้นที่ซึ่งยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยบริษัทเห็นแนวโน้มการตอบรับที่ดีจากปริมาณการขายที่เติบโตอยู่ที่ 14% มากกว่าอัตราการเติบโตในภาพรวม ซึ่งอยู่ที่ 8% บริษัทวางแผนขยายฐานลูกค้า และเพิ่มความรับรู้ในแบรนด์ให้ครอบคลุมกลุ่มคนเมืองมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มการให้ความสำคัญในกลุ่มธุรกิจ non-oil ด้วยการวางแผนขยายจำนวนสาขาของธุรกิจ non-oil ให้อยู่ที่ 500 สาขา ซึ่งรวมร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์,ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck และสำหรับรถยนต์ Autobacs โดยบริษัทมองว่าการลงทุนในธุรกิจ non-oil ต้องใช้เวลา แต่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ และเพิ่มศักยภาพให้กับสถานีบริการน้ำมันในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทพิจารณาทุกการลงทุนอย่างระมัดระวัง และรอบคอบ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท และผู้ถือหุ้น
ในส่วนของโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ในขณะนี้เริ่มการรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/61 แล้ว และคาดกำไรโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ในปีนี้จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท