คุณยอดชาย สุทธิธนกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินนกสกู๊ต หนึ่งในผู้ที่มีความเข้าใจถึงคุณค่าของผู้คนในองค์กร และมีความเป็นมืออาชีพ และเป็นผู้นำ ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน คุณยอดชายได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบินที่ผ่านสมรถูมิด้านอุตสาหกรรมการบินมานานกว่าสองทศวรรษ จากการดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัทการบิน และการท่องเที่ยวออนไลน์
โดยคุณยอดชายมีความมุ่งมั่นในเรื่องการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตและความสำเร็จของนกสกู๊ต ก่อนที่คุณยอดชาย สุทธิธนกูลจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของนกสกู๊ต คุณยอดชายเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ นกแอร์ โดยเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547 นอกจากการเป็นผู้บริหารระดับสูงในหลายฝ่ายในระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา คุณยอดชายยังคงเป็นผู้นำที่มีความชาญฉลาดที่มีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอีกด้วย
เขาใช้จุดเด่นที่ได้เปรียบกว่าของนกสกู๊ต ในการคิดหาเทรนด์และความท้าทายที่จะสร้างแคมเปญที่เหมาะสมในตลาดการบินของประเทศไทย นี่รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ที่ช่วยสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดของแบรนด์นกสกู๊ตให้ไปได้ไก่ยิ่งกว่าสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ ในประเทศไทยได้
จากมุมมองของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ คุณมีทัศนวิสัยอย่างไรในอีกห้าปีข้างหน้า
ตลาดการบินประเทศไทยได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนที่ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดมาจากการเพิ่มขีดความสามารถทางการบริการของสายการบินรายย่อยต้นทุนต่ำ และผู้ให้บริการการบินในอุตสาหกรรมรายอื่นๆ หลายราย ในพ.ศ. 2556 ประเทศไทยมีฝูงบินของสายการบินต้นทุนต่ำจำนวน 42 ลำ แต่ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาฝูงสายการบินต้นทุนต่ำมีเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในขณะที่ฝูงการบินพาณิชย์มีจำนวนเครื่องบินเพิ่มขึ้นทั้งหมด 50% โดยนี่เป็นการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับซีอีโอที่มีความคิดก้าวหน้า อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความท้าทายที่น่าสนใจในชีวิตการทำงานของผม
รูปแบบธุรกิจของสายการบินต้นทุนต่ำยังคงส่งผลต่อการเติบโตในอนาคต ซึ่งแตกต่างจากสายการบินที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ ข้อได้เปรียบด้านอัตราค่าโดยสารของสายการบินราคาต่ำ ผนวกกับความสามารถในการให้บริการเที่ยวบินตรงไปยังจุดหมายต่างๆ ในระยะทางสั้นๆ มีเวลาตอบสนองที่สั้นลงระหว่างการลงจอดและการออกบินนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ความยืดหยุ่นในการให้บริการบนเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำ ยังช่วยให้ผู้ให้บริการที่มีต้นทุนต่ำสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการแบบเต็มรูปแบบ
“ผมเชื่อว่าสายการบินต้นทุนต่ำจะยังคงมีความโดดเด่นในตลาดแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก สำหรับการเดินทางทางอากาศ แม้ว่าสถิติยังแสดงให้เห็นว่า โดยรวมแล้วการเดินทางทางอากาศยังไม่เป็นที่นิยมจากผู้โดยสารในเอเชีย เมื่อเทียบกับตลาดออย่างเช่นในทวีปยุโรป ด้วยเส้นทางที่มีขนาดเล็กและขนาดกลางในภูมิภาคเอเชียที่กำลังเติบโตในแต่ละปีภูมิภาค นี้อาจให้สายการบินต้นทุนต่ำมีโอกาสเพิ่มอัตราการเติบโต นอกจากนี้ เรายังเห็นว่าผู้ให้บริการรายเดิมสามารถขยายการตลาดต้นทุนต่ำผ่านทางสายการบินรายย่อย เช่น “สกู๊ต” ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ หรือ “ไทยสมายล์” ของสายการบินไทย
นกสกู๊ตแสดงความเข้มแข็งของแบรนด์ได้อย่างไร
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน เป็นสถานการณ์ที่ผู้บริหารสายการบินจำเป็นจะต้องมีความสามารถที่หลากหลายเพื่อพัฒนาธุรกิจ ซึ่งการที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น ต้องมีความสามารถมากกว่าแค่การมองแต่ในอุตสาหกรรมที่ตนอยู่ หรือการนำแนวทางปฏิบัติจากการค้าปลีก เทคโนโลยี และที่อื่นๆ เพื่อนำความรู้มาปฎิวัติแนวทางของธุรกิจ โดยผมมีความภาคภูมิใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แม้มันยังต้องมีการปรับปรุงอีกมากก็ตาม
เราพอใจกับผลประกอบการของนกสกู๊ตในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ แน่นอนว่านี่เป็นตัวบ่งชี้ถึงเป้าหมายที่เรามุ่งมั่นจะไปให้ถึงในปีนี้อีกด้วย แม้ว่าการแข่งขันในตลาดจะสูงอย่างที่ได้กล่าวไว้ พร้อมทั้งราคาน้ำมันที่คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้นก็ตาม
แผนในการบริหารของนกสกู๊ตนั้นแตกต่างจากรูปแบบธุรกิจอื่นอย่างไร
สิ่งที่ทำให้นกสกู๊ตแตกต่างจากสายการบินราคาประหยัดอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย และทั่วโลก คือจุดยืนที่ชัดเจนของแบรนด์ เราได้รวบรวมทั้งสองสายการบินที่มีความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน สายการบินนกสกู๊ตถูกสร้างขึ้นมาบนสายเลือดของทั้งสองสายการบินชั้นนำ ที่มีความเด่นชัดและเป็นที่หนึ่งในแต่ละสาขา โดยนำความอบอุ่นและการบริการอันเป็นเลิศอย่างไทยมาปรับใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สายการบินนกสกู๊ตให้ความสำคัญอย่างยิ่งนั่นก็คือ ความเป็นมิตรซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินงานอีกด้วย ผนวกความเป็นเลิศในการบริการด้วยราคาที่สมเหตุสมผลจึงทำให้สกู๊ตกลายเป็นผู้นำในวงการการบินของภูมิภาคนี้
นกสกู๊ตยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความคุ้มค่าแก่ผู้โดยสาย ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่มีขนาดและตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมทั้งการออกแบบภายในที่ทันสมัยซึ่งหาได้ยากจากสายการบินราคาประหยัด โดยค่าโดยสารของสายการบินนกสกู๊ตยังคงสมเหตุสมผลและคุ้มค่ากว่าสายการบินต้นทุนต่ำอื่นๆ
เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ทุกลำรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 415 ที่นั่ง ประกอบไปด้วยชั้นธุรกิจจำนวน 24 ที่นั่ง และชั้นประหยัดจำนวน 391 ที่นั่ง โดยผู้โดยสารสามารถเลือกรับบริการให้ตรงกับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมนูอาหารรสเลิศและอาหารเพื่อสุขภาพ การตอบรับในการจองที่นั่งที่รวดเร็วทันใจ และบริการเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าตามความต้องการ
นี่เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ ที่ทำให้นกสกู๊ตนั้นสามารถส่งมอบการบริการคุณภาพผ่านการนำเสนอที่สนุกสนานและใส่ใจได้ การผสมผสานที่สุดของการบริการระหว่างนกแอร์และสกู๊ต ทำให้เรามั่นใจได้ว่าประสบการณ์ที่แปลกใหม่นั้น จะถูกส่งมอบแก่ลูกค้าของเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทุกสิ่งที่เราทำก็เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ ว่าเราเป็นสายการบินที่ใหม่ ตื่นตัว และพร้อมที่จะส่งมอบความคุ้มค่า ที่จำได้ว่าการท่องเที่ยวคือการค้นพบสิ่งใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่แปลก แตกต่างไปจากเดิม
คุณจะนำเอาทฤษฎีการบริหารมาปรับใช้กับองค์กรได้อย่างไร
นี่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เราทำ ตั้งแต่การว่าจ้างพนักงาน เราจะคัดเลือกผู้สมัครที่มีบุคคลิกเหมาะสมกับแบรนด์ แม้เราจะเป็นสายการบินใหม่ แต่เรามีกระบวณการเลือกพนักงานที่ได้ผลและทันสมัย ยกตัวอย่างเช่น ผู้สมัครตำแหน่งพนักงานภายในเครื่องบิน จะต้องผ่านการทดสอบและสัมภาษณ์ ผ่านระบบออนไลน์ก่อนจะไปถึงด่านการสัมภาษณ์ขั้นสุดท้าย กระบวณการดังกล่าว ไม่เพียงจะสามารถยืนยันได้ว่าเราจะสามารถหาพนักงานที่เหมาะสมกับแบรนด์ได้แล้ว ยังช่วยให้เราประหยัดเวลาและทรัพยากร เมื่อเทียบกับกระบวนการจ้างงานแบบทั่วไป ทีใช้การสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้ากับผู้สมัครทุกคน
การมีสายการบินสกู๊ตเป็นหนึ่งในบริษัทแม่ ทำให้เรามีความได้เปรียบในแง่ของการฝึกฝนตามมาตรฐานการบินนานาชาติ และยังสามารถจุดประกายความเป็นนักผจญภัยผ่านทัศนคติแบบเฉพาะตัว ที่เรียกว่า “สกู๊ตติจูด (Scootitude)” ซี่งเป็นสัญลักษณ์ของความสนุกแบบสบายๆ ความเป็นธรรมชาติ และเป็นกันเอง
นกสกู๊ตให้ความยืดหยุ่นแก่พนักงาน เรามุ่งมั่นที่จะปลูกฝังความคิดแง่บวกและบรรยากาศการทำงานที่สนุกสนาน ที่จะช่วยสนับสนุนการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นชุดที่ใส่สบาย จนไปถึงการไม่มีข้อกำหนดเรื่องเวลาการเข้างานแบบเดิมๆ
ปัจจุบัน เรากำลังวางแผนงานในการพัฒนาโปรแกรมพัฒนาบุคคลากร เพื่อรับมือความท้าทายในอนาคต ที่จะประกอบไปด้วย โปรแกรมแลกเปลี่ยนผู้ฝึกอบรมกับสายการบินนกแอร์ และโปรแกรมการฝึกอบรมข้ามสายงาน ที่จะช่วยให้บุคคลากรของเราสามารถสั่งสมประสบการณ์ที่ครอบคลุมและหลากหลาย ในอุตสาหกรรมด้านการบินของเอเชีย