กลุ่มทรู ภูมิใจ FTSE Russel พิจารณาให้ได้รับการประกาศเป็นสมาชิก FTSE4Good กลุ่มดัชนีความยั่งยืนระดับโลก ต่อเนื่องปีที่ 2 ทั้งดัชนีประเภทEmerging Index และ ASEAN 5 Index สะท้อนความเป็นองค์กรธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงมีบรรษัทภิบาลที่แข็งแกร่ง(Environmental, Social and Governance (ESG) Performance) ด้วยคะแนนประเมินที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและภาคธุรกิจอื่นๆของประเทศไทย
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “การได้รับการประกาศจาก FTSE Russel ให้เป็นสมาชิกFTSE4Good Index Series ในกลุ่ม Emerging Index และ ASEAN 5 Index ถึง 2 ปีซ้อน ด้วยคะแนนประเมินที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและภาคธุรกิจอื่นๆของประเทศในปีนี้ นับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกลุ่มทรู ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมไทย ที่มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมและเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยกลุ่มทรู ได้นำศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการสื่อสาร ร่วมสร้างคุณค่าแก่สังคม และส่งเสริมการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกลุ่มทรู เป็นเพียงองค์กรธุรกิจโทรคมนาคมรายเดียวจากประเทศไทย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกทั้งดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Index และFTSE4Good Index Series เมื่อปีที่ผ่านมา”
ดร.กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นเปิดเผยว่า “กลุ่มทรู ขอขอบคุณความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนในองค์กรที่ผสานพลังดำเนินงานตามแนวทางและกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี จึงทำให้กลุ่มทรู ผ่านการประเมินได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกต่อเนื่อง ตอกย้ำความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งพัฒนาสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค และบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่นักลงทุน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต”
ทั้งนี้ ความเป็นสมาชิกของกลุ่มทรูมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560 จนถึงการพิจารณาทบทวนคุณสมบัติครั้งใหม่ในปีล่าสุดนี้
เกี่ยวกับ FTSE4Good
กลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ FTSE4Good เป็นการประเมินที่ดำเนินการโดย FTSE Russell ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ดัชนี FTSE4Good ถูกจัดทำขึ้นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2559 โดยนำเอาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์จากกว่า 20 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีน บราซิล แอฟริกาใต้ ไต้หวัน และรัสเซีย ดัชนี FTSE4Good Emerging Market ได้พิจารณาตัวบ่งชี้กว่า 300 ด้านของสมาชิก ทั้งในหมวดสิ่งแวดล้อมอันได้แก่ มาตรการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ (Climate Change) ระบบรอยเท้าทางนิเวศ (Environmental Footprint) และระบบห่วงโซ่อุปทานสิ่งแวดล้อม (Environmental Supply Chain) ในหมวดสังคมได้แก่ โครงการความริเริ่มเพื่อสังคม (Community Initiatives) สิทธิมนุษยชน (Human Rights)และข้อปฏิบัติในเรื่องแรงงาน (Labor Practices) ในหมวดบรรษัทภิบาลได้แก่ การกำกับดูแลองค์กร (Corporate Governance) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)และความโปร่งใสในเรื่องภาษี (Tax Transparency) ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจเพื่อการลงทุน