ล้วงลึกรสชาติหมึกแดดเดียว”ปราณบุรี”

บันทึกคำบอกเล่าของชาวประมงพบว่าในท้องทะลอ่าวไทยทั้งปีมีฤดูการของการจับปลาหมึกต่างกัน ในเดือน ม.ค. ถึง ก.พ. ปลาหมึกจะชุกบริเวณหน้าอ่าว จ.ชลบุรี มี.ค.ถึง เม.ย.หน้าอ่าวปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่มีอยู่ในระดับที่ลึกลงไป เดือน พ.ค.ถึง มิ.ย. ปลาหมึกอยู่หน้าอ่าวปะจวบฯทับสะแก บางสะพาน เดือน ก.ค.-ส.ค.ปลาหมึกอยู่หน้าอ่าวบ่อนอก อ่าวน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเดือน ก.ย. ถึงต.ค.ปลาหมึกจะมารวมตัวกันหน้าอ่าวปราณบุรี และในเดือน พ.ย-ธ.ค.ช่วงฤดูลมว่าวปลาหมึกจะอยู่ด้านตะวันออกห่างจากฝั่งประมาณ 5.4 กม.

งานเทศกาลกินหมึกแดดเดียวและอาหารทะเล ปากน้ำปราณ ครั้งที่ 5 จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ย. 61 บริเวณจุดชมวิวแหลมเกด เลือกฤดูกาลที่ปลาหมึกมารวมกัน ในทุกปี ชาวบ้าน ร้านอาหารและผู้ประกอบการรร.จะนำผลิตภัณฑ์ปลาหมึกมาให้ท่องเที่ยวได้ชิม และเลือกซื้อหา พร้อมประกวดเมนูหมึกแดดเดียว และเมนูอาหารทะเลขึ้นชื้อ นอกจากนี้ยังมีมินิคอนเสิริต์จากศิลปิน โรส ศิรินทิพย์ และสุชาติ จากเดอะ วอยซ์และดนตรีสไตล์บอสซ่า

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้อำเภอปราณบุรีร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำปราณบุรี ชุมชนและภาคเอกชน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ พบว่าการจัดงานจะสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น-5-7 เปอร์เซนต์ จากรายได้การท่องเที่ยวทั้งปีของจังหวัดประจวบฯอยู่ที่ 36,359 ล้านบาท

“อ.ปราณบุรีมีพื้นที่ชายหาดถึง 12 กม. รัฐบาลส่งเสริมให้พื้นที่ อ.ปราณบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวไทยแลนด์ริเวอร์ร่า มีเส้นทางจักรยานและเดินวิ่งออกกำลัง มี รร. ที่พักนับ 100 แห่ง และได้รับการยอมรับเป็นแหล่งผลิตปลาหมึกแดดเดียวที่มีรสชาติดี รวมทั้งอาหารทะเลสดๆจากเรือประมงพื้นที่บ้าน จำหน่ายในราคาย่อมเยา” กิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอ กล่าวเสริม

ด้านนายพะนอ เดชวัน นายก อบต.ปากน้ำปราณ เล่าว่าปลาหมึกในพื้นที่ปากน้ำปราณมีรสชาติหวานจากธรรมชาติ นุ่ม และไม่เหนียวเหมือนปลาหมึกทั่วไป เพราะได้รับอิทธิพลของน้ำจืดจากแม่น้ำปราณบุรี ที่ไหลลงสู่ทะเลจะนำแพลงตอนที่เป็นอาหารปลาหมึกมาสะสมอยู่ในทะเล ทำให้ปลาหมึกมีรสชาติดี

นายสำราญ งดงาม ผู้ผลิตปลาหมึกแดดเดียวในแบรนด์น้องหญิง เล่าถึงวิธีทำหมึกแดดเดียวว่า เมื่อเรือไดร์หมึกเข้าฝั่งผู้ประกอบการจะไปคัดไซส์ปลาหมึก โดยจะใช้ปลาหมึกกล้วยน้ำหนักประมาณครึ่งกิโล ผ่าแล้วลอกหนัง ล้างด้วยน้ำทะเลมาตากแดดในระยะเวลา 45 นาที จากนั้นบรรจุแพคแช่แข็งจำหน่ายราคากิโลกรัมละ 450 บาท ออกจากตู้แช่แข็งจะอยู่ได้ 13ชม. ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารในย่านนี้ รวมทั้งจ.ชลบุรี ระยอง สามารถนำไปทอดโดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง เวลาทอดจะไม่เกิดปะทุในน้ำมัน เพราะปลาหมึกผ่านการตากแดด ซทำให้น้ำในหมึกหมดไป ขณะที่บางแห่งไม่นำไปตากแดดเพราะรักษาน้ำหนักของหมึกจะเกิดการปะทุระหว่างทอดซึ่งหมึก 1กิโลกรัมทอดแล้วจะเหลือน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม

ขณะที่ผู้ประกอบการอิ่มสุขรีสอร์ท ซึ่งมาออกร้านขายปลาหมึกแดดเดียวในงานเล่าว่า จะเลือกใช้หมึกหอมมาทำหมึกแดดเดียวนำมาผ่าแล้วล้างด้วยน้ำทะเลตากแดดไว้ 3- 4 ชม. โดยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นดามไว้ไม่ให้หมึกงอ.แล้วนำมาทอด จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 500 บาท ซึ่งหมึกที่ได้จะมีความนุ่มไม่เหนียว มีรสหวานจากธรรมชาติแบบลงตัว

ด้านมาโนช เอี่ยมละออ ผู้อำนวยการส่งเสริมการเกษตร อบต.ปากน้ำปราณ กล่าวว่า ชาวต.ปากน้ำปราณบุรีได้คิดค้นวิธีการจับปลาหมึกมาตั้งแต่แต่ปี 2520 เริ่มจากใช้ตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงสว่างในการล่อปลาหมึกให้มารวมตัว จนพัฒนามาเป็นเรือปั่นไฟไดร์หมึก และหรี่ไฟลงปลาหมึกจะมารวมตัวกัน จากนั้นใช้แหครอบซึ่งแต่ละปีหมึกมีการเจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ ประกอบกับการควบคุมเรือประมงของรัฐบาล ทำให้เรือไดร์หมึกลดลงเหลือประมาณ100 ลำในพื้นที่ต.ปากน้ำปราณ

อุตสาหกรรมการแปรูปปลาหมึกสร้างงานและรายได้ให้กับคนในพื้นที โดยการแปรรูปจะมีค่าใช้จ่ายดังนี้ ค่าผ่าหมึกกิโลกรัมละ 3.50-4 บาท ค่าตากหมึกบนแผงๆละ 3-4 บาท ค่าลอกหมึกแผงละ 2 บาท ค่ามัดหมึกกิโลกรัมละ 2 บาท ชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยวันละ 200-300 บาท

… ปลาหมึกแดดเดียวในต.ปากน้ำปราณเป็นอาหารที่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

…มาแล้วต้องไม่พลาด…