สื่อมวลชนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับ Coca-Cola กำลังเตรียมเซ็นดีลใหญ่ในวงการกัญชา และอาจนำ “สารประกอบที่เป็นประโยชน์ในกัญชา” มาผสมในเครื่องดื่ม
ข่าวนี้ได้รับความสนใจมากเพราะนี่คือสัญญาณว่า ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มรายอื่นอาจเดินตามมาร่วมขบวนด้วย ซึ่งแม้บริษัทกัญชาถูกกฎหมายในข่าวจะยืนยันว่าไม่มีการเซ็นดีลใดกับ Coca-Cola ในขณะนี้ แต่มูลค่าหุ้นของบริษัทกัญชาก็พุ่งขึ้นเกิน 17% ไปเรียบร้อย
หลายคนสงสัยว่า หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง รสชาติของเครื่องดื่มผสมกัญชาในเครือ Coca-Cola จะเป็นอย่างไร คำตอบนี้น้อยคนนักที่จะตอบได้ แต่ที่แน่นอนคือ เครื่องดื่มนี้จะไม่ทำให้ใครล่องลอยเพ้อฝันหัวเราะร่าเหมือนการสูบกัญชา
ที่ผ่านมา ภาพจำของกัญชาคือสารเสพติดที่มีฤทธิ์กับระบบประสาททำให้ล่องลอยอารมณ์ดี แต่รายงานย้ำว่าวันนี้หลายบริษัท ตั้งแต่ Coca-Cola ไปจนถึงบริษัทยา ต่างเริ่มมองหาแนวทางในการประยุกต์ใช้ CBD หรือที่เรียกว่า cannabinoid ที่พบในกัญชา ซึ่งเป็นสารที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนในตลาดหุ้นด้วย
1. CBD คืออะไร?
Cannabidiol หรือ CBD เป็นสารประกอบที่พบในต้นกัญชา CBD แตกต่างจากส่วนผสมอื่นของกัญชาอย่าง tetrahydrocannabinol หรือที่รู้จักกันในนาม THC ซึ่งเป็นตัวการที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาท
CBD ได้รับการยืนยันว่าจะไม่ทำให้ใครมึนเมา เรียกว่าเป็นด้านดีของกัญชาที่สามารถนำไปต่อยอดได้อีกหลากหลาย
2. CBD ทำอะไรได้บ้าง?
ผลการศึกษาจากการทดลองหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า CBD มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดหัว ต้านอาการคลื่นไส้ และป้องกันการชักได้ (ข้อมูลจากองค์กรอนามัยแคนาดา Health Canada)
จุดนี้การศึกษาพบว่า THC จะออกฤทธิ์เฉพาะในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง แต่ CBD จะออกฤทธิ์ได้ทั่วร่างกาย
3. ถูกกฎหมายหรือไม่?
ยังไม่ถูกกฎหมายในหลายประเทศ ทั้งในสหรัฐฯ และประเทศไทย เนื่องจากยังเป็นส่วนหนึ่งของยาเสพติดประเภทที่ 1 อย่างกัญชา
ประเด็นนี้ องค์กรปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ อย่าง Drug Enforcement Administration ยอมรับว่าปัจจุบันมีการจำหน่ายสินค้ากลุ่มน้ำมัน CBD ในชั้นวางตามซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐฯ Katherine Pfaff โฆษกหญิง DEA กล่าวว่าปรากฏการณ์นี้กำลังท้าทายกฎหมายสหรัฐฯ ไม่น้อย เพราะวันนี้เจ้าหน้าที่ DEA มุ่งเน้นที่การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ทำให้เนื้องานด้านการจับกุม CBD ตกเป็นของตำรวจท้องที่ ความสับสนของสินค้ากลุ่ม CBD จึงเกิดขึ้นเพราะกฎหมายในบางรัฐมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ทางการแพทย์ และยังอนุญาตให้ใช้เชิงสันทนาการได้ด้วย
ปัจจุบัน CBD เป็นที่ยอมรับในแคนาดา ซึ่งประชาชนสามารถซื้อหาได้เมื่อมีใบสั่งยาทางการแพทย์
4. บริษัทไหนสนใจประยุกต์ใช้ CBD บ้าง?
Coca-Cola เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ถูกมองว่ากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการใช้ CBD ในรูปของ “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” เพื่อลดการอักเสบ การปวด และตะคริว
ย้อนไปเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาได้ลงมติเห็นชอบกับบริษัท GW Pharmaceuticals Plc ให้สามารถบริการเพื่อรักษาโรคลมชักในเด็กด้วยสาร CBD ถือเป็นการรักษาพยาบาลรูปแบบแรกที่ใช้ยาจากต้นกัญชา และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยรวมถึงประสิทธิภาพโดยองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA
ยังมีบริษัท Insys Therapeutics Inc. ที่พัฒนา CBD เพื่อรักษาโรคลมชักแบบรุนแรงทางช่องปาก ทั้งหมดนี้ส่งให้ตลาดการใช้ CBD เติบโตขึ้นเร็วกว่ากัญชาในสหรัฐฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 2022 ตามรายงานของ Brightfield Group ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดกัญชาโดยเฉพาะ
5. Coca-Cola สามารถใช้ CBD ในเครื่องดื่มได้ไหมถ้ากัญชาผิดกฎหมาย?
สำนักข่าว Bloomberg ยืนยันว่าไม่ได้ แต่ก็อาจมีช่องโหว่ให้ Coca-Cola บุกตลาดใหม่ได้
เหตุผลเพราะ CBD สามารถสกัดได้จากต้นกัญชง (hemp) พืชตระกูลเดียวกันที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย แต่ผิดกฎหมายในสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดมีการผ่านร่างกฎหมายเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งจะทำให้การผลิตกัญชงถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกคนดัง Mitch McConnell จากรัฐเคนตั๊กกี้ โดยรัฐแห่งนี้กำลังเตรียมพร้อมที่จะกลายเป็นผู้นำในการเพาะปลูกกัญชง
ไม่ว่าอย่างไร ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่าบริษัทผู้ผลิตกัญชาที่ตกเป็นข่าวคู่กับ Coca-Cola อย่าง Aurora Cannabis ออกมาปฏิเสธไม่มีการเซ็นดีลใหญ่กับ Coca-Cola ในขณะนี้ โดยออกแถลงการณ์ว่า Aurora มีส่วนร่วมในการเจรจากับกลุ่มผู้ร่วมสำรวจอุตสาหกรรมเป็นบางครั้ง ซึ่งแม้จะปฏิเสธ แต่หุ้น Aurora ก็เพิ่มขึ้นกว่า 17% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นแคนาดา ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ Coca-Cola แถลงการณ์ล่าสุดยืนยันว่า Coca-Cola ไม่ได้สนใจในตัวกัญชา โดยยอมรับว่า Coca-Cola ก็มีจุดยืนเหมือนบริษัททั่วไปในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ที่จับตาดูการเติบโตของ CBD ซึ่งไม่ใช่สารที่มีผลทางจิตประสาท และถูกประยุกต์ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
แถลงการณ์ของ Coca-Cola ย้ำว่า แม้วงการ CBD จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่บริษัทยังไม่มีการตัดสินใจใดในเวลานี้.
ที่มา :
- https://www.cnbc.com/2018/09/18/aurora-says-it-does-not-have-plans-to-partner-with-a-beverage-company.html
- https://www.thedrinksbusiness.com/2018/09/coca-cola-eyes-move-into-cannabis-drinks/
- https://face2faceafrica.com/article/what-will-cannabis-infused-coca-cola-be-like-if-approved
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-09-17/why-coca-cola-may-add-a-cannabis-component-to-drinks-quicktake?cmpid=socialflow-twitter-business&utm_medium=social&utm_source=twitter&utm_content=business&utm_campaign=socialflow-organic