“บล.โกลเบล็ก” จับตาเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ ให้กรอบ 1,730-1,770 จุด – แนะลงทุนหุ้นแบงก์เข้าไฮซีซั่นการปล่อยสินเชื่อ

บล.โกลเบล็ก จับตาเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ และการตอบโต้ระหว่างสหรัฐ-จีนด้านการเก็บภาษีที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา แม้ปัจจัยราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น บวกเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.โต 6.68% ดีกว่าที่คาด และการเดินหน้าการเลือกตั้งเป็นรูปธรรมมากขึ้น ให้กรอบดัชนี 1,730-1,770 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์เข้าไฮซีซั่นการขอสินเชื่อ ชู BBL- KBANK- SCB-KTB-KKP ส่วนราคาทองคำจับตาการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ แนะเก็งกำไรในกรอบ 1,180–1,215 ดอลลาร์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ให้ความสำคัญกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะคาดว่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.25% และการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ ประกอบกับสหรัฐและจีนเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่อกันเริ่มมีผล 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่จีนปฏิเสธการเข้าร่วมเจรจาการค้ากับสหรัฐ

ส่วนได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความกังวลอุปทานอาจตึงตัวหลังกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกยังไม่เห็นความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต และตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2561 โต 6.68% ดีกว่าคาดที่ระดับ 4.5-4.75% ส่งผลให้ยอดการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2561 โต 10.03% สูงกว่าเป้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ระดับ 9% อีกทั้งการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับทำให้พรรคการเมืองมีความเคลื่อนไหวในการประชุมพรรค

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาต่อปัจจัยต่าง ๆ อาทิ วันที่ 25 ก.ย. ทางกระทรวงพลังงานเปิดให้เอกชนยื่นข้อมูลเสนอประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ และบงกช และธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม 25 – 26 ก.ย.นี้กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ส่วนวันที่ 28 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ประเมิน ทิศทางตลาดหุ้นไทยผันผวนอยู่ในกรอบ 1,730-1,770 จุด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่ความต้องการสินเชื่อเร่งตัวขึ้น แนะนำ BBL, KBANK, SCB, KTB และ KKP รองลงมาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ประโยชน์จากการเร่งประมูลเมกะโปรเจกต์ แนะนำ CK และหุ้นใหญ่ที่ติดทั้งสองกลุ่มดัชนี DJSI World และ DJSI Emerging Markets แนะนำ KBANK, SCB, PTTEP, PTT, CPALL, PTTGC, SCC และ CPN

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดกำลังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนวันอังคาร ซึ่งค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% แต่สิ่งที่นักลงทุนจับตาจะอยู่ที่ถ้อยแถลงหลังการประชุมของประธาน Fed และความเห็นของคณะกรรมการ FOMC โดยถ้าหากมีการส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ตามที่ถูกคาดหมายไว้ จะมีผลลบต่อราคาทองคำทันทีจากทิศทางของเงินทุนที่ต้องการเข้าถือเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศจะได้รับผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยให้ทรงตัวได้ แต่ถ้า Fed ส่งสัญญาณไม่ชัดเจนว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้หรือไม่ จะหนุนให้ราคาทองคำกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์ แต่ราคาในประเทศจะถูกกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งสวนทางกับดอลลาร์

ดังนั้น คงคำแนะนำให้เล่นเก็งกำไรแบบ swing trade ในกรอบ 1,180–1,215 ดอลลาร์ และปรับมาเล่น breakout follow เมื่อราคาออกจากช่วงดังกล่าว