นิสสันเผยวิสัยทัศน์ด้านยานยนต์ในอนาคตให้กับผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำ ที่งานสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย

นิสสันแสดงวิสัยทัศน์ด้านยานยนต์แห่งอนาคตของประเทศไทยให้แก่สมาชิกจากสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย กว่า 50 ท่านได้รับฟัง

ภายในงาน นาย อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้นำเสนอแนวคิด นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ นวัตกรรมทางเทคโนยีที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า

“สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่นรถยนต์ต้องเป็นมากกว่ายานพาหนะ ไม่เป็นเพียงแค่สิ่งที่จะนำพาผู้โดยสารจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งเท่านั้น แต่มันกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงวิถีการใช้ชีวิตของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ เทคโนโลยียังจะเป็นตัวขับเคลื่อนผู้ใช้รถยุคใหม่เพื่อไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารในระหว่างเดินทาง” นายอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “สังคมไทยมีอัตราการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียที่สูง จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าในทุกๆวันคนไทยใช้เวลาไปกับการท่องโลกออนไลน์ถึง 9.38 ชั่วโมง โดยมีการใช้เวลาในโซเชียลมีเดียเฉลี่ย 3.10 ชั่วโมง”

ดัทสัน คือจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิสสันเมื่อ 85 ปีที่ผ่านมา จากรถยนต์รุ่นแรก ต่อด้วยรถรุ่นต่างๆที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก จนทำให้นิสสันยังคงยืนหยัดในการรังสรรค์และนำเสนอสิ่งต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ปัจจุบันมีความคาดหวังเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติโปรไพลอต ProPILOT  ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้รถยนต์แล่นอยู่กลางช่องจราจร ช่วยนำทางระหว่างขับขี่ขณะอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจราจร รักษาระดับความเร็วของรถยนต์ และระยะห่างระหว่างรถคันหน้าที่ผ่านการทดสอบและเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย

นอกจากนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของนิสสันที่มีต่อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบการขับเคลื่อน การขับขี่ และการผสานเทคโนโลยีให้เป็นหนึ่งเดียวกับสังคมในอนาคต รวมถึงการวางรากฐานให้กับการใช้งานรถยนต์แบบไร้คนขับในอนาคต

ภายในงาน นายอันตวนยังได้หยิบยกเทคโนโลยีอันก้าวล้ำแห่งอนาคตที่น่าจับตามองอย่าง เทคโนโลยี B2V (Brain-to-Vehicle)รถยนต์ที่สามารถวิเคราะห์และอ่านคลื่นสมองของผู้ขับขี่อันจะเสริมสร้างประสบการณ์ในการขับขี่ให้เพลิดเพลินมากขึ้น

นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent-Mobility) เป็นแนวคิดที่ประกอบไปด้วยสามเรื่องหลัก คือ เทคโนโลยีพลังการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Intelligent Power) เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ(Intelligent Integration) โดยทั้งหมดได้รวมอยู่ในรถยนต์ของนิสสันเพื่อเชื่อมต่อรถยนต์ ผู้ขับขี่ และสังคม

โดยฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้จะถูกพบในรถยนต์นิสสันรุ่นต่างๆ ตั้งแต่ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์อัจฉริยะแบบตัวถังบนแชสซีส์รุ่นใหม่ หรือแม้กระทั่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ที่มีแผนจะวางจำหน่ายภายในปีงบประมาณนี้

“ที่นิสสันเราเชื่อมั่นว่าอนาคตของการขับขี่จะเต็มไปด้วยความปลอดภัย เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ที่สนุกสนานและเร้าใจผ่านเทคโนโลยีที่หลากหลาย รวมไปถึงการขับขี่ด้วยพลังงานไฟ้ฟ้า การเชื่อมต่อ และการขับขี่แบบไร้คนขับ คือโลกแห่งอนาคตของยานยนต์ไทย” นายอันตวนส่งท้าย