เปิดตัวแพลตฟอร์ม “ทวิสเตอร์”

“ทวิสเตอร์” เอาใจนักช็อปออนไลน์ ด้วยแอปพลิเคชั่น Twister Online พร้อมทั้งการบริหารจัดพัสดุ ด้วยตู้รับพัสดุหน้าบ้านและคอนโดมิเนียม ชูเทคโนโลยีประหยัดพลังงานนานถึง 5 ปี  เล็งปีหน้าลุยติดตั้งตู้ทั้งหมด 1,000 โลเคชั่น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ยุค E-Commerce

นายมนตรี วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทวิสเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเปิดตัวแพลทฟอร์มใหม่Twister Online นวัตกรรมใหม่ที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุค E-Commerce เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็ม ให้ทุกการช็อปปิ้งออนไลน์ในยุคปัจจุบันสะดวกและประหยัดเวลาสูงสุด ด้วยการช็อปผ่าน Twister Online Application

อีกทั้งสินค้าจะส่งตรงถึงหน้าบ้านกับ Twister Homebox ที่ผู้ซื้อสามารถ รับสินค้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยกังวลอยู่บ้านเพื่อรอรับของ หรือจะช็อปปิ้งและนำส่งที่ Twister Sharebox ที่ติดตั้งไว้พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด หรือ อาคารสำนักงานออฟฟิศ สโมสรคลับเฮ้าส์ หอพัก อพาร์ทเม้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสการซื้อของออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แต่บริษัทได้มองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและเป็นอุปสรรคในปัจจุบัน เช่น รถติดทำให้เกิดการรับส่งของที่คลาดเคลื่อน ทำให้เป็นที่มาของ “ตู้รับสินค้า Twister” ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบกับยังช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า รวมถึงตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการประหยัดพลังงาน และลดปัญหาการจราจรติดขัด

“ตู้รับสินค้า Twister ทำให้การส่งของจะถึงผู้รับได้ทุกเวลา และผู้รับไม่ต้องเสียเวลาคอยสินค้า ซึ่งตรงกับแนวคิด “คนซื้อชอบใจ คนขายชอบจัง” และตู้รับสินค้า Twister ยังมีจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน เพราะว่ามีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ถึง 5 ปี ง่ายต่อการติดตั้ง ไม่ต้องเสียบปลั๊กในการทำงาน”นายมนตรี กล่าว

นายมนตรี กล่าวอีกว่า ในขณะนี้บริษัทยังมีการนำสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันจากเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่นำร่องให้บริการบนทวิสเตอร์แพลตฟอร์มเป็นเจ้าแรก และสามารถตอบสนองการจำหน่ายสินค้าได้เป็นอย่างดี

รวมทั้งยังจับมือผู้นำอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบ และแนวสูง รวมถึงที่พักอาศัยทุกประเภท เพื่อติดตั้ง “ตู้รับสินค้า Twister” ยกระดับความเป็นSmart Home และ Smart Condo

ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้าในปี 2562 จะมีตู้ “Twister ตู้รับสินค้า” ทั้ง 2 ประเภทคือ Twister Homebox และ Twister Sharebox ติดตั้งทั้งหมดประมาณ 1,000 โลเคชั่น และเบื้องต้นคาดว่าการขยาย “ตู้รับสินค้า Twister” ครั้งนี้จะส่งผลให้ปีหน้าจะสามารถสร้างรายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าในสิ้นปี 2561 บริษัทจะมีตู้ “Twister ตู้รับสินค้า” อยู่ที่ 150 โลเคชั่น