นครชัยแอร์ เผย! บริการ “NCA Tracking” ตรวจสอบและติดตามตำแหน่งรถโดยสาร ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการโดยเฉพาะช่วงกลางคืน ย้ำ! บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับการตรวจเข้มสภาพรถและพนักงานขับรถเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยทุกการเดินทาง
นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ “NCA Tracking” เช็คตำแหน่งรถโดยสาร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมสร้างความอุ่นใจให้กับผู้เดินทางและครอบครัวของผู้เดินทาง มาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2561 ปรากฏว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน มียอดผู้ใช้งานเกือบ 3,000 ครั้ง ซึ่งพบว่าช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ได้แก่ 18.00 – 06.00 น. และเส้นทางที่มียอดผู้ใช้บริการสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ – ขอนแก่น
สำหรับบริการ “NCA Tracking” เช็คสถานะรถโดยสาร เป็นการต่อยอดใช้ประโยชน์จากระบบ GPS ที่ติดตั้งอยู่บนรถนครชัยแอร์ทุกคัน มาเชื่อมการใช้งานให้สะดวกต่อผู้โดยสาร สามารถตรวจสอบได้ว่าปัจจุบันรถโดยสารที่ใช้บริการนั้นอยู่ในตำแหน่งใด เพื่อกำหนดเวลาในการออกมารับได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่มีช่วงเวลาการเดินทางยาวนาน บริการ “NCA Tracking” ก็จะช่วยบรรเทาความความกังวลได้มากยิ่งขึ้น โดยสามารถตรวจเช็คได้สะดวกผ่านโทรศัพท์มือถือโดยเข้าไปที่เว็บไซต์นครชัยแอร์ www.nakhonchaiair.com คลิกที่ปุ่มสีเหลือง “ติดตามการเดินทาง (GPS)” หน้าเว็บไซต์จะเปิดหน้าต่าง เพื่อแสดงกรอบขึ้นมาให้ลูกค้ากรอกรายละเอียด ได้แก่ รหัสเที่ยวรถ และหมายเลขตั๋วเดินทาง (ตรงตามที่แสดงบนหน้าตั๋วโดยสาร) กรอกข้อมูลตามตัวอักษรตามภาพ แล้วกดปุ่ม “ติดตามการเดินทาง (GPS)” ระบบจะแสดงผลข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร ตำแหน่งที่แสดงบนแผนที่คือตำแหน่งปัจจุบันของผู้โดยสารขณะนั้น และรายละเอียดการเดินทางอื่นๆ ประกอบด้วย เวลารถออกจากสถานีฯ ต้นทางของเที่ยวเวลานั้น รวมทั้งเวลาที่ถึงปลายทาง, ความเร็วในการขับขี่ปัจจุบัน และเวลาที่เหลือในการเดินทางก่อนถึงปลายทาง (โดยประมาณ) เมื่อผู้โดยสารถึงปลายทางแล้ว 1 ชั่วโมง ระบบจึงทำการปิดข้อมูลการเดินทางในเที่ยวนั้นทันที ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการใช้บริการ NCA Tracking ได้ที่ www.nakhonchaiair.com หรือติดตามข่าวสารอัพเดทเกี่ยวกับนครชัยแอร์ได้ที่ Facebook Page Nakhonchaiair
นางเครือวัลย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากบริการ NCA Tracking แล้ว นครชัยแอร์ ยังได้มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัยทุกรูปแบบและยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางควบคู่ไปกับการบริหารจัดการการเดินรถ โดยปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้กับพนักงานขับรถได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยการสร้างแรงจูงใจโดยมอบรางวัลแก่พนักงานขับรถผ่านโครงการ “รณรงค์ขับรถให้ปลอดอุบัติเหตุ” ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี2535 นับเป็นส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะการขับรถอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ไปสู่การขับขี่ที่ปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้งมีการตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนให้บริการ เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้บริการรถสาธารณะ และเสริมสร้างประสิทธิภาพที่ดีในการเดินรถที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืนต่อไป