โอกิลวี่ โชว์ศักยภาพวางแผนใช้“Data, Creativity, Technology” ช่วยลูกค้าสร้างแบรนด์

โอกิลวี่เผยแผนธุรกิจยุคเทคโนโลยีดิจิทัลครองเมือง  หันมาใช้ระบบข้อมูล ความสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี (Data, Creativity, Technology) ผลิตงานให้ลูกค้า แต่ยังคงใช้ความสร้างสรรค์เป็นแกนหลัก เพื่อนำเสนองานที่แปลกใหม่และครบวงจรช่วยให้แบรนด์สินค้าครองใจผู้บริโภครวมทั้งครองตลาด (Make Brand Matter) พร้อมทั้งรักษาแชมป์เอเยนซี่ระดับท็อป 3 ของเอเชีย

นพดล ศรีเกียรติขจร ประธานร่วม กลุ่มบริษัท โอกิลวี่ ประเทศไทย บอกว่า ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค “โอกิลวี่” จำเป็นต้องเข้าถึงและเข้าใจในการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ แต่ก็จะไม่ทิ้งจุดแข็งในการครีเอทีฟงานให้กับลูกค้า

หลังจากนี้โอกิลวี่จะเน้นการสร้างการสื่อสารแบบ End to End มีการนำดาต้าของลูกค้ามาวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อค้นหาจุดขายหรือประเด็นหรือคอนเทนท์ที่น่าสนใจ ก่อนที่จะสร้างสรรค์แผนการสื่อสารที่ตอบโจทย์ด้วยการใช้ New OS หรือระบบปฏิบัติการใหม่ของการสื่อสารที่จะช่วยให้ลูกค้าเห็นแผนการตลาดทั้งระยะยาว 2-3 ปี ระยะกลางรายไตรมาส และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ที่จะเข้าถึงและชนะใจกลุ่มเป้าหมายได้ทันที

“ถึงเราจะมีข้อมูลลูกค้าในมือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้มาทั้งหมด มันต้องมีการวิเคราะห์ซึ่งตรงนี้ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งจำเป็น การสร้างคอนเทนท์ที่มีประสิทธิภาพและโดดเด่น จะทำให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน”

นพดล ยังยกตัวอย่าง “โอกาส” หนังโฆษณา ของ ไทยประกันชีวิต ที่ประสบความสำเร็จคว้ารางวัลจากหลายเวที ว่า  เป็นผลสำเร็จจากการนำข้อมูลที่โอกิลวี่ได้รับจากลูกค้า ก่อนจะนำมาวิเคราะห์และพบว่า หลายคนล้วนผ่านเหตุการณ์และต้องมีบาดแผลในชีวิต” หรือ “Life Scar” โอกิลวี่จึงใช้ message มาโฟกัสโมเม้นต์

“เรามีกระบวนการที่เข้มข้นในการคัดกรองและนำเสนอไอเดีย ซึ่งทำให้โอกิลวี่มีความโดดเด่นด้านความครีเอทีฟมาตลอด  ผลงานของเราได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และได้รับรางวัลจากการประกวดงานโฆษณาระดับโลกเวทีใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดวารสารแคมเปญบรีฟ เอเชีย (Campaign Brief Asia) วารสารที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในวงการเอเจนซี่ของเอเชีย ได้จัดอันดับให้โอกิลวี่ ประเทศไทยเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย  และยกย่องครีเอทีฟของเราถึง 3 คนให้อยู่ในระดับท็อป 10 ของเอเชียด้วย  นับเป็นความภูมิใจมากที่โอกิลวี่สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำของเราในระดับนานาชาติ และสร้างชื่อให้ประเทศไทย  เชื่อว่าแนวทางใหม่ของเราที่จะยึดหลักการใช้ Data, Creativity และ Technology ในการสร้างสรรค์ผลงานสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เรารักษาความเป็นผู้นำและช่วยให้เรานำแบรนด์ของลูกค้าไปได้ไกลกว่านี้”  นพดลกล่าวทิ้งท้าย