หัวเว่ยเปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับเมืองอัจฉริยะ

ในงาน Smart City Expo World Congress (SCEWC) 2018 หัวเว่ยเปิดตัว Digital Platform ที่ครบครันด้วยนวัตกรรมไอซีทีอันล้ำสมัย ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) บิ๊กดาต้า และคลาวด์ รองรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนในด้านต่างๆ ทั่วโลก พร้อมจับมือพันธมิตรจากทั่วโลกจัดสาธิตโซลูชันต่างๆ บนแพลตฟอร์ม ทั้งในด้านการบริหารจัดการระดับเทศบาล ความปลอดภัยสาธารณะ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนระบบการขนส่งอัจฉริยะ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทเอ็ดดูเคชั่น และการเกษตรเชิงอัจฉริยะ ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลเมือง ปรับปรุงบริการสาธารณะ และช่วยให้เกิดการนำนวัตกรรมออกใช้งาน พร้อมเผยตัวอย่างความสำเร็จที่ผ่านมา ในระหว่างงาน หัวเว่ยยังได้จัดงานประชุม Global Smart City Summit 2018 ภายใต้แนวคิด “Digital Platform Empowers Smart City+” เพื่อแนะนำ Digital Platform สำหรับเมืองอัจฉริยะนี้ โดยมีสมาคมด้านอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ TM Forum และ EUROCITIES รวมถึงตัวแทนจากสิงคโปร์, เกลเซ่นเคียร์เช่น, ยันบู และญีซาน ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะร่วมกับผู้บริหารเมืองกว่า 400 คนจากทั่วโลก

สร้าง Digital Platform เพื่อเปิดใช้งานเมืองอัจฉริยะ

เทคโนโลยีดิจิทัลได้ฝังตัวแทรกอยู่ในแทบทุกมิติของเมืองในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารจัดการเมือง ชีวิตของพลเมือง ความปลอดภัยสาธารณะ และการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ การแข่งขันพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังขยายตัวจึงเกิดขึ้นทั่วโลก การพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้ผ่านพ้นระยะที่หนึ่งไปแล้วนั่นคือ การยกเลิกการเก็บข้อมูลแบบ Data Silos ซึ่งยากต่อการนำไปใข้งาน ระยะที่สองที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเพิ่มขึ้น และระยะที่สามที่มีการติดตั้งใช้งาน IoT เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาลของเมือง และในขณะนี้ก็อยู่ในระยะที่สี่ ที่เมืองต่างๆ มีการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการเมืองด้วยการทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อให้เกิดการผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ เข้ากับการบริหารจัดการเมือง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน

มร. หม่า เยว่ รองประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ และประธานบริหาร ฝ่ายขายทั่วโลก กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนสูง ในฐานะที่เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีทีชั้นนำของโลกที่มีทั้งระบบคลาวด์ โทรคมนาคมและดีไวซ์ ทำให้หัวเว่ยสามารถที่จะผสมผสานคลาวด์, IoT, วิดีโอ และ Edge Computing เข้าด้วยกันกับเทคโนโลยี AI ต่างๆ เชื่อมโยงระบบประสาททั้งหมดของเมือง ทั้ง สมอง‘ (ศูนย์บัญชาการ), ‘ระบบประสาทส่วนกลาง‘ (เครือข่าย) และระบบประสาทส่วนปลาย (เซ็นเซอร์) และสร้างเป็น ‘+AI Digital Platform’ ที่เปิดกว้าง และเร่งให้เกิดการทรานส์ฟอร์มเมืองสู่ดิจิทัล และเช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มนี้สามารถทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ ของเมือง สร้างเมืองดิจิทัลแฝดขึ้นมาและรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของเมือง Digital Platform ของหัวเว่ยมีประสิทธิภาพสูงและเปิดกว้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรในระบบนิเวศ มีการออกแบบในระดับสูงสุด การผสมผสาน การปฏิบัติการ แอพพลิเคชั่นบริการ และคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอนาคต +AI Digital Platform ของหัวเว่ยจะวางรากฐานความเป็นอัจฉริยะให้กับเมืองต่างๆ มากขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนทั่วโลก เรามุ่งหวังที่จะได้กำหนดมาตรฐานของเมืองอัจฉริยะร่วมกับลูกค้าและคู่ค้า

ผู้นำทางความคิดจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารเมืองจากทั่วโลกยังเชื่อว่าการสร้างเมืองอัจฉริยะทั่วโลกคือสัญญาณของการเริ่มต้นยุคบนแพลตฟอร์ม

หัวเว่ยเปิดตัว Digital Platform สำหรับเมืองอัจฉริยะ ด้วยกลยุทธ์ “Platform + ระบบนิเวศ” ในงานประชุม หัวเว่ยได้เปิดตัว Digital Platform สำหรับเมืองอัจฉริยะ โดยมี AI เป็นแกนหลักของแพลตฟอร์มซึ่งรวมเอาเทคโนโลยี IoT, บิ๊กดาต้า, ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System – GIS) วิดีโอคลาวด์ และทรัพยากรการสื่อสารแบบผสมผสาน แพลตฟอร์มนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงจากระบบสารสนเทศแบบดั้งเดิม และเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หัวเว่ยยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มมิดเดิลแวร์เพื่อจัดหาบริการต่างๆ ให้กับพันธมิตรด้านแอพพลิเคชันซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นการออกแบบมาเพื่อช่วยพันธมิตรด้านแอพพลิเคชันให้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันชั้นบนได้อย่างรวดเร็ว เพื่อผลักดันให้เกิดการทรานสฟอร์มและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านการบริหารจัดการเมือง บริการต่างๆ ของเมือง และการพัฒนาอุตสาหกรรม

cof

Digital Platform สำหรับเมืองอัจฉริยะของหัวเว่ย มีขีดความสามารถหลายอย่างที่ไม่เหมือนใคร ข้อแรกคือ หัวเว่ยเป็นผู้จัดจำหน่ายรายแรกของอุตสาหกรรมที่มีแพลตฟอร์มดิจิทัลเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งเทคโนโลยีคลาวด์ โทรคมนาคม และดีไวซ์ รวมไปถึงบริการแพลตฟอร์ม (Platform-as-a-service – PaaS) ข้อสองคือ Digital Platform สำหรับเมืองอัฉริยะมีองค์ประกอบและความสามารถที่ครอบคลุมในชั้น PaaS รวมถึง IoT, Big Data, GIS, วิดีโอคลาวด์, การสื่อสารแบบผนวกรวม, AI และความปลอดภัยของข้อมูล แพลตฟอร์มนี้ยังรวมถึงแพลตฟอร์มการเปิดใช้งานด้านอุตสาหกรรมที่จะบูรณาการเข้ากับคุณสมบัติเหล่านี้ ข้อได้เปรียบด้านความยั่งยืนของหัวเว่ยเป็นผลมาจากชิพที่พัฒนาขึ้นเอง อัลกอริธึม และการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยมีนวัตกรรมด้านเทคนิคที่ขับเคลื่อนตามความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการลงทุนด้าน R&D อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน โซลูชันเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ของหัวเว่ยได้รับการติดตั้งใช้งานในกว่า 160 เมืองใน 40 กว่าประเทศ อาทิ เมืองดุยส์บวร์ก ประเทศเยอรมนี และเมืองซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี โซลูชันนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ ทำให้สภาพแวดล้อมการลงทุนของเมืองและชีวิตของประชาชนดีขึ้น ในเมืองรัสเตนเบิร์ก แอฟริกาใต้และเซอร์เบีย เทคโนโลยีดิจิทัลยังคงช่วยขยายขีดความสามารถในการพัฒนาเมืองต่อไป ขณะเดียวกันในหมู่เกาะตามแนวภูเขาไฟในแอตแลนติกเหนือ และเขตอุตสาหกรรมใหม่ปินไห่ในเมืองเทียนจิน เทคโนโลยี AI ก็ได้ช่วยให้เมืองมีความเข้าใจความต้องการของประชากรมากขึ้นเพื่อปรับปรุงบริการต่างๆ ของเมืองให้ดียิ่งขึ้น

หัวเว่ยทำงานร่วมกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกเพื่อสำรวจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลบน Digital Platform ที่ผนวกโซลูชันจากพันธมิตรในระบบนิเวศและการสนับสนุนแบบบูรณาการจากผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด ในอนาคต Digital Platform ของหัวเว่ย ที่พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ล่าสุด จะกลายเป็นรากฐานของเมืองอัจฉริยะอีกหลายแห่ง และนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อการสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ