ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ และไอเดียใหม่ ๆ เป็นหัวใจหลักของการทำให้เกิดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ ที่สามารถต่อยอดไปสู่เชิงพาณิชย์และกลายเป็นธุรกิจSMEs ได้อย่างง่ายดาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า ในปัจจุบันเมื่อมีสินค้า บริการ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ย่อมเผชิญกับการถูกลอกเลียนแบบจากนักก็อปปี้ที่เราได้รับจากข่าวตามสื่อต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอนว่า เมื่อมีการก็อปปี้ไอเดียเกิดขึ้น ย่อมทำให้ผู้ที่ริเริ่มสินค้า บริการ หรือนวัตกรรมนั้น ๆ ได้รับความสนใจน้อยลง และในที่สุดก็ทำให้ธุรกิจไม่มีความยั่งยืน ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยปกป้องสิทธิไม่ให้ผู้อื่นมาลอกเลียนแบบไอเดีย และรักษาสิ่งที่ตัวเองคิดค้นไม่ให้ตกไปเป็นของผู้อื่นก็คือการจด “สิทธิบัตร”
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ “สิทธิบัตร” คือ หนังสือสำคัญที่ทางรัฐบาลออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือ ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยสิทธิบัตรสำหรับผู้ประกอบการ SMEs มี 2 รูปแบบ คือ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่สร้างสรรค์รูปร่างภายนอกของผลิตภัณฑ์ ลวดลายหรือสีของแบบผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากเดิม และ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่ขอรับความคุ้มครอง 3 กรณี คือ
- การขอรับการคุ้มครองกรณีการประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ โดยไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญของการประดิษฐ์ที่ไหนมาก่อนวันยื่นขอรับสิทธิบัตร และไม่มีการใช้และเผยแพร่มาก่อน ,ไม่เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้ว ,มีการเปิดเผยสาระสำคัญหรือรายละเอียดในเอกสารไอเดีย มีการผลิตสินค้าขึ้นมาใหม่, 2. การขอรับการคุ้มครองกรณีมีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น ซึ่งการประดิษฐ์ที่สูงขึ้นในการขอรับการคุ้มครองเพื่อจดสิทธิบัตรนี้ การประดิษฐ์ต้องไม่ง่ายแก่บุคคลที่มีความชำนาญ ในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น ๆ ,ผู้ขอจดสิทธิบัตรต้องเขียนรายละเอียดของการประดิษฐ์ให้ชัดเจน มีเหตุผลที่สามารถนำไปสนับสนุนการพิจารณาเพื่ออนุมัติสิทธิบัตรได้ และ ขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้นจะต้องแตกต่างจากเดิม โดยลักษณะการทำงานและผลลัพธ์ที่จะได้ต้องมีความแตกต่างจากงานประดิษฐ์ชิ้นเดิมอย่างชัดเจน , และ 3. สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม โดยจะต้องเกิดประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมและนำไปใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้อย่างชัดเจน
เมื่อมีสิทธิบัตร อะไร ๆ ก็ง่ายขึ้น เมื่อเราได้รับสิทธิบัตรมาแล้วผู้ถือสิทธิบัตรมีสิทธิในการแสวงหาประโยชน์ที่ได้รับจากการคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็น การผลิตเพื่อจำหน่าย ใช้ ขาย มีไว้เพื่อเสนอขาย หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร
การจดสิทธิบัตรไม่เพียงแต่มีประโยชน์ทางกฎหมาย ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่แข่งที่เลียนแบบได้แต่การจดสิทธิบัตรยังมีประโยชน์ในเชิงธุรกิจซึ่งสำคัญต่อSMEs ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับสินค้าและธุรกิจ อาทิ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าสามารถเพิ่มราคาสินค้าและใช้ความแปลกใหม่เป็นตัวดึงดูดผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น รวมทั้งช่วยให้การขอเครื่องหมายรับรองมาตรฐานหรือคุณภาพอื่น ๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล รวดเร็วขึ้น ,ช่วยเพิ่มช่องทางการเจาะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วได้ง่ายขึ้น เพราะสิทธิบัตรจะเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ,ช่วยเพิ่มโอกาสในการหาเงินทุนเพื่อพัฒนาสินค้าคุ้มครอง โดยสิทธิบัตรด้านการประดิษฐ์จะมีอายุคุ้มครอง 20 ปีขณะที่สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์จะคุ้มครอง 10 ปีนับตั้งแต่วันขอยื่นจดสิทธิบัตร ซึ่งสิทธิบัตรจะเป็นส่วนหนึ่งของหลักประกันกู้ยืนเงินจากสถาบันการเงินได้อย่างหนึ่ง และสุดท้ายช่วยเพิ่มช่องทางการเจาะตลาดภาครัฐ ที่มีมาตรการสนับสนุนทางภาษีและการเงิน
ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่คนไทยให้ความสนใจการจดสิทธิบัตรมากขึ้น โดยข้อมูลจากเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้เปิดเผยสถิติการจดสิทธิบัตรของแต่ละประเทศในปี 2560 ซึ่งประเทศไทยมีผู้จดสิทธิบัตรถึง 2,188 ราย เป็นอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่นที่มี 2,728 ราย โดยคนไทยการจดสิทธิบัตรด้านออกแบบผลิตภัณฑ์มากสุดคือ 2,092 ราย
เชื่อหรือยังว่า การจดสิทธิบัตร นั้นมีแต่ข้อดี สามารถยืนยันความเป็นเจ้าของ การคุ้มครองเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถข้ามผ่านนักก็อปปี้และยืนอยู่บนตลาดได้อย่างยั่งยืน หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจSME และกำลังศึกษาการจดสิทธิบัตร ธนาคาร TMB ได้คัดสรรสิทธิประโยชน์มามอบให้กับลูกค้าที่ใช้บัญชีธุรกิจ TMB SME One Bank เพียงใช้ 300 WOW แลกรับเป็นส่วนลดค่าบริการสืบค้นเครื่องหมายการค้าในประเทศไทยจาก IDG ในราคาพิเศษ 5,400 บาท จากมูลค่าปกติ 6,000 บาท วันนี้ – 31 ธ.ค. 2561
สนใจข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ที่ www.tmbbank.com/bizwow/ หรือศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ TMB SME โทร. 0-2828-2828 วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 8.00 –20.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดธนาคาร