แกรนด์โฮม ผู้นำเรื่องกระเบื้องและวัสดุตกแต่งบ้าน โชว์วิสัยทัศน์ใหม่ ‘ใช้ใจสร้างคุณค่า’ พร้อมเปิดตัวทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่จะมาลุยธุรกิจเคียงคู่ผู้บริหารรุ่นบุกเบิก โดยวางกลยุทธ์รอบด้านเพื่อขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่อนาคต ทั้งกลยุทธ์งานขายโครงการ กลยุทธ์งานขายปลีก และอีคอมเมิร์ซ พร้อมเตรียมเสริมด้วยบริการและธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้สร้างและผู้อยู่อาศัยแบบครบ จบ ในที่เดียว ตั้งเป้าปี 62 กวาดรายได้ทะลุ 5, 200 ล้าน
นางประไพ ทยานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 38 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา แกรนด์โฮมใช้ใจในการสร้างสรรค์ ทุ่มเท ค้นหา ทุกแรงบันดาลใจ ผ่านนวัตกรรมของกระเบื้อง สุขภัณฑ์ วัสดุตกแต่งบ้าน และการบริการใหม่ๆ เพื่อช่วยให้การสร้างและการใช้ชีวิตภายในบ้านมีคุณค่าสูงสุด ด้วยสินค้าแบรนด์ดังทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ พร้อมให้บริการลูกค้าทั้งในตลาดค้าปลีก อีคอมเมิร์ซและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งการที่แกรนด์โฮมใช้ใจเพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทำให้ลูกค้าไว้ใจและเชื่อมั่นที่จะใช้บริการจากแกรนด์โฮมไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน แกรนด์โฮมจึงได้นำจุดเด่นเรื่อง ‘ใช้ใจสร้างคุณค่า’ มากำหนดเป็นวิสัยทัศน์ใหม่ ซึ่งเชื่อมั่นว่าวิสัยทัศน์นี้จะทำให้แกรนด์โฮมเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ภายใต้สโลแกนที่ว่า“คุณค่าที่เหนือกว่าเพื่อบ้าน” (BETTER VALUE FOR LIVING)
“ความไว้วางใจจากลูกค้าทำให้ปีนี้ คาดว่าแกรนด์โฮมจะมีรายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน แกรนด์โฮมขับเคลื่อนด้วย 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจขายโครงการ (Project) ธุรกิจขายปลีก (Retail) โดยมีสัดส่วนรายได้ระหว่างธุรกิจขายโครงการและธุรกิจขายปลีกอยู่ที่ 70 : 30 แต่ในปี 2562 แกรนด์โฮมตั้งเป้าหมายที่จะปรับสัดส่วนรายได้เป็น 60 : 40 และจะมีการบริการและธุรกิจใหม่มาเติมเต็มให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย” นางประไพ กล่าว
นางประไพ กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุผลที่ทำให้มั่นใจในธุรกิจขายปลีกว่า แกรนด์โฮมมีกลยุทธ์ที่จะทำให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจขายปลีกเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย นั่นคือ การแบ่งธุรกิจที่ชัดเจนของโชว์รูมแกรนด์โฮมแต่ละประเภท ได้แก่ Concept, Variety และ Outlet ซึ่งแต่ละประเภทสามารถตอบสนองลูกค้าได้ทั้ง 4 กลุ่ม คือ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ออกแบบ เจ้าของบ้าน และผู้รับเหมา นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มสินค้าที่หลากหลายอีกกว่า 5,000 SKUs จากเดิมที่มีสินค้าประมาณ 60,000 SKUsมีการเติมเต็มบริการใหม่ให้กับลูกค้าด้วยบริการ G – SOLUTIONS รวมทั้งจะมีการทำงานเชิงลึกกับคู่ค้าโครงการมากขึ้น และการเสริมทัพด้วยทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ที่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลเพื่อสร้างแกรนด์โฮมให้เป็นดิจิทัล
รีเทลให้มากขึ้น
ทางด้าน นายพีระพล ทยานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวว่า แกรนด์โฮมจะใช้จุดเด่นที่มีอยู่เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปสู่อนาคตอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการมีเครือข่ายพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนาน การมีแหล่งผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การมีสินค้าในสต๊อกที่เพียงพอและพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็ว รวมทั้งประสบการณ์ต่างๆ ที่สะสมมาเป็นเวลา
กว่า 38 ปี
สำหรับการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายนั้น จะสร้างแกรนด์โฮมให้เป็นมืออาชีพ (Professional) ที่นำเสนอสินค้าที่ตรงเฉพาะกลุ่ม ผ่านโชว์รูม 3 รูปแบบ โดยโชว์รูมประเภท Concept ที่งามวงศ์วาน รองรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ออกแบบ ด้วยรูปแบบการจัดเรียงสินค้าที่เอื้อต่อการสร้างไอเดียและแรงบันดาลใจ สำหรับโชว์รูมประเภท Variety ที่บางนา รัตนาธิเบศร์ และรามอินทรานั้น เน้นความหลากหลายของสินค้าไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ห้องน้ำ ห้องครัว ไลท์ติ้ง พร็อพตกแต่ง และดีไอวาย ส่วนโชว์รูมประเภท Outlet ที่บางบัวทอง ศรีนครินทร์ และกระทิงลาย (ชลบุรี) เน้นสินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับลูกค้ากลุ่มช่าง ผู้รับเหมารายย่อย หรือเจ้าของบ้าน
ส่วนกิจกรรมทางการตลาดที่จะดำเนินการในปี 2562 นั้น แกรนด์โฮมจะเข้าสู่การเป็นดิจิทัลรีเทล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบอีคอมเมิร์ซที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า และจะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมการขายและสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าผ่านช่องทางการสื่อสารทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น
นางสาวพริม ทยานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานขายปลีก บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวถึง กลยุทธ์งานขายปลีกในปี 2562 ว่า กลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ จะใช้กลยุทธ์ Push Strategy โดยจะไปร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยตรง จากเดิมที่ลูกค้าต้องเข้ามาหาที่โชว์รูม รวมทั้งจะขยายฐานลูกค้าไปยังลูกค้าของโครงการที่อยู่อาศัย โดยจัดแคมเปญและนำเสนอบริการร่วมกับโครงการ อาทิ บริการต่อเติมครัว บริการปูกระเบื้องโรงรถ เป็นต้น สำหรับลูกค้าต่างจังหวัด มีแผนที่จะขยายสาขากว่า 10 สาขา เพื่อเข้าถึงกลุ่มช่างและผู้รับเหมารายย่อยให้มากขึ้น
นอกจากนี้ แกรนด์โฮมจะมีบริการใหม่ที่เรียกว่า G – SOLUTIONS ที่จะตอบสนองทุกความต้องการของผู้สร้างและผู้อยู่อาศัยแบบครบ จบ ในที่เดียว ซึ่งประกอบด้วย G–DESIGN บริการสร้างแรงบันดาลใจด้วยเทคโนโลยี 3D VISION ให้ภาพเสมือนจริงแบบ 360 องศา แห่งเดียวในไทย, G–CREATION บริการแปรรูปกระเบื้อง และบริการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน, G–DELIVERY บริการจัดส่งและติดตามการจัดส่ง, G–SERVICEบริการออกแบบและต่อเติมบ้าน บริการติดตั้งวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า, G–ASSISTANT บริการให้ข้อมูลสินค้าและบริการ ผ่าน Call Centerและเว็บไซต์ และ G–LIFESTYLE บริการธุรกิจร้านอาหาร และบริการให้เช่าพื้นที่จัดเลี้ยง พื้นที่ Co working Space ห้องประชุม และห้องสัมมนา
นางสาวนภานันทน์ แม้นชูวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานขายโครงการ บริษัท
แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวเสริมถึงการบุกธุรกิจงานขายโครงการในปี 2562ว่า ปัจจุบันลูกค้าโครงการของแกรนด์โฮมคือผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่นับจากนี้ แกรนด์โฮมมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าไปสู่ทุกระดับ รวมไปถึงผู้ออกแบบ โดยมีการพัฒนาทีมขายขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ออกแบบ นอกจากนี้ แกรนด์โฮมจะมุ่งสรรหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของโครงการแต่ละแห่ง อาทิ โครงการบ้านพักอาศัยที่เน้นกลุ่มผู้สูงอายุ โครงการบ้านพักอาศัยแบบ Smart Home และโครงการ Co Working Space เป็นต้น รวมทั้งจะมีการนำเสนอสินค้า House Brand เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าโครงการด้วย