ไขความลับ “กิฟฟารีน ปัณจะ ภูตะ” สมุนไพร 39 ชนิด 100% จาก 3 ศาสตร์ ไทย จีน อินเดีย

ชีวิตจริงของคนในยุคนี้พบว่า เป็นโรควิถีชีวิต (Life Style Diseases) หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุลในเรื่องการกิน การอยู่ เช่น กินอาหารผิดส่วนทั้งในเรื่องของคุณภาพและปริมาณ ได้รับสารพิษ สารก่อมะเร็งจากมลภาวะต่างๆ ความเครียด และขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม ทำให้ร่างกายต่อสู้กับโรคร้ายไม่ได้ ดังนั้น การใช้ชีวิตให้สมดุลจากการกิน อยู่ จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่จะเพิ่มความผิดปกติของอวัยวะในร่างกาย ส่วนการเลือกรับประทานอาหาร นอกจากจะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว จะต้องเลือกให้ร่างกายเกิดความสมดุลด้วย อย่างในศาสตร์ของไทย อินเดีย คือการรับประทานให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือน ศาสตร์จีน คือ การับประทานให้ครอบคลุมทั้งหยิน-หยาง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานตามศาสตร์ไหนก็ตาม พบว่าทั้ง 3 ศาสตร์ มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของการรับประทานอาหารที่ได้สมดุลทั้ง เย็น เย็นกลาง อุ่น ร้อน เพื่อให้ร่างกายเกิดความสมดุล ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย

อย่างการปรับสมดุลร่างกายด้วย “กิฟฟารีน ปัณจะ ภูตะ” เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร 39 ชนิด 100%เป็นการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้มาซึ่งสุดยอดสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเด่นและมีสรรพคุณเป็นที่กล่าวขานว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีการใช้ในตำรับยาสมุนไพร เพื่อการเสริมสร้างสุขภาพ บำบัดโรคต่างๆ และใช้เป็นยาอายุวัฒนะในราชวงศ์มาอย่างยาวนาน กว่า 4,000 ปี ประกอบไปด้วย

สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น 14 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย ดอกเก็กฮวย บัวบก เตยหอม มะตูม หม่อน หญ้าลิ้นงู รากหญ้าคา บัวหลวง เสกตี่ หล่อฮังก้วย เถาวัลย์เปรียง และพลูคาว

สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นกลาง 6 ชนิด ได้แก่ ตังเซียม เก๋ากี้ เห็ดหลินจือสกัด เห็ดหูหนูขาว ชะเอมเทศ และดอกอัญชัน สมุนไพรที่มีฤทธิ์อุ่น 13 ชนิด ได้แก่ สมอเทศ กระวานเทศ อบเชยเทศ จันทร์เทศ กานพลู ผักชีล้อม ดอกคำฝอย พุทราจีน ปักคี้ เซียนจา โสมเกาหลีสกัด ถั่งเช่า และกระเจี๊ยบแดง

สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน 6 ชนิด ได้แก่ เทียนเกล็ดหอย สมอพิเภท สะระแหน่ ขิง กระชายดำ และแปะตุ๊ก ซึ่งคุณสมบัติเด่นทั้งพลังหยินและหยาง (เย็นและร้อน) โดยคิดค้นส่วนผสมเพื่อให้ดื่มได้ทุกวัน ด้วยการบริโภคตามคำแนะนำคือ 30 ซีซี /วัน จะให้ปริมาณสารสำคัญจากสมุนไพร 39 ชนิด ที่เพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ และพอเหมาะสำหรับกำจัดออกที่ตับ ขับออกที่ไตได้อย่างไม่เป็นอันตราย และที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบและการควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้สารสำคัญเต็มที่ตามปริมาณที่กำหนดและปราศจากสารเจือปนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ