ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดตัว “ซิตี้แบงก์ โกลบอล วอลเลท” (Citibank Global Wallet) บริการล่าสุด ที่เชื่อมบัตรซิตี้แบงก์ เดบิต มาสเตอร์การ์ด บริการล่าสุด ที่เชื่อมบัตรซิตี้แบงก์ เดบิต มาสเตอร์การ์ด เข้ากับบัญชีออมทรัพย์สกุลเงินต่างๆ ที่ลูกค้าเปิดไว้ สูงสุดถึง 9 สกุลเงิน ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถบริหารควบคุม และทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศ ในสกุลเงินต่างๆ ในอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถควบคุมได้เอง สูงสุดถึง 9 สกุลเงิน ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน “ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน” ตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว ช้อปปิ้งต่างประเทศ ออนไลน์ช้อปปิ้ง และกลุ่มผู้ที่ต้องทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศ ข้ามสกุลเงิน อยู่เป็นประจำ ซึ่งลูกค้าสามารถโอนเงินระหว่างธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แลกเปลี่ยนเงินข้ามบัญชีของตนเอง ถอนเงินสดด้วยบัตรซิตี้แบงก์ เดบิต มาสเตอร์การ์ด ผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก และทำธุรกรรมข้ามสกุลเงินได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการถอนเงิน ค่าแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และค่าธรรมเนียมการใช้บัตร ฯลฯ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ https://www.citibank.co.th/citibank-global-wallet
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้ทำการเปิดตัวแอปพลิเคชันโฉมใหม่ในชื่อ “ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน” (Citi Mobile® Application) โดยเน้นการใช้งานที่ง่าย และเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายให้กับลูกค้าซิตี้ โดยล่าสุด ซิตี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้ากลุ่มบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง ได้แก่ “ซิตี้แบงก์ โกลบอล วอลเลท” (Citibank Global Wallet) ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่สามารถเชื่อมบัตรซิตี้แบงก์ เดบิต มาสเตอร์การ์ด เข้ากับบัญชีออมทรัพย์สกุลเงินต่างๆ ที่ลูกค้าซิตี้เปิดไว้ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือบัตรสามารถบริหารควบคุม และทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศ ในสกุลเงินต่างๆ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่สามารถควบคุมได้เอง สูงถึง 9 สกุลเงิน ได้แก่ 1. บาทไทย 2. ดอลลาร์สหรัฐฯ 3. ยูโร 4. เยน 5. ดอลลาร์สิงคโปร์ 6. ดอลลาร์ฮ่องกง 7. ดอลลาร์ออสเตรเลีย 8. ฟรังก์สวิส และ 9. ปอนด์สเตอร์ลิง โดยลูกค้าผู้ถือบัตรสามารถเปิดใช้งานบริการดังกล่าวได้ด้วยตนเอง ผ่าน“ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน” (Citi Mobile® Application)
นายดอน กล่าวเพิ่มว่า ผู้ถือบัตรที่เปิดใช้งานบริการดังกล่าว ยังสามารถโอนเงินระหว่างธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สูงสุดถึง 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) และแลกเปลี่ยนเงินระหว่างบัญชีของตนเอง ใน 9 สกุลเงินข้างต้น สูงสุดถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6 แสนบาท) ได้แบบเรียลไทม์ ถอนเงินสดด้วยบัตรซิตี้แบงก์ เดบิต มาสเตอร์การ์ด จากตู้เอทีเอ็มของธนาคารซิตี้แบงก์กว่า 13,000 แห่งทั่วโลก โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการถอนเงิน ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้บัตรซื้อสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งระบบจะตรวจสอบสกุลเงินที่ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านบัตร เพื่อตัดจากบัญชีสกุลเงินดังกล่าวของลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ
“ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดบริการดังกล่าว เพื่อตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าซิตี้แบงก์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว ผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งต่างประเทศ และออนไลน์ช้อปปิ้ง หรือสำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องทำธุรกรรมทางการเงินข้ามประเทศ ข้ามสกุลเงิน อยู่เป็นประจำ อาทิ ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานศึกษาต่างประเทศ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอยู่ในต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนการเงินสำหรับการเดินทางง่ายขึ้น ประหยัดค่าธรรมเนียม และค่าบริการต่างๆ มากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ การถือบัญชีออมทรัพย์กับธนาคารซิตี้แบงก์ ยังให้ลูกค้าเข้าถึงเอกสิทธิ์ด้านการบริการเหนือระดับอื่นๆ อาทิ บริการ Emergency Cash ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ลูกค้าสามารถขอเบิกถอนเงินสดฉุกเฉิน สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 350,000 บาท) ได้ที่สาขาธนาคารซิตี้แบงก์ทั่วโลก บริการ MasterCard Airport Experiences ด้วย LoungeKey ที่ให้ลูกค้าเข้าถึงกว่า 1,000 ห้องรับรอง ในสนามบินกว่า 500 แห่งทั่วโลก พร้อมด้วยสิทธิพิเศษ และส่วนลดสำหรับร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และบริการนวดเพื่อสุขภาพ (Spa) ภายในสนามบิน เป็นต้น ทั้งนี้ บริการดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์สำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ ในกลุ่มบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Wealth Management) ของธนาคาร นายดอน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th/citibank-global-wallet