เปิดตัวหนังสือใหม่ พร้อมแนะแนวทางกำหนดนโยบายเกี่ยวกับธุรกิจการเปิดที่พักส่วนตัวให้เช่า ที่กำลังมีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก

หนังสือ At Home Around the World รวบรวมข้อมูลมากมายที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ธุรกิจการเปิดบ้านให้เช่าเติบโตขึ้นอย่างมาก และส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจทั่วโลก หนังสือรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยสำคัญ ซึ่งเผยให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจการเปิดบ้านให้เช่า มูลค่าและประโยชน์ที่เจ้าของบ้าน นักเดินทาง รวมถึงชุมชนน้อยใหญ่ได้รับจากธุรกิจนี้

หนังสือ At Home Around the World: The Short-Term Rentals Handbook for Guests, Hosts, Neighbors and Governments เป็นผลงานการเขียนของ มร. โรเบิร์ต โรเซ็นสไตน์ และ มร. ปีเตอร์ อัลเลน ผู้เชี่ยวชาญซึ่งคร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมการเดินทางมาอย่างยาวนาน คู่มือสำหรับธุรกิจการให้เช่าที่พักระยะสั้นเล่มนี้ อธิบายว่าการเปิดบ้านให้เช่าเพื่อการพักผ่อนมอบรายได้ทางภาษีให้แก่เมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางอย่างไร และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมรอง ตำแหน่งงานใหม่ๆ และเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจต่างๆในชุมชนอย่างไร

มร. โรเบิร์ต โรเซ็นสไตน์ กล่าวว่า “จากการพูดคุยกับหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ให้การสนับสนุนในพื้นที่จากทั่วโลก เราค้นพบว่ารัฐบาลยังขาดข้อมูลที่จะทำความเข้าใจและคาดการณ์ว่าธุรกิจการเปิดบ้านให้เช่าจะมีบทบาทอย่างไรต่อเมืองของตนเอง เนื่องจากธุรกิจนี้ค่อนข้างใหม่ การกำหนดกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ มารองรับจึงเขียนขึ้นอย่างเร่งรีบ เราจึงอยากรวบรวมบทเรียนที่ได้จากการณ์นี้ และบอกเล่าว่าการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จมีวิธีอย่างไร”

หนังสือเล่มนี้ระบุว่า เศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ทั่วโลกกำลังเติบโตขึ้น 30% ต่อปี ขณะที่ธุรกิจการให้เช่าที่พักแบบดั้งเดิม ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโต 3% ต่อปี และภายในปีพ.ศ. 2568 เศรษฐกิจแบ่งปันจะเติบโตจนมีขนาดเท่าตลาดที่พักให้เช่าแบบดั้งเดิม* นอกจากนี้ยังมีการคะเนว่า รายได้รวมทั่วโลกจากอุตสาหกรรมเปิดบ้านให้เช่าเพียงอย่างเดียวจะสูงถึง 169 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อถึงสิ้นปีนี้** ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นประมาณ 2-4 เท่า และเป็นการเติบโตที่รวดเร็วเท่ากับเศรษฐกิจโลก***

ผู้เขียนยังกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งที่เป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกเกี่ยวกับธุรกิจนี้ แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจของการเปิดบ้านให้เช่า นับแต่รายได้ทางภาษีของทั่วโลกซึ่งประมาณการณ์ไว้ที่ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสองทศวรรษข้างหน้า การเกิดอุตสาหกรรมใหม่เพื่อรองรับภาคส่วนนี้ นับแต่บริการทำความสะอาด บริการดูแลความปลอดภัย ไปจนถึงการชำระเงิน และแพลตฟอร์มสำหรับทำการตลาด แน่นอนว่าเมื่อเกิดอุตสาหกรรมเหล่านี้ การจ้างงานในตำแหน่งใหม่ๆก็ย่อมเกิดขึ้นตามมา ซึ่งหลายตำแหน่งงานจะเกิดขึ้นในชุมชนที่ที่พักให้เช่าตั้งอยู่

มร. ปีเตอร์ อัลเลน ยังกล่าวถึงข้อดีอีก 2 ข้อ คือ “ในช่วงที่มีงานอีเวนต์ต่างๆ ที่พักส่วนตัวให้เช่าจะช่วยเสริมให้มีบริการที่พักเพียงพอ ทั้งยังช่วยหน่วยงานท้องถิ่นให้สามารถรับมือกับจำนวนนักเดินทางที่เพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ และช่วยนำทรัพยากรต่างๆมาสู่ชุมชน นอกจากนี้ยังมีรายงานที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อเทียบกับโรงแรมแล้ว นักเดินทางที่ใช้บริการที่พักส่วนตัวจะพักอาศัยอยู่นานขึ้น 25-50% ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการนำประโยชน์มาสู่เศรษฐกิจชุมชน”

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าธุรกิจโรงแรมจะหายไป การเติบโตของที่พักส่วนตัวให้เช่าจะดึงดูดคนให้เดินทางมากขึ้น และช่วยให้นักเดินทางเหล่านี้พักอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการที่แตกต่างไปจากการจองที่พักแบบโรงแรม แน่นอนว่าเมื่อภาคส่วนใหม่นี้เติบโตขึ้นจนมีขนาดใหญ่ ตลาดก็ต้องปรับตัวตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผู้เขียนได้ให้ความเห็นไว้ว่า ตลาดการเดินทางโดยรวมจะขยายตัว และการเติบโตของธุรกิจที่พักส่วนตัวให้เช่าจะกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม บริษัทใหม่ๆ และตำหน่งงานใหม่ๆ

หนังสือเล่มนี้ยังพิจารณากฎระเบียบและนโยบายที่หลากหลายจากทั่วโลก ทั้งที่มีผลบังคับใช้แล้วและที่ได้รับการเสนอให้บังคับใช้ ทั้งนี้ ผู้เขียนได้เสนอแนะให้มีการออกกฎระเบียบที่สมเหตุสมผล ซึ่งคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด โดยยึดหลักการ 4 ข้อต่อไปนี้

• การตั้งข้อจำกัดที่ยืดหยุ่นได้ ไม่ห้ามขาด

• การลดเงื่อนไขการออกใบอนุญาตและการขึ้นทะเบียนที่พัก

• การทำให้การเก็บภาษีเป็นเรื่องง่ายและเป็นธรรม

• การเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการที่พักในท้องถิ่น

คู่มือที่พักส่วนตัวให้เช่านี้เป็นหนังสือสำหรับทุกคน โดยสองบทแรกมีเนื้อหาสำหรับเจ้าของที่พักและผู้เข้าพัก ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูล ตัวอย่างการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าของและผู้เข้าพัก ไปจนถึงคำแนะนำที่ใช้ได้จริง

At Home Around the World มีจำหน่ายในรูปแบบหนังสือและ ebook ที่เว็บไซต์ Amazon สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและหนังสือในรูปแบบไฟล์ PDF สามารถดูได้ที่ https://www.vacationrentalhandbook.com/

หมายเหตุ

* จากรายงาน Consumer Intelligence Series, The Sharing Economy- Price Waterhouse Cooper, 2014

** จากรายงาน Skift 2017 Market Analysis Report

*** จากรายงาน Home Away’s 2017 Annual Summit

เกี่ยวกับผู้เขียน

มร. โรเบิร์ต โรเซ็นสไตน์ เป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Agoda Company Pte. Ltd. ยักษ์ใหญ่ด้านการจองการเดินทางออนไลน์ และเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Booking Holdings บริษัทการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดของโลกในด้านมูลค่าตลาด Rosenstein มุ่งเน้นกลยุทธ์การลงทุนและการดำเนินงานในเอเชียแปซิฟิกสำหรับ Booking Holdings ซึ่งเข้าซื้อกิจการของ Agoda ในปีพ.ศ. 2550 ทั้งยังเป็นเจ้าของ KAYAK, Priceline.com, Rentalcars.com, Booking.com, Rocketmiles และ OpenTable นอกจากนี้ Rosenstein ยังได้รับการจารึกชื่อลงในหอเกียรติยศของ Web of Travel (WIT) ในปีพ.ศ. 2560 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในธุรกิจนี้

มร. ปีเตอร์ อัลเลน เป็นกรรมการผู้จัดการของ Agoda Outside แผนกงานหนึ่งของ Agoda.com ที่ดูแลโครงการพัฒนาและกิจการสาธารณะ โดย Allen มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับปัญหาในทวีปเอเชียด้านการเดินทางและท่องเที่ยว นอกจากนี้ Allen ยังเป็นที่ปรึกษาของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวของโลก (WTTC) และเคยสอนที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน วิทยาลัยโปโมนา มหาวิทยาลัยชิคาโก และวิทยาลัยธุรกิจนันยาง ประเทศสิงคโปร์ Allen มีผลงานเขียนมากมาย ทั้งยังสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยและโรงเรียนธุรกิจหลายแห่ง

เกี่ยวกับอโกด้า

อโกด้าเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการการจองที่พักออนไลน์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก บริษัทสตาร์ทอัพนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 และขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยให้บริการที่พักกว่า 2 ล้านแห่ง ใน 220 ประเทศ นำเสนอที่พักหลากหลาย เหมาะต่อการเดินทางทุกรูปแบบและทุกงบประมาณ นับแต่โรงแรมหรูหรา-ราคาประหยัด อพาร์ตเมนต์ บ้านพักส่วนตัว หรือวิลลา เป็นต้น

อโกด้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NasDaq BKNG) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ และสำนักงานย่อยอีก 53 แห่ง ในเมืองใหญ่กว่า 30 ประเทศ พร้อมพนักงานกว่า 4,000 คน เว็บไซต์ Agoda.com และแอปพลิเคชั่นอโกด้า มีให้บริการในภาษาต่างๆ 38 ภาษา