การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับมือ ไอคอนสยาม, บริษัท ดิ ไอคอนสยามเรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน ทุ่มกว่า 100 ล้านบาทจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2019” ดึงคนร่วมฉลองปีใหม่ริมน้ำจ้าพระยา ตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก ขณะที่ไอคอนสยาม ร่วมอัดโปรโมชั่นลด 70% มั่นใจพาคนเข้าห้างได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนต่อวัน
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บอกว่า AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 เป็นกิจกรรมใหญ่ส่งท้ายปีที่ ททท. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดสติเนชั่นที่หลากหลายของไทย เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการเดินทางของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ในช่วงเทศกาลสู่ทุกภูมิภาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยังเป็นการมอบของขวัญปีใหม่และส่งความสุขให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยปีนี้ ททท. กำหนดจัดกิจกรรมทั้งหมด 5 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ 4 เมืองรองอย่าง จ.นครพนม, จ.เชียงราย, จ.ราชบุรี และ จ.สตูล
เฉพาะที่กรุงเทพฯ ททท. ร่วมกับ ไอคอนสยาม และองค์กรพันธมิตรซี่งมีทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน ผู้ประกอบการ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 2 ฝั่ง ได้แก่ สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, กรมเจ้าท่า, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย, สมาคมเรือไทย, โครงการความร่วมมือพันธมิตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาวางแผนการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ( 31 ธค.) ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร ณ พื้นที่เวทีหลักที่ ริเวอร์พาร์คไอคอนสยาม โดยกิจกรรมหลักจะเป็นการแสดง แสง สี เสียง, การตกแต่ง ประดับประดาสถานที่, กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รวมทั้งการแสดงพลุชุดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเป็นการจุดประกายความเรืองรองของสายน้ำเจ้าพระยาให้สว่างไสวในสายตาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
“เรามองว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสายหลักที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน โดยเฉพาะบริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่ชุมชนเก่าแก่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนเองก็โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตรงนี้สามารถมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ครบทุกมิติ ซึ่งงานในวันนั้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1 ล้านคน นอกจากจะสร้างสีสันและบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปีให้เมืองไทยแล้วยังเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วย”
ณรงค์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกว่า การจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2019 ครั้งนี้ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เป็นเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและเป็นการลงขันร่วมกันของภาคเอกชนและกลุ่มธุรกิจริมน้ำเจ้าพระยา
“ในฐานะที่ไอคอนสยามเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของประเทศไทย และ ททท. ได้เลือกไอคอนสยามเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว เราจึงประสานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการในพื้นที่ และชุมชน เตรียมการจัดงานกิจกรรมให้ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความจดจำ ให้นักท่องเที่ยว โดยมีกิจกรรมไฮไลท์สำคัญที่ต้องจับตามองได้แก่ การแสดงพลุที่ทำจากข้าวเหนียวไทยจะบนผืนแม่น้ำเจ้าพระยาระยะทางกว่า 1,400 เมตรถือเป็นการแสดงพลุที่มีระยะทางยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมา”
ขณะที่ สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เชื่อมั่นว่า “Amazing Thailand Countdown 2019” จะสามารถดึงคนเข้าร่วมงานได้มากถึง 1 ล้านคนต่อวัน โดยในส่วนของไอคอนสยามได้จัดสรรงบประมาณสำหรับกิจกรรมเคาท์ดาวน์ที่ถือว่ายิ่งใหญ่ในกรุงเทพฯร่วมกับพันธมิตรได้กว่า 100 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของไอคอนสยาม ซึ่งมีร้านค้ากว่า 500 แห่ง ได้จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าสูงสุด 70% รวมทั้งโซน รวมทั้งโซน “สุขสยาม” ที่เราได้สร้างพื้นที่ที่เป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นเมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย ความสุขของคนไทยมีหลายมิติ ทั้งชมงานศิลป์ อิ่มอร่อยกับอาหารการกิน ช็อปปิ้งสินค้า ทั้งเหนือ อีสาน ใต้ มีกิจกรรมและนำเสนอสินค้าของดีจาก 77 จังหวัด
“นอกเหนือจากพื้นที่จัดงานซึ่งประกอบด้วยร้านค้าและโรงแรมที่ร่วมงานตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ล้านคนแล้ว ในส่วนของไอคอนสยามเองเราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและลูกค้ามาใช้บริการในไอคอนสยามมากกว่า 2 แสนคน เพราะตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ยิ่งมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจเช่นนี้ก็มีความเป็นไปได้มาก”
สำหรับการแสดงพลุข้าวเหนียวมีจำนวนทั้งสิ้น 5 องก์ ความยาวประมาณ 5 นาที มีเรือเป็นจุดยิงพลุทั้งสิ้น 5 จุด รอบโค้งน้ำ ทำให้การแสดงพลุสามารถมองเห็นได้เป็นระยะทางกว่า 1,400 เมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ อาทิโรงแรมเพนนินซูลา, โรงแรมมิลเลนเนียล ฮิลตัน, โรงแรมแชงกรี-ลา, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล และโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
นอกจากนั้น ยังสามารถรับชมการแสดงพลุครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้จากพื้นที่ต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น สะพานสาธร, สวนเฉลิมพระเกียรติ, ท่าเรือสาธร, สถานีตำรวจน้ำ 2, ท่าเรือคลองสาน, ลานจอดรถสำเพ็ง, CAT สาขาบางรัก, ท่าเรือวัดสุวรรณ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ล้ง 1919 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมพลุนี้มากกว่า 1 ล้านคนในรัศมี 2 กิโลเมตร
ในส่วนของการแสดงพลุข้าวเหนียวจำนวน 5 องก์ ประกอบด้วย องก์ที่ 1 – สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองอันเป็นนิรันดร์ (The River of Prosperity) นำเสนอพลุสีเงิน ทอง และนาก ที่เรียงต่อเป็นแนวเดียวกัน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองมั่งคั่ง
องก์ที่ 2 – มณีแห่งสยาม (The Siam Treasure) นำเสนอผ่านพลุที่มีรูปแบบและสีสันอันงดงามสะท้อนภาพของอารยธรรมไทยที่มีความสัมพันธ์กับแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงทุกมิติของชีวิตคนไทยเข้าไว้ด้วยกัน
องก์ที่ 3 – บุปผชาติแห่งผืนน้ำ (The Blossom of Joy) นำเสนอพลุที่สร้างความสนุกสนานที่หลากหลายรูปแบบ สีสันนานา ประกอบเพลงจังหวะสนุกแบบไทย
องก์ที่ 4 – สันติภาพบนผืนโลก (One World) เป็นพลุสีธงชาติของทุกประเทศบนโลก แสดงถึง ความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกันทั่วโลก
องก์ที่ 5 – รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย (Thailand) พลุสีธงชาติไทย สร้างขึ้นเป็นธงไตรรงค์ผืนใหญ่ตลอดโค้งน้ำ ด้วยสีแดง ขาว น้ำเงิน สะท้อนถึงสิ่งที่ทำให้ไทยยังคงเป็นชาติมาจนปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการแสดงโขน เฉลิมฉลองโอกาสที่องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องรับรอง “โขน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันจับต้องไม่ได้ เป็นการแสดงแห่งมวลมนุษยชาติ ในชุด “ยกรบ” รวมถึงการแสดงสดจากศิลปินไทยและต่างประเทศชั้นนำเพื่อมอบความสุขในเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้น จะมีขึ้นบนเวทีริเวอร์พาร์ค ที่สามารถรองรับคนดูได้สูงถึง 4,000 คน