“เชลล์” ขอบคุณความไว้วางใจจากผู้ขับขี่ขาวไทย ตอกย้ำคุณภาพผลิตภัณฑ์ และความแข็งแกร่งของแบรนด์ คว้าสองรางวัลจากงาน TAQA 2018

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ขอบคุณความไว้วางใจของผู้บริโภคชาวไทยที่มีอย่างยาวนานต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิงเชลล์ พร้อมตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์เชลล์ด้วยการคว้า 2 รางวัลจากที่มาจากการลงคะแนนจากผู้ขับขี่ทั่วประเทศ ในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมแห่งปี 2561 หรือ Thailand Automotive Quality Award (TAQA) 2018 จัดโดยสถาบันยานยนต์ ร่วมกับสื่อสากล สื่อในเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทวิจัย คัสต้อม เอเชีย โดยได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.สมชาย หาญหิรัญ เป็นประธานมอบรางวัล ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงของเชลล์ คว้ารางวัล ธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง และ ยังคงคว้ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ ประเภทน้ำมันหล่อลื่น ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงอย่าง “เชลล์ เฮลิกส์” นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแบรนด์ “เชลล์” ที่ผู้ขับขี่ชาวไทยให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

นางสาววีธรา ตระกูลบุญ กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด  กล่าวว่า “เชลล์ขอขอบคุณผู้ขับขี่ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นของบริษัทฯ จากการลงคะแนนให้เราได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 2 รางวัลในครั้งนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงอย่าง ‘เชลล์ เฮลิกส์’ ได้รับรางวัลในประเภทน้ำมันหล่อลื่นติดต่อกันถึงปีที่ 5 ทำให้เราได้รับการยกย่องในระดับ Excellence Award อีกด้วย ความสำเร็จในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากที่เชลล์เข้าใจความต้องการของผู้ขับขี่และแนวโน้มธุรกิจยานยนต์เป็นอย่างดี ความร่วมมือทางเทคนิคและพันธมิตรระดับโลก และการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เชลล์สามารถมอบความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราเสมอมา สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเชลล์ที่จะเติมสุขให้ทุกชีวิต”

ทางด้าน นางสาว อรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงรางวัลในประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้รับว่า “เชลล์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เพราะทุกคะแนนนั้นมาจากผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ขับขี่ทั่วประเทศจริงๆ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าผู้ขับขี่ชาวไทยเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นเชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 หรือ เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไดนาเฟล็กซ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มความแรงและช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงสุดที่เชลล์ตั้งใจมอบให้ลูกค้าในผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงของเรา”

สองรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ที่ได้รับนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเชลล์ที่จะยังคงพัฒนานวัตกรรม ทำงานร่วมกับพันธมิตร และพัฒนาบุคลากร เพื่อส่งมอบ “พลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม” ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศไทย และเพื่อขับเคลื่อนพลังงานไทยในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

เกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นของเชลล์ในประเทศไทย

เชลล์ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันกว่า 520 แห่งในประเทศไทย โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมกว่า 800 แห่งทั่วประเทศในอนาคต นอกจากการส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพแล้ว เชลล์ยังเดินหน้าพัฒนาการให้บริการด้านธุรกิจนอนออยล์ในสถานีบริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าสะดวกซื้อซีเล็ค ร้านกาแฟ เดลี่ คาเฟ่ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเชลล์ เฮลิกส์ พลัส และศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องรถจักรยานยนต์เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ มอเตอร์ แคร์ เอ็กซ์เพรส โดยในปีนี้ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของเชลล์ เนื่องจากบริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศ “สุดยอดส้วมแห่งปี 2560”ประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

เชลล์เป็นผู้นำเทคโนโลยีน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันถึง 11 ปีซ้อน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เชลล์ได้เปิดตัว เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า 0W-20 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน สูตรใหม่ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเพียวพลัส (PurePlus Technology) นวัตกรรมสิทธิ์เฉพาะของเชลล์ ที่มีการนำเทคโนโลยี gas-to-liquids (GTL) มาเปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้เป็นน้ำมันพื้นฐานที่มีความบริสุทธิ์สูง จึงมีความโดดเด่นในด้านการส่งเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ ปกป้องเครื่องอย่างเต็มที่แม้ในอุณหภูมิสูงของประเทศไทย และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยมลภาวะ