บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พาสมาชิกปอดเหล็กตามรอยนักวิ่งระดับโลก ใน “บีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน 2018”

ด้วยความมุ่งมั่นในการมอบความสุขที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่สุนทรียภาพในการขับขี่ แต่ยังครอบคลุมถึงไลฟ์สไตล์ด้านอื่น ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้มอบสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต โดยพาสมาชิกในโปรแกรม The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอย เอ็กซ์พีเรียนซ์) ตีตั๋วไปวิ่งตามรอยนักวิ่งระดับโลกกับทริปบีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน 2018 – #มิชชั่นเบอร์ลิน (BMW Berlin Marathon 2018 – #missionberlin) มหกรรมการวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งมีความเอ็กซ์คลูซีฟมากขึ้น ด้วยการจัดโปรแกรมซ้อมวิ่งกับ “ครูดิน” สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย ที่ร่วมเดินทางไปลงสนามพร้อมกับสมาชิก และปีนี้ทุกคนต่างได้รับประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน นั่นคือ การได้วิ่งบนสนามที่มีการทำลายสถิติโลกครั้งใหม่ในวันเดียวกัน!

เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวถึงความพิเศษของทริปที่นักวิ่งทุกคนต่างรอคอย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ ภายใต้โปรแกรม “The Ultimate JOY Experience” ว่า “เบอร์ลินมาราธอนเป็นหนึ่งในหกเมเจอร์มาราธอนระดับโลก ที่นักวิ่งปรารถนาจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งแต่มีโอกาสไปได้ยากมาก บีเอ็มดับเบิลยู ในฐานะสปอนเซอร์หลักที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพาสมาชิกไปพิชิตความสำเร็จ และมอบประสบการณ์ที่ยากสัมผัสนี้ให้เป็นจริง นอกจากนี้ยังพาสมาชิกไปทดลองนั่งรถบีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ ๆ ที่ ‘บีเอ็มดับเบิลยู เวลท์’ (BMW Welt) หรือบีเอ็มดับเบิลยู เวิลด์ (BMW World) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโลกแห่งยนตรกรรมที่เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสุดโมเดิร์นระดับโลก ออกแบบโดยศาสตราจารย์ วูล์ฟ ดี ปริกซ์ (Professor Wolf D Prix) จาก COOP HIMMELB(L)AU บริษัทสถาปนิกชื่อดัง โดยดีไซน์อาคารแห่งนี้มาในคอนเซ็ปต์ ‘พายุหมุนกับทิวเมฆ’ และออกแบบเป็นทรง double cone ที่สะท้อนภาพลักษณ์อันทันสมัย

“รวมทั้งได้เดินชมบีเอ็มดับเบิลยู มิวเซียม (BMW Museum) ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามและเป็นส่วนหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู เวลท์ ตัวอาคารมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ส่วนด้านในจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นเจ๋งๆ ของจริง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนไฮไลต์ของมิวเซียมในครั้งนี้ที่ดึงดูดให้หลายคนต้องหยุดเก็บภาพ คือ นิทรรศการหมุนเวียนที่มีชื่อว่า ‘BMW i MemphisStyle’ โดย Memphis Group กลุ่มศิลปินที่มีสไตล์โดดเด่นด้วยดีไซน์อาร์ตเดคโค (art deco) รูปทรงเรขาคณิต และสีสันแบบป็อบอาร์ต ซึ่ง BMW i3 และ BMW i8 รับหน้าที่เป็นอาร์ตคาร์ในครั้งนี้”

ไม่เพียงเท่านี้ โปรแกรม The Ultimate JOY Experience ได้สร้างสรรค์กิจกรรมขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้สมาชิกได้เตรียมความพร้อม และปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับสภาพอากาศของเยอรมนี อาทิ การซ้อมวิ่งที่ ‘The Englische Garten’ หนึ่งในสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีครูดินช่วยปรับท่าการวิ่งให้แบบตัวต่อตัว และสอนเทคนิคการวิ่งมาราธอนในสนามระดับเวิลด์เมเจอร์ ให้ก่อนลงสนามจริง ทั้งเทคนิคการวิ่งยาว อาหารการกินก่อนวิ่งและหลังวิ่ง การปัสสาวะระหว่างวิ่ง การป้องกันการเป็นตะคริว ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี และอุณหภูมิกำลังดี ประมาณ 20 องศา

“ครูดิน” สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติ และโค้ชรับเชิญพิเศษของทริป กล่าวถึงประสบการณ์วิ่งมาราธอนในสนามที่มีการทำลายสถิติโลกในปีนี้ว่า “ครั้งนี้เป็นมาราธอนที่วิ่งสนุกที่สุด ประทับใจทั้งเส้นทางและกองเชียร์ที่มาร่วมงาน ซึ่งมีหลายเชื้อชาติ มาจากหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างจากสนามเวิลด์เมเจอร์อื่นๆ และเชียร์กันอย่างสนุกสนาน ทำให้เราคึกคักตามไปด้วย สนามนี้ยังมีมนต์ขลังและเต็มไปด้วยเสน่ห์ เป็นสนามที่นักวิ่งทุกคนใฝ่ฝันว่าจะสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่วิ่งผ่านประตูชัยบรันเดินบวร์ค รู้สึกขนลุก อลังการและยิ่งใหญ่มาก รวมทั้งได้มีโอกาสวิ่งบนเส้นทางเดียวกับเอลีอุด คิปโชเก้ (Eliud Kipchoge) นักวิ่งระดับโลกและเป็นเส้นทางที่มีการทำลายสถิติโลกครั้งนี้อีกด้วย”

“ที่สำคัญต้องขอบคุณโปรแกรม The Ultimate JOY Exeperience ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ให้เกียรติเชิญผมมาเป็นผู้ฝึกสอนพิเศษตั้งแต่ปีที่แล้ว และเชิญให้ร่วมวิ่งในงานบีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน ในปีนี้ด้วย นอกจากได้เก็บแต้มการวิ่งมาราธอนในสนามระดับเวิลด์เมเจอร์แล้ว ยังมีโอกาสได้ชมบีเอ็มดับเบิลยู เวลท์และมิวเซียม ได้ตื่นตากับนวัตกรรมล้ำสมัย และซาบซึ้งกับประวัติศาสตร์อันยาวนานความเป็นมาของรถบีเอ็มดับเบิลยูที่มีความคลาสสิกมาก ๆ รวมทั้งประทับใจสมาชิกร่วมทริปทุกคน ที่มีความตั้งใจในการวิ่งแบบสุดยอด ซึ่งฉายแววกันตั้งแต่ตอนซ้อมเลย และสิ่งที่ทำให้ครูรู้สึกดีมาก ๆ คือ ทุกคนมีเป้าหมายมากกว่าสถิติ คือ ความสุขและความสนุกในการวิ่งในสนามระดับเวิลด์เมเจอร์แห่งนี้”

นอกจากนี้ สมาชิกทริปยังได้มีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เพราะได้วิ่งบนสนามที่มีการทำลายสถิติโลกครั้งใหม่ในปีนี้ และได้วิ่งตามรอย คิปโชเก้ นักวิ่งผู้ทำลายสถิตมาราธอนโลกด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที ในขณะที่เหรียญสำหรับผู้วิ่งเข้าเส้นชัยปีนี้ มีภาพสลักเป็น คิปโชเก้ ในฐานะผู้ชนะการวิ่งมาราธอนโอลิมปิคในปี ค.ศ.2016 เรียกได้ว่า ทริป BMW Berlin Marathon 2018-#MissionBerlin พาทุกคนไปทำ #MissionBerlin ได้สำเร็จ พร้อมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในทุกด้านอย่างแท้จริง!

คู่รักนักวิ่ง สิริวัฒน์ และ จตุพร ด่านกุล เจ้าของบริษัทร่วมเสรี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ที่มาลงสนามนี้เป็นฟูลมาราธอนครั้งแรก และสามารถจูงมือกันวิ่งจบได้ในเวลา 4 ชั่วโมง 49 วินาที โดยทั้งสองคนเผยความรู้สึกที่ได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศสนามระดับเวิลด์เมเจอร์ที่มีผู้คนมาร่วมงานจากทั่วโลก ว่า “ประทับใจมิตรภาพของผู้ร่วมทริปทุกคน รวมทั้งบรรยากาศในการวิ่งมาราธอนระดับเวิลด์เมเจอร์ และบรรยากาศต่าง ๆ ของกองเชียร์และตัวเมืองเบอร์ลิน ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ทักษะและเทคนิคใหม่ ๆ ในการวิ่งด้วย ที่สำคัญคือ เป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรกในชีวิต และสามารถวิ่งให้จบก่อน 5 ชั่วโมงได้อย่างที่ตั้งใจ”

นักวิ่งสาวสุดสตรองรังษี วงศ์ชัย พยาบาลแผนกกายภาพบำบัด โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เผยความรู้สึกที่ได้ร่วมวิ่งในมาราธอนระดับเวิลด์เมเจอร์ครั้งแรกในชีวิต ว่า “ตื่นเต้นตั้งแต่ทราบข่าวว่าทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยมีทริปพาไปวิ่งที่เบอร์ลิน มาราธอนและปีนี้ร่วมกับครูดิน ยิ่งรู้สึกอยากไปมาก เพราะคิดว่าจะสนุกและน่าตื่นเต้นที่ได้วิ่งในมาราธอนรายการระดับโลกเป็นครั้งแรก ประทับใจบรรยากาศในงานถือว่าสุดยอดมาก ทั้งการจัดการที่ดีมาก ๆ สมกับที่เป็นงานระดับโลก มีเจ้าหน้าที่ในงานดูแลนักวิ่งเป็นอย่างดี ตลอดจนการจัดระเบียบเรื่องการจราจรได้ดีมากๆ ที่สำคัญคือมีกองเชียร์เป็นกำลังใจตลอดสองข้างทาง นอกจากนี้ยังประทับใจที่มีโปรแกรมจัดพาไปเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆ ในเยอรมนี รวมทั้งได้พักผ่อนในโรงแรม 5 ดาวที่สะดวกสบาย และอยู่ไม่ไกลสนามแข่งขันบีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน และได้อิ่มอร่อยกับอาหารที่ทำให้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในทุกมื้อ”

นักวิ่งหนุ่มรุ่นใหญ่ สุทธิพล ธนารักษ์พงศ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิศวกรรมและซ่อมบำรุง บริษัท ที โอ เอ เพอฟอร์มมานซ์ โค๊ทติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าความประทับใจของทริปสุดพิเศษนี้ว่า “ผมชอบวิ่ง ชอบหาความท้าทายให้ตัวเอง และติดตามรายการวิ่งมาราธอนเบอร์ลิน มาราธอนมาสักพักแล้ว ต้องขอบคุณโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ที่สร้างสรรค์กิจกรรมดี ๆ ให้สมาชิกได้สัมผัสงานวิ่งระดับเวิล์ดเมเจอร์ และเป็นทริปที่จัดได้ดีมาก มีการเตรียมตัวให้นักวิ่งดีมาก โดยเฉพาะครูดิน ผู้เป็นครูสอนวิ่งที่เก่งมาก ทำให้คนที่วิ่งไม่ดี วิ่งได้ดีขึ้น เพราะผมวิ่งดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับการวิ่งมาราธอนครั้งแรก และทำได้ดีเกินคาด รวมทั้งได้เพื่อนใหม่และมิตรภาพดี ๆ ที่เป็นคนรักการวิ่งเช่นกัน”

หนุ่มหล่อนักวิ่ง นพธนิต ประสพโภคากร แพทย์สาขากายภาพบำบัด ประจำโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท แชร์ประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับนักวิ่งที่ได้มาร่วมวิ่งมาราธอนระดับเมเจอร์ 1 ใน 6 ของโลก ว่า “เป็นฟูลมาราธอนครั้งที่ 2 ของชีวิตที่ได้รับประสบการณ์ดี ๆ กลับไปมากมาย ชอบบรรยากาศการวิ่งระยะทาง 42 กิโลเมตรที่มีคนเชียร์ตลอดทาง ทุกคนส่งใจให้นักวิ่งทุกคนวิ่งได้จบ และรู้สึกภูมิใจมาก ทั้งการได้มาเป็นส่วนหนึ่งของสนามมาราธอนระดับเวิลด์เมเจอร์ และได้วิ่งตามรอยเท้าคิปโชเก้ และลอดประตูชัยวันเดียวกันกับที่มีการทำลายสถิติโลก รวมถึงได้ทำสถิติใหม่ของตัวเองได้ตามที่ตั้งใจ นอกเหนือจากการวิ่งยังได้เที่ยวชม ‘บีเอ็มดับเบิลยู เวลท์’ ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก”

ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการกรรมการผู้จัดการ บริษัทอ้วยอันโอสถ จำกัด ถ่ายทอดความประทับใจที่ได้รับจากทริปBMW Berlin Marathon 2018ที่ว่า “งานนี้เป็นงานวิ่งมาราธอนระดับเมเจอร์ 1 ใน 6 ของโลก ซึ่งหกสนามนี้เป็นความฝันของนักวิ่งทุกคนที่ต้องไปได้สักครั้งในชีวิต เบอร์ลินเป็นสนามมาราธอนที่มีการทำลายสถิติโลกบ่อยที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะสนามนี้เลี้ยวน้อย เนินน้อย อากาศดี นักวิ่งทุกคนจึงอยากจะได้ไปลองว่าเขาจะได้ไปทำลายกำแพงของตัวเองหรือไม่และในที่สุดฝันก็เป็นจริงเมื่อได้ร่วมทริปกับทาง The Ultimate JOY Experienceที่จัดโปรแกรมทัวร์ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับนักวิ่งมีการพาไปชมสถานที่ต่างๆเช่น BMW Museum ในมิวนิค และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเบอร์ลิน รวมถึงมีเวลาว่างให้ไปซ้อมวิ่งซึ่งสำคัญมาก และพาไปงาน Breakfast Run ซึ่งเป็นการวิ่งระยะสั้นประมาณ 6 กม. เพื่อให้นักวิ่งที่มาร่วมงานได้ฟิตซ้อมและปรับสภาพร่างกายก่อนวันแข่งขันจริง ที่สำคัญมาราธอนครั้งนี้นอกจากได้มาทำลายกำแพงตัวเองไม่พอ ยังได้วิ่งตามรอยคิปโชเก้ทำลายสถิติโลกในวันเดียวกัน รวมทั้งได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ถึงแม้เราจะไม่ใช่นักวิ่งระดับโลก ไม่ใช่เวลาที่สวยหรูสำหรับหลาย ๆ คน แต่เป็นความสำเร็จ ความภูมิใจ ความสะใจ ที่มีมูลค่าทางใจที่เงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้”

“ดีเจอ้น” อัตตพงษ์ อัตตกิจกุล นักจัดรายการวิทยุคลื่น GET 102.5เผยประสบการณ์การวิ่งที่สร้างความทรงจำไม่รู้ลืม ว่า “ก่อนหน้านี้ผมบาดเจ็บ เลยวิ่งไม่ค่อยได้ดีอย่างใจ แต่โชคดีที่ทริปนี้เชิญ “ครูดิน” สถาวร จันทร์ผ่องศรี มาเป็นโค้ชพิเศษ รวมทั้งออกแบบโปรแกรมการซ้อมให้ทุกคน ก็พยายามซ้อมให้ได้ทุกวันตามตาราง ทำให้สามารถวิ่งได้ดีขึ้น และวิ่งได้จบมาราธอนครั้งนี้ด้วยความภูมิใจที่การซ้อมตลอดเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมาเห็นผล นอกจากนี้ยังรู้สึกอิ่มใจในบรรยากาศการเชียร์และให้กำลังใจกันและกันจากเพื่อนร่วมทริป รวมทั้งผู้คนที่มาเชียร์ตลอดสองข้างทาง แม้ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตาม ทำให้เราได้รับพลังงานดีๆ ขณะวิ่ง และช่วยให้ก้าวต่อไปได้อย่างไม่ย่อท้อ เรียกว่าได้รับทั้งความสุขและสุขภาพที่แข็งแรงกลับมา ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ไม่อาจลืมได้ในชีวิต และสิ่งสำคัญที่สุด คือได้แรงบันดาลใจในการวิ่งเพิ่มมากขึ้น ทำให้รู้ว่าการวิ่งได้อะไรมากกว่าที่คิด แถมยังทำให้หลายๆ คนรอบตัวผม อยากออกมาวิ่งกันแบบจริงจังมากขึ้นด้วย”

ร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์แบบเหนือระดับเฉพาะลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู พร้อมสิทธิพิเศษหลากหลายสำหรับทุกไลฟ์สไตล์จากโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ตลอดทั้งปี ท่านเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูทุกท่าน สามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกฟรี! ที่ www.BMWultimateJOY.com หรือติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.facebook.com/bmwultimatejoy