มนุษย์จะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่มุมมองและความคิด ข้อคิดธรรมะ จาก “ศรีวรา อิสสระ”ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จกลุ่มชาญอิสระ

การจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นำกิจการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ความสำเร็จของกลุ่มชาญอิสระที่พัฒนาต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยโรงแรมระดับโลก “ศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต ”จึงเป็นความสำเร็จที่ต้องใช้พลังในการขับเคลื่อนธุรกิจมหาศาล

นางศรีวรา อิสสระ ประธานกรรมการ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกลุ่มชาญอิสระ ได้เปิดใจให้ฟังถึงหลักคิดในการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจในเวทีธรรมะบรรยายเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ หัวข้อ “ ธรรมะทำไม  ทำไมธรรมะ” หนึ่งในโครงการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม ของ ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคารซี.พี. ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ไว้อย่างน่าสนใจ

แม้จะนับถือศาสนาคริสต์มาตั้งแต่กำเนิดแต่ด้วยความที่ชอบอ่านหนังสือกฎแห่งกรรมมาก อ่านแล้วเกรงกลัวบาปกรรมจึงไม่กล้าทำผิดศีล และเมื่อมีโอกาสเข้าวัดครั้งแรกที่วัดป่านานาชาติ ซึ่งเป็นวัดป่าสาขาของวัดหนองป่าพง (หลวงพ่อชา สุภัทโท) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ก็เกิดความประทับใจในความร่มรื่นของสถานที่ พระฉันจังหันมื้อเดียว และภายในวัดมีป้ายข้อความธรรมะสอนใจติดอยู่ตามต้นไม้ เป็นเครื่องเตือนสติให้คนคิดดี ทำดี ทำให้มีจิตใจสงบ

และยิ่งประทับใจมากขึ้นไปอีกเมื่อได้นิมนต์พระฝรั่ง วัดป่านานาชาติไปเทศนาธรรมะให้พนักงานบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยฟัง ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ทำงาน ธรรมะจึงอยู่ในใจของเธอตลอดเวลา เมื่อลูกๆ “ปลาวาฬ –ปลาทู –ปลาเข็ม” เติบโตขึ้น ก่อนส่งลูกไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษโดยจะพาลูกๆ ไปเข้าแคมป์ธรรมะกับ พระอาจารย์ชยสาโร ที่วัดป่านานาชาติ เพื่อวางรากฐานให้มีธรรมะประจำใจ ให้ลูกมีพื้นฐานที่ดีด้านอีคิวเป็นภูมิต้านทานป้องกันตัวเอง และในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะพาครอบครัว เครือญาติ เพื่อนสนิท ไปเรียนรู้ธรรมะที่วัดป่านานาชาติ 3-4 วัน ต่อเนื่องมาเกือบ 30 ปี
“คำสอนของครูบาอาจารย์ทุกท่าน เป็นความจริงตามธรรมชาติ สอนให้เราทำทาน รักษาศีลและสวดภาวนา ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท พระราชสุเมธาจารย์ (หลวงพ่อสุเมโธ)สอนให้ใช้ “พรหมวิหารสี่” เป็นหลักธรรมประจำใจเพื่อดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ประกอบด้วยหลักปฏิบัติ 4 ประการ ได้แก่ “เมตตา” ความรัก ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข “ กรุณา” ความสงสาร คิดช่วยให้เขาพ้นทุกข์ “มุทิตา” คือ ความยินดี เมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข “ อุเบกขา” คือ ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยรักและชัง หากเจอคนคิดไม่ดี ด่าว่า หรือคดโกง พระอาจารย์สอนให้เรารู้จักให้อภัย และอยู่ห่างๆ อย่าเข้าไปใกล้เขาอีก”

นอกจากนี้ การรักษาศีล ให้ทาน เจริญภาวนายังเป็นเสบียงบุญ จึงแนะนำให้ทุกคนเรียนรู้หลักธรรม“มรรค8” เพื่อนำความสุขแก่ชีวิต เพราะมรรค8 เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ ประกอบด้วย “ สัมมาทิฏฐิ ” ใช้ชีวิตด้วยสติ-ปัญญา “ สัมมาสังกัปปะ” คิดแต่สิ่งดีงาม “ สัมมาวาจา ” พูดถึงสิ่งดีงาม ไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ “ สัมมากัมมันตะ” ประพฤติดีอยู่ในศีลธรรม “สัมมาอาชีวะ” ใช้ชีวิตอย่างสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่น “สัมมาวายามะ ” ทำงานด้วยความมานะอดทน “ สัมมาสติ ” ใช้ชีวิตอย่างมีสติ “ สัมมาสมาธิ” ฝึกจิตให้สงบ ปราศจากกิเลส-นิวรณ์อยู่เสมอ การนำหลักธรรมเรื่อง มรรค 8 มาใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันจะช่วยสร้างประโยชน์และความสุขแก่ตัวเราเอง

การสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดี ช่วยปูพื้นฐานให้จิตใจสงบ การสวดมนต์ที่มีคำแปลด้วย จะยิ่งช่วยให้ซึมซับคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ดีขึ้น แนะนำให้สวดมนต์บทกรณียเมตตสูตร ซึ่งเป็นบทสวดแผ่เมตตา สวดแล้วจะทำให้หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย เทวดารัก ผีก็รัก หากนึกบทสวดไม่ออก แค่สวดภาวนาพุทโธ อย่างเดียวก็ได้ กิเลส จะตามเราไม่ทัน

ประธานกรรมการ กลุ่มชาญอิสระยังบอกว่าโดยส่วนตัวพยายามปฏิบัติธรรมแบบเก็บสะสมแต้มไปเรื่อยๆ ถือศีลห้าอย่างเคร่งครัด นั่งสมาธิและสวดมนต์เป็นประจำ ทำให้ใจเย็นลง มีสติในการทำงานและรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

“ ชีวิตมนุษย์จะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่มุมมองและความคิด พระอาจารย์สอนให้เราดำรงชีวิตโดยใช้หลัก“โยนิโสมนสิการ” คือ การคิดโดยค้นหาสาเหตุและผล คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แค่คิดเป็นก็พ้นทุกข์ได้ ”

สำหรับผู้ที่สนใจข้อคิดดี ๆ แบบนี้ สามารถเข้ารับฟังธรรมบรรยายกับโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ได้ที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00 – 13.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0-2071-1869 หรือ www.cpall.co.th