เวเคลิสต้าร์ – ไทยรัน – ททท. จับมือพันธมิตรทุกภาคส่วน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมสู่ชุมชนในโครงการ เที่ยวไป วิ่งไปLike a Localหนุนการท่องเที่ยวเมืองรองกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมยกระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง วิ่งไปแบบใช้เวลาในพื้นที่ให้นานที่สุดได้สัมผัสและซึมซับประสบการณ์ท้องถิ่นแบบลึกซึ้งในมิติร่วมสมัย โดยงานวิ่งจัดจะขึ้นที่จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดแรก ในวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2562
นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมเมืองรองว่า ”ด้วยปี 2561 รัฐบาลมีนโยบายต้องการให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเสริมสร้างและยกระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จากการกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองรอง 55 จังหวัดทั่วประเทศ โดยพิจารณาเมืองรองจากจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวและนักทัศนาจรน้อยกว่า 4 ล้านคน
โดยในช่วงปี 2558-2561 ททท. ได้ส่งเสริมให้มีการเดินทางท่องเที่ยวนำร่องในพื้นที่เมืองรอง ภายใต้แคมเปญ “12 เมืองต้องห้ามพลาด” และ “12 เมืองต้องห้ามพลาดพลัส” ซึ่งเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพและมีความน่าสนใจ ผลตอบรับดีเกิดการเดินทางเข้าพื้นที่เป็นจำนวนมาก สะท้อนได้จากในปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางทั่วประเทศตัวเลขสูงถึง228.94 ล้านคนต่อครั้ง(เพิ่มขึ้น 5.02%) มีรายได้อยู่ที่ 1.08 ล้านล้านบาท และมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด อยู่ที่ 83.92ล้านคนต่อครั้ง (เพิ่มขึ้น 5.16%) มีรายได้อยู่ที่2.30 แสนล้านบาท
ดังนั้น ตามแผนในปี 2562 ททท. จึงต่อยอดจากแคมเปญเมืองต้องห้ามพลาดดังกล่าว โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเพื่อเป็นการกระจายการเดินทางท่องเที่ยว และสร้างความเข้มแข็งให้แก่พื้นที่เมืองรอง และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไป”
สำหรับความร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการ เที่ยวไปวิ่งไป Like a Localของ ททท.มีแนวคิดที่ต่างจากงานวิ่งทั่ว ๆ ไป โดยเปลี่ยนการจัดงานในเมืองหลัก มาเป็นการจัดงานในพื้นที่ที่เป็นเมืองรองที่มีศักยภาพและมีความน่าสนใจ อีกทั้ง เป็นการวิ่งที่ไม่มีการแข่งขัน ไม่จับเวลา แต่เป็นการวิ่งที่ได้สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ชมวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ของ ททท. ที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้มีประสบการณ์ท้องถิ่นแบบลึกซึ้งในมิติร่วมสมัย และเพื่อต่อยอดให้สามารถสร้างรายได้ให้เกิดแก่ชุมชน”
นางสาวอัยย์ ฐณัณญาญ์ ไอยราถิรศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวเคลิสต้าร์ จำกัดเปิดเผยว่า “บริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบเส้นทางเที่ยวไปวิ่งไปโดยมองเห็นความงดงามในพื้นที่เมืองรองของแต่ละภาคในประเทศไทย ที่งดงามทั้งภูมิทัศน์ ศิลปกรรม ประเพณีวัฒนธรรม และน้ำใจของผู้คนในชุมชน ดังนั้น ทางบริษัทฯ ร่วมกับไทยรัน จึงจัดโครงการ เที่ยวไปวิ่งไปLike a Localชวนคนชอบวิ่งออกมาเที่ยว และชวนคนชอบเที่ยวออกไปวิ่งกัน โดยมีแนวคิดหลักคือ Sustainable Tourism ชุมชนมีส่วนร่วมคิดร่วมวางแผนในทุกมิติ ใช้ทรัพยากรในท้องที่อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เน้นผลประโยชน์ชุมชน คุณค่าสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ทำให้เกิดมลพิษและขยะให้น้อยที่สุด คำนึงถึงความสามารถและขีดจำกัดในการรองรับของทรัพยากรและชุมชน จึงเป็นเหตุผลที่ เที่ยวไปวิ่งไปLike a Local ครั้งนี้ รับสมัครเพียง 300 ท่านเท่านั้น
โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นที่พะเยาเป็นจังหวัดแรก ในวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2562 (งานวิ่งจะมีในวันที่ 17กุมภาพันธ์ 2562)แบ่งการรับสมัครเป็น2รูปแบบ คือ แบบที่1 เที่ยวไปวิ่งไป3วัน2คืน เป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญต่างๆของอำเภอเชียงคำและอำเภอภูซาง ราคา 6,850บาทต่อท่าน (รวมค่าที่พัก อาหารทุกมื้อพร้อมชมการแสดง ค่าเดินทางและประกันการเดินทาง ค่าวิ่ง เสื้อวิ่ง และผ้าพันคอฝ้ายทอมือ) แบบที่2 เที่ยวไปวิ่งไป1วัน ราคา 900บาทต่อท่าน (รวมค่าวิ่ง เสื้อวิ่ง ผ้าพันคอฝ้ายทอมือ อาหาร3มื้อพร้อมชมการแสดง และประกันอุบัติเหุต) เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแนวใหม่ในเมืองรองของแต่ละภาคในประเทศไทย ด้วยการวิ่งและท่องเที่ยวไปในเวลาเดียวกัน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรื่องราวดี ๆ ของชุมชนตลอดเส้นทาง เพราะการวิ่งในครั้งนี้ จะเป็นการวิ่งแบบ City Run โดยเส้นทางจะวิ่งผ่านบ้านเรือนของคนในชุมชน ผ่านทุ่งนาป่าเขา ที่ชาวบ้านใช้เป็นสถานที่ในการประกอบอาชีพ การทำมาหากิน เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญของท้องถิ่น เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ซึ่งจะทำให้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองมากยิ่งขึ้น รวมระยะทาง 11 กิโลเมตร แบ่งจุดพักทำกิจกรรมเป็น 4 จุด
ขณะเดียวกัน กิจกรรมนี้ยังช่วยพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นให้เกิดความแข็งแรง พร้อมกระจายรายได้สู่เมืองรอง ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต และมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รายได้ทั้งหมดของโครงการครั้งนี้ หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้กับโรงพยาบาลภูซาง จังหวัดพะเยา”
นายปธิกร จารุโกศล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยดอทรัน จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับโปรเจ็คเที่ยวไป วิ่งไป Like A Localนี้ ทางไทยรันร่วมกับ เวเคลิสต้าร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรสื่อกีฬาทุกภาคส่วน เกิดจากไอเดียผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวเที่ยวกับวิ่ง โดยจะเป็นการวิ่งสำหรับนักวิ่งและยังชื่นชอบการท่องเที่ยว หรือ นักท่องเที่ยว ที่กำลังสนใจการวิ่ง มาร่วมกิจกรรมกัน จึงขอเชิญชวนเพื่อนๆนักวิ่งที่สนใจการวิ่งออกกำลังกายและอยากจะไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของชาวไทยลื้อ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองท้องถิ่นของจังหวัดพะเยา มาร่วมเที่ยวและไปวิ่งด้วยกัน โครงการเที่ยวไป วิ่งไป Like A Localโดยสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://race.thai.run/like-a-local หรือ QR Code”
นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอ อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เปิดเผยในภาพรวมของอำเภอภูซางว่า “ทางพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว นักวิ่ง โดยมีการประชุมกับทางหมู่บ้าน ทางทีมสาธารณสุข ทางโรงพยาบาล ทางตำรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยทั้งหมดมาร่วมวิ่งด้วยกับนักท่องเที่ยว เรื่องความปลอดภัยไม่น่าห่วง ส่วนทางชุมชนมีความตื่นตัว ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้าร่วมในกิจกรรม โดยทั้งกลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มชุมชน ที่ผู้เข้ากิจกรรมจะวิ่งในหลายชุมชน ได้เตรียมความพร้อม โดยมีการปรึกษาหารือในแต่ละกลุ่ม จะโชว์นักท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง สุดท้าย ที่เป็นไฮไลท์ คือ งานภาคค่ำ ทางชาวบ้านยืนยันจะจัดเต็มที่ ทั้งเรื่องอาหารการกิน การแสดงต่าง ๆ และพิธีการต้อนรับต่าง ๆ ดังนั้น ขอเชิญชวน ผู้ที่สนใจ ร่วมวิ่ง ร่วมเที่ยวด้วยกัน ในพื้นที่อำเภอภูซาง”
นายชัยพล กฤตยาวาณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัดเปิดเผยว่า “โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน ทำให้เกิดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นมา ส่งผลทำให้ลูกค้าบัตรเครคิตกรุงศรี สามารถเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบสิทธิพิเศษในการรับ Gift Voucher มูลค่า 300 บาทต่อท่าน สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรี เมื่อสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ซื้อแพ็คเกจทัวร์ เที่ยว – วิ่ง มูลค่า 6,850 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://race.thai.run/like-a-local สมัครตั้งแต่วันนี้ รับจำนวนจำกัดเพียง 100 แพ็คเกจเท่านั้น”
นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ฝ่ายเชิงพาณิชย์ และรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “นกแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินของคนไทย ยินดีสนับสนุนแนวทางการท่องเที่ยวในเมืองรอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่แพ้จังหวัดใหญ่ที่เป็นที่นิยม เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนท้องถิ่น และเพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นที่นิยมในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้เข้ากับแนวทางของ Run Club ซึ่งเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์คลับภายใต้โครงการสมาชิก Nok Fan Club ซึ่งเป็นโครงการสมาชิกของสายการบินนกแอร์ ที่เกิดขึ้นเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจเข้ากับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางและผู้โดยสารในปัจจุบัน โดยมีการแบ่งไลฟ์สไตล์คลับออกเป็นหลาย ๆ คลับตามความสนใจของสมาชิกและ Run Club ก็เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์คลับที่สมาชิกและผู้โดยสารให้ความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมและซื้อบัตรโดยสาย สายการบินนกแอร์จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นส่วนลดมูลค่า 200 บาท”
นายเดชา รินทพล ผู้จัดการ ส.ทร.เอฟ.เอ็ม.106 เมกกะเฮิร์ทซ์ วิทยุครอบครัวข่าว เปิดเผยว่า ” โครงการ เที่ยวไป วิ่งไป Like a Localนับเป็นความท้าทายใหม่ของปีนี้ ที่วิทยุครอบครัวข่าว ร่วมมือกับทางเวเคลิสต้าร์ นอกเหนือจากรายการ เที่ยวไป วิ่งไป Like a Local ที่ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 19:30-20:00 น. ทางวิทยุครอบครัวข่าว ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้จะทำให้แฟน ๆ รายการเข้าร่วมกิจกรรม มีความพร้อมที่จะได้รับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาสู่ชีวิตมากขึ้น เพราะการวิ่งช้า ๆ จะทำให้หัวใจคุณแข็งแรงขึ้น รวมถึงการซึบซับทัศนียภาพอย่างละเมียดละไมผ่านทางการเดินแต่ละก้าววิ่งของคุณ”
นายศุทธวีร์ กาญจนภัคพงค์ บรรณาธิการ Ride Explorer เปิดเผยว่า “Ride Explorer ในฐานะเป็น Content Promotor ที่เป็นสื่อที่มีไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยว ที่มีการเดินทางเชิงสร้างสรรค๋ สร้างแรงบันดาลใจ ในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมวิ่งด้วย ดังนั้นเชื่อว่ากิจกรรม เที่ยวไป วิ่งไป Like a localถือเป็นประสบการณ์ใหม่ให้กับนักวิ่ง ตอบโจทย์กลุ่มนักวิ่งที่ชอบการท่องเที่ยว ชอบชีวิตแบบ Slow life ได้เห็นวัฒนธรรมพื้นถิ่น ได้สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด พร้อมกับได้ออกกำลังกาย แบบไม่เร่งรีบ เชื่อว่า Ride Explorer จะเป็นสื่อในการเชื่อมต่อกลุ่ม Community และเป็นพันธมิตร ในด้าน Content Promoter ให้คนได้รู้จักกับ เที่ยวไป วิ่งไป Like a localได้อย่างมีสีสัน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมให้ชุนชนได้ต่อยอดวัฒนธรรมและวิถีพื้นถิ่นไปด้วยกัน”