ปัจจุบัน โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงแวดวงการค้า ในฐานะบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี อาลีบาบา กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับผู้ค้าในการประกอบธุรกิจต่างๆ โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของอาลีบาบา กรุ๊ป คือ การทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ อาลีบาบาจึงพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก เช่น ในกรณีของแพลตฟอร์ม Alibaba.com ที่สนับสนุนให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกบนแพลตฟอร์ม ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยได้เล็งเห็นถึงโอกาสนี้และได้ร่วมเป็นผู้ค้าบนแพลตฟอร์ม โดยหนึ่งในธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจบน Alibaba.com คือ Everest Silver ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องเงินคุณภาพ ที่ได้ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศและสร้างโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
Everest Silver มีสินค้าครอบคลุมหลากหลายประเภท นับตั้งแต่สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ไปจนถึงพวงกุญแจและลูกปัด ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยสินค้าไฮไลท์ของ Everest Silver ประกอบด้วยเครื่องประดับสำหรับทั้งหญิงและชาย ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มลูกค้ายุโรปและกลุ่มลูกค้าชาวเกาหลี ญี่ปุ่น โดยจุดเริ่มต้นของ Everest Silver มาจากธุรกิจครอบครัวที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พร้อมด้วยโรงงานผลิตเครื่องเงินและหน้าร้านทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งปัจจุบันได้เติบโตเป็นบริษัทที่มีพนักงานกว่า 50 คน มีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งหมด 4 สาขา และมีอัตราการส่งออกสินค้าถึง 90%
ด้วยการสร้างฐานลูกค้ามายาวนานและการจำหน่ายผ่านทางหน้าร้าน Everest Silver จึงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่กระนั้นยังเผชิญกับข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น การเดินทางมาชมสินค้าที่ประเทศไทยของลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ทั้งการติดต่อ การเดินทาง ตลอดจนการชมสินค้า นอกจากนี้ ฐานลูกค้ายังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มเดิมที่อุดหนุนกันมายาวนาน ดังนั้นEverest Silver จึงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาธุรกิจเสมอ จนเมื่ออีคอมเมิร์ซและอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีอิทธิพลในตลาดไทย ทางร้านจึงได้จำหน่ายสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ค แต่เมื่อทำไประยะหนึ่งพบว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าจากเฟซบุ๊คส่วนใหญ่เป็นลูกค้าซื้อปลีก ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของร้าน
หลังจากนั้น นายสมชาย จิตตะวงค์ เจ้าของร้าน ได้ตัดสินใจใช้ Alibaba.com เป็นช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติมจากคำแนะนำของคนใกล้ชิด เพราะนอกจากจะตรงกลุ่มเป้าหมายของร้านที่เป็นกลุ่มลูกค้าซื้อส่งแล้ว ลูกค้าจากประเทศต่างๆ ยังสามารถเข้าถึงสินค้าของ Everest Silver ได้เป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นโดยผ่านทางแพลตฟอร์มนี้ ทำให้มีคำสั่งซื้อและยอดขายที่เพิ่มขึ้น
“ถึงอีคอมเมิร์ซจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการประกอบธุรกิจ ก็ส่งผลให้ผู้ค้าต้องปรับตัวและพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ภาษา หรืออื่นๆ แต่ก็นำมาซึ่งโอกาสทางการค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก ครั้งหนึ่งผมได้รับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าถึง 200,000 บาท จากลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยอุดหนุนร้านมาก่อน แต่ได้พบสินค้าของร้านและติดต่อผ่านทาง Alibaba.com ทำให้ผมได้เห็นว่าแพลตฟอร์มนี้สามารถช่วยสนับสนุนธุรกิจของผมได้จริงๆ” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นต่างๆ บน Alibaba.com ยังช่วยมอบความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ค้าบนแพลตฟอร์มได้มากยิ่งขึ้น ด้วย Alibaba.com ลูกค้าทั่วโลกสามารถชมสินค้าและติดต่อกับผู้ประกอบการผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทาง ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น
“ฟังก์ชั่นที่ผมชอบเป็นพิเศษและมองว่าเป็นไฮไลท์ที่ทำให้ Alibaba.com แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ ระบบ RFQ (Request for Quotation) ฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับ Gold Supplier Membership ซึ่งสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพการค้าขายให้กับธุรกิจ ด้วยการจับคู่สินค้าของผู้ค้าและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน โดยผู้ซื้อสามารถแจ้งคุณสมบัติสินค้าที่ต้องการ จากนั้น ระบบจะเปิดให้ผู้ค้าที่มีสินค้าที่มีคุณสมบัติดังกล่าวสามารถส่งใบเสนอราคาให้ผู้ซื้อพิจารณาได้ ในที่สุดผู้ซื้อจะได้รับสินค้าที่ตรงกับความต้องการ ในขณะที่ผู้ค้าก็ได้จำหน่ายสินค้าตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตน ด้วยฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจเช่นนี้ ในอนาคต ทางร้านจะยังคงจำหน่ายสินค้าบน Alibaba.com ต่อไปอย่างแน่นอน” นายสมชายกล่าวเสริม
เพียงคลิกเดียว Alibaba.com จะเชื่อมผู้ค้าและผู้ซื้อเข้าด้วยกัน โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ และเวลา สิ่งนี้คือเป้าหมายที่อาลีบาบา กรุ๊ป ต้องการบรรลุมาตลอด ความพยายามนี้ได้สะท้อนผ่านเรื่องราวความสำเร็จของ Everest Silver ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งจากบรรดาธุรกิจไทยบนแพลตฟอร์มหลากหลายของอาลีบาบา และเพื่อต่อยอดความร่วมมือจากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป และรัฐบาลไทย เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา อาลีบาบาจะเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทย ด้วยการเชื่อมธุรกิจไทยเข้ากับตลาดโลกและผลักดันการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ยุคดิจิทัลต่อไป
เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป
พันธกิจของอาลีบาบา กรุ๊ป คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนต่างพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา และมีความมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 102 ปี