บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เผยหนึ่งในบริการเอาท์ซอร์ซ (Outsource Service) ที่กำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจคือ “บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์” (Business Intelligence) หรือ “บีไอ” (BI) เป็นการรายงานข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจต่าง ๆ ในสถานการณ์การแข่งขันที่ตลาดและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากหลายปัจจัย พบ 3 ปัญหาที่องค์กรต้องเผชิญ คือ ขาดความเข้าใจตลาด ไม่สามารถระบุผลลัพธ์ของโปรโมชั่นได้ และต้องใช้เงินลงทุนสูงเพื่อข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เนื่องจากปัญหาขาดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ที่มีประสบการณ์ ชี้รายงานของ “บีไอ” ใช้เทคโนโลยีใหม่ รวบรวมข้อมูลมาจากหลายแหล่งโดยเฉพาะจากเสียงของลูกค้าโดยตรงในโลกออนไลน์ผ่านเครื่องมือ “โซเชียล ลิสเซินนิง” (Social Listening) ช่วยให้ทุกหน่วยงานในองค์กรธุรกิจสามารถนำ “บีไอ” มาปรับใช้ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนการผลิต การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด และการบริการหลังการขาย ตอบความต้องการของลูกค้า เพื่อประโยชน์การวางแผนกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ
นายอิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาผู้ให้บริการการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจ ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากปัญหาขาดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist โดยเฉพาะผู้ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ รวมทั้งการลงทุนในเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ส่งผลให้ต้นทุนในการทำ “บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์” หรือ “บีไอ” ภายในองค์กรมีต้นทุนที่สูงกว่าการจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการทำ “บีไอ” ทำให้บริการเอาท์ซอร์ซ ด้าน “บีไอ” กำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจในขณะนี้ โดยสัดส่วนลูกค้าที่ขอใช้บริการ “บีไอ” เอาท์ซอร์ซ กับบริษัทฯ ในปี 2561 มีเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก
“เราพบว่าบริษัทส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ 3 เรื่องหลัก ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่ตลาด และความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้แก่ ปัญหาขาดความเข้าใจตลาด ปัญหาในการกำหนดประสิทธิภาพของโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่าง ๆ และปัญหาในด้านเงินลงทุนสูง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลรวมถึงค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในการดึงข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ มาใช้งาน การเอาท์ซอร์ซด้วยการจ้างบริษัทที่มี ประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในด้าน “บีไอ” จึงเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับองค์กรธุรกิจ คือช่วยลดต้นทุน ในขณะที่ได้รายงานข้อมูลจาก “บีไอ” โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์” นายฮาระกล่าว
“บีไอ” ช่วยตอบปัญหาทางธุรกิจได้ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูล ไม่ว่าจะมาจากโซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ Social Listening รวมทั้งข้อมูลภายในของบริษัท และข้อมูลจากภายนอกอื่น ๆ ที่ต้องการเพิ่มเข้ามาอยู่ในรายงาน ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์มูลเหตุของผลลัพท์ การทำแบบสอบถามเพิ่มเติม การวิจัยตลาด
ตัวอย่างของรายงานจาก “บีไอ” ของเอบีม ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลในมุมมองทันสมัย จากเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ เช่น หัวข้อที่ผู้บริโภคกำลังพูดถึงมากที่สุดในโลกออนไลน์ หัวข้อที่ถูกกล่าวถึงในเชิงบวกหรือเชิงลบ วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อกระแสนั้น ๆ และการคาดการณ์แนวโน้มรวมทั้งสุขภาพของแบรนด์ในอนาคต เป็นต้น ทั้งนี้ ในรายงานยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบริษัท และยังสามารถปรับปรุงรายงานได้เมื่อมีความจำเป็นตามสถานการณ์ทางธุรกิจ
จุดเด่นของ “บีไอ” คือ ข้อมูลทันสมัย ใช้งานง่าย ผู้ใช้งานสามารถหาคำตอบทางธุรกิจได้หลายมุมมองภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถนำ “บีไอ” มาปรับใช้ในธุรกิจได้ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนการผลิต การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด และการบริการหลังการขาย ตอบความต้องการของลูกค้า เพื่อประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ ทั้งยังช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อตอบพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และตอบรับกับการปรับตัวอย่างรวดเร็วของคู่แข่งในอุตสาหกรรมและคู่แข่งหน้าใหม่จากการดีสรัปท์ธุรกิจเดิม นายฮาระกล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง “บีไอ” หรือ “บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์” ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการเอาท์ซอร์ซ โดย เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ประกอบด้วย บริการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis Service) ฝึกอบรมวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis Training) และรายงาน BI Outsource
เกี่ยวกับ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีทีมงานกว่า 5,000 คน ที่ให้บริการลูกค้ากว่า 800 รายทั่วภูมิภาคเอเชีย อเมริกา และยุโรป นับตั้งแต่เปิดให้บริการที่ปรึกษาในประเทศไทยเมื่อปี 2548 เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ให้บริการแก่บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ในประเทศไทย เพื่อช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางด้านกลยุทธ์ การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเทคโนโลยี และยกระดับผลการดำเนินงานขององค์กร นอกจากนี้ บริษัท เอบีม ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับ SAP และร่วมมือกันพลิกโฉมให้ธุรกิจของลูกค้าบรรลุเป้าหมายมาโดยตลอด โดยมีที่ปรึกษาที่ได้รับการรับรองจาก SAP จำนวนมากร่วมทำงาน ทั้งนี้ บริษัท เอบีม ทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างสรรค์วิธียกระดับธุรกิจ และแก้ไขปัญหาที่แท้จริง ด้วยโซลูชั่นที่ได้จากแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญในหลายธุรกิจ โดยใช้วิธีเน้นการปฏิบัติได้จริง (Pragmatic Approach) เพื่อให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว คุ้มค่า และวัดผลได้ โดยมีปรัชญาการบริหารจัดการเป็น Real Partner เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ให้บริการด้วยบุคลากรที่มีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีโซลูชั่นส์ที่เหมาะสมแก้ปัญหาได้จริง และให้ผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริง เพื่อความสำเร็จของลูกค้า ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.abeam.com/th/en