นกแอร์หนุนสร้าง Platform การท่องเที่ยวแห่งชาติ เชื่อมโยงข้อมูลครบวงจร ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง

นกแอร์ลงนามร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนรวม 49 องค์กร ในโครงการ Digital Tourism Platform จับมือสร้างPlatform การท่องเที่ยวแห่งชาติ เชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยว สินค้าและบริการ ยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวครบวงจร ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง ประเดิมออกแอปชื่อ “ทักทาย” เวอร์ชั่นแรกเดือนเมษายนปีนี้

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK นำโดย นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาเชิงพาณิชย์ สายการบินนกแอร์ ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งหมด 49 องค์กร/หน่วยงานลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือในโครงการ Digital Tourism Platform ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนการปฏิรูปและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ คณะทำงานภาคเอกชน 30 องค์กร จะจัดตั้งบริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพื่อจัดทำแอปพลิเคชัน (Application) ชื่อ “ทักทาย” หรือ TAGTHAI และประสานความร่วมมือกับภาครัฐ 19 หน่วยงาน มุ่งให้เกิดความร่วมมือ สนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว และร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ โดยจะมีการออก แอปพลิเคชันรุ่นแรกในเดือนเมษายน 2562 นี้

การสร้าง Platform การท่องเที่ยวแห่งชาติ เป็นกิจกรรมหนึ่งในแผนงานด้านเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของคณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและ MICE (D3) ซึ่งเป็น Platform กลาง ที่เชื่อมโยงข้อมูลท่องเที่ยว สินค้าและบริการของผู้ประกอบการ ตลอดทั้งValue Chain การท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวสำหรับทุกคน มีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบครบวงจร โดยใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจของประเทศไทยให้มีช่องทางดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้ว จะเกิดประโยชน์ในด้านการกระจายรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ตอบรับกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยเช่นกัน

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม กล่าวว่า “ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญของประเทศ นกแอร์พร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่าการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่าน Digital Tourism Platform นี้ จะสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากการได้รับข้อมูลข่าวสาร และบริการด้านการท่องเที่ยวที่ครบวงจรบน Platform”

อีกทั้งจากการเชื่อมโยงของข้อมูลและการทำธุรกรรมบน Platform นี้จะเป็นการสร้าง Big Data ที่นำไปสู่การสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ร่วมใน Platform และ จะต่อยอดเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทศเติบโตอย่างมั่นคง