ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ จนนานาประเทศต่างยอมรับ และชื่นชอบสินค้าไทยอย่างมาก ซึ่งจะดีแค่ไหนถ้าเมืองไทยมีศูนย์รวมสินค้าไทยมีคุณภาพ เพื่อให้คนไทยได้ซื้อหา อีกทั้งยังสร้างรายได้จากการส่งไปยังต่างประเทศได้อีก
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ “ตลาดต่อยอด เออีซี เทรด เซนเตอร์” หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘ตลาดต่อยอด’ ศูนย์ค้าส่งแห่งภูมิภาคอาเซียน ตั้งอยู่ที่ประตูน้ำพระอินทร์ เลยจาก ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพียง 7 กม. ด้วยงบลงทุนมากกว่า 6,000 ล้านบาท ในพื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร รวม 160 ไร่ รองรับร้านค้าได้กว่า 2,500 ร้าน
ที่สำคัญคือตลาดต่อยอดมาพร้อมกับ “ต่อยอดออนไลน์” ระบบการค้าส่งออนไลน์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการขาย ชำระเงิน และจัดส่งสินค้า ในเว็บไซต์ออนไลน์และเชื่อมต่ออีคอมเมิร์ซทั่วโลก เชื่อมโยงช่องทางขายในลักษณะออฟไลน์และออนไลน์ (O&O) เรียกว่าเปิดร้านกับตลาดต่อยอดแล้วได้บริการครบแบบ One Stop Service
ดังคอนเซ็ปต์ของ “ตลาดต่อยอด” คือ “ถูก ครบ จบที่เดียว” และต่อยอดไปทั่วโลกด้วย “ต่อยอดออนไลน์” นั้นต้องการเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนสินค้าไทย ดังคอนเซ็ปต์ “ถูก มั่นใจ ส่งไกลทั่วโลก”
ต้องบอกว่าโครงการตลาดต่อยอด และต่อยอดออนไลน์นั้นมีความแข็งแกร่ง และมีจุดเด่นที่ชัดเจนจากแพลตฟอร์มอื่นอย่างมาก สามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการในยุค 4.0 ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือเป็นแพลตฟอร์มไทยแท้ 100% ที่ทำเพื่อคนไทย และผลักดัน SME ไทยให้ไปไกลทั่วโลก
เพื่อทำความรู้จักกับโครงการตลาดต่อยอด และต่อยอดออนไลน์ให้มากขึ้น ได้ทำการพูดคุยกับ “สรเชษฐ์ วรรณธนาเลิศ” General Manager ต่อยอดออนไลน์ และ “นิธิรุจน์ พงศ์ธนะรังสี” Head of Leasing โครงการตลาดต่อยอด จะมาให้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
แพลตฟอร์มค้าส่งออนไลน์ครบวงจรแห่งแรกในไทย
ต้องบอกว่าในประเทศไทยมีแพลตฟอร์มในระบบขายปลีก หรือ Retail ที่แข็งแกร่งมาก เรียกว่าแทบจะมีครบทุกอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า แฟชั่น เครื่องประดับ อาหาร และอื่นๆ มากมาย รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยเช่นกัน แต่ถ้ามองในแง่ของธุรกิจ “ขายส่ง” ยังมีน้อยมากในประเทศไทย ไม่มีผู้เล่นรายไหนลงทุนทำแพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ประกอบการขายส่งอย่างจริงจัง ทั้งๆ ที่เมืองไทยมีจุดแข็งทางด้านสินค้า และบริการอย่างมาก
การเกิดขึ้นของ “ตลาดต่อยอด” สร้างสปอตไลท์ให้กับผู้ประกอบการไทย และไม่ได้มาแค่แพลตฟอร์มออฟไลน์อย่างเดียว ยังมาคู่กับ “ต่อยอดออนไลน์” ด้วย เพราะ Pain Point หรือปัญหาของผู้ประกอบการคือมีหน้าร้าน แต่ไม่เชี่ยวชาญการทำทางออนไลน์ ตลาดต่อยอดจึงทำให้ครบวงจรตอบโจทย์การทำธุรกิจในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น
สรเชษฐ์ ได้เล่าให้ฟังว่าต่อยอดออนไลน์ เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการค้าส่ง มีร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเอง จึงพัฒนาแพลตฟอร์มนี้เพื่อเชื่อมโยงการค้าเป็นช่องทางการขาย ให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้ทั่วโลก ผู้ซื้อทั่วโลกก็เข้ามาหาสินค้าไทยได้เช่นกัน ที่ผ่านมาในประเทศไทยยังไม่มีแพลตฟอร์มค้าส่งออนไลน์แบบครบวงจร ต่อยอดออนไลน์จึงเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ครบวงจรตั้งแต่ระบบการจัดการ จ่ายเงิน โลจิสติกส์ บริหารสินค้าหลังบ้าน
เมื่อเจาะลึกถึงบริการบนต่อยอดออนไลน์นั้นจะครอบคลุมทั้งหมด 4 ด้านด้วยกัน ได้แก่
1.บริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ เพื่อให้ผู้ขายบริหารหน้าร้านได้ด้วยตัวเอง สามารถดูออเดอร์ตัวเองได้
2.ระบบจ่ายเงิน มีการดีไซน์สำหรับค้าส่งทุกช่องทาง ไม่ต้องยุ่งยากในการทำธุรกิจด้วยตนเอง
3.ระบบโลจิสติกส์ ที่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทั้งทั่วประเทศ และทั่วโลก ซึ่งมีทีมคอยให้คำปรึกษาในการจัดส่งสินค้า
4.บริการจัดการข้อมูลต่างๆ ผู้ขายจะได้เห็นข้อมูลต่างๆ ของร้านค้าตัวเอง เป็นสถิติของการขายสินค้า เช่น สินค้ากลุ่มไหนขายดี จังหวัดไหน ภูมิภาคไหนนิยมสินค้าอะไร เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าต่อไปในอนาคต
เบื้องต้นจะเน้นสินค้าใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และสินค้าบิวตี้ 2. วัตถุดิบอาหาร 3.สินค้าไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้า และ 4. เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มนี้เป็นสินค้ายอดนิยมทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และออฟไลน์
สร้างจุดแข็งด้วยการผนึกออฟไลน์ และออนไลน์
แน่นอนว่าตลาดต่อยอด และต่อยอดออนไลน์ย่อมมีจุดแข็งที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ในประเทศไทย ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือการผลึกกำลังกันของ 2 แพลตฟอร์ม เพราะในยุคนี้ไม่สามารถทำตลาดได้เพียงแค่ออฟไลน์ หรือออนไลน์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
นิธิรุจน์บอกว่าผู้ประกอบการจะได้รับการสนับสนุนทางด้านช่องทางออฟไลน์ด้วยโครงการตลาดต่อยอด และเสริมช่องทางออนไลน์ด้วยต่อยอดออนไลน์ เป้าหมายก็คือต้องการส่งเสริม SME ไทยให้แข็งแกร่ง ผลักดันให้ร้านค้ามีออเดอร์สูงขึ้นด้วยช่องทางออนไลน์
เมื่อผู้ประกอบการเปิดหน้าร้านกับโครงการตลาดต่อยอด ก็สามาถใช้บริการ ขึ้นร้านค้าบนต่อยอดออนไลน์ได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่สำหรับผู้ประกอบการรายอื่นก็สามารถสมัครเข้ามาได้เช่นกัน เพียงแต่ถ้าเป็นครอบครัวของตลาดต่อยอดจะได้สิทธิพิเศษมากกว่า ความสำคัญของการผนึกกำลังกันของ 2 แพลตฟอร์มก็คือ เมื่อผู้ซื้อมีการสั่งออเดอร์ออนไลน์ขนาดใหญ่ อาจจะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารกัน แต่ก็มีแพลตฟอร์มออฟไลน์ไว้ดูสินค้า หรือพบหน้ากัน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้ออีกทางหนึ่งว่าผู้ขายมีตัวตนจริงๆ สร้างความสบายใจให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
ไม่ใช่แค่ขาย แต่มีสิทธิประโยชน์เพียบ
การเป็นร้านค้ากับตลาดต่อยอด และต่อยอดออนไลน์จะมีสิทธิประโยชน์เยอะมากกว่าผู้ประกอบการทั่วไป ที่นี่จะมีบริการ SME Solution Service คอยให้คำปรึกษาในทุกธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น เรียกว่าแค่ก้าวขาเข้ามาก็อุ่นใจได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจเล็ก หรือธุรกิจใหญ่ ก็มีทีมงานคอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
นิธิรุจน์ยกตัวอย่างว่า ”แต่ละธุรกิจต้องนิยามตัวเองก่อนว่าเป็น OTOP หรือเป็น SME ขนาดเล็ก หรือเป็นเจ้าของโรงงาน เพราะทุกระดับชั้นอาจประสบปัญหาธุรกิจ และมีทางออกที่แตกต่างกัน เช่น ถ้าเป็น OTOP จะมีปัญหาเรื่องเงินทุนในการผลิตไม่พอ วิธีการสนับสนุนของเราก็คือการช่วยแนะนำจัดหาที่ปรึกษาทางการเงิน
ส่วนถ้าเป็นธุรกิจ SME ที่อาจจะพอมีเงินทุนขึ้นมาหน่อย ต้องการพัฒนาโปรดักส์เพื่อต่อยอดส่งสินค้าไปขายต่างประเทศ ก็มีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ ตลอดจนบริการออกแบบ Packaging ให้ดูสวยงาม แต่ถ้าถึงระดับเจ้าของโรงงานปัญหาที่พบคือ ออเดอร์ผลิตสินค้าไม่เต็มกำลัง เราก็มีทีมสรรหาลูกค้าจัดหาออเดอร์จากประเทศต่างๆ มาให้”
ส่วนทางด้านผู้ซื้อก็ไม่ต้องน้อยใจไป มีสิทธิประโยชน์ไม่แพ้กัน สำหรับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าบนต่อยอดออนไลน์จะได้รับ “ต่อยอดคอยน์” หรือเหรียญต่อยอดเป็นระบบการสะสมเหรียญ ยิ่งซื้อเยอะก็ได้จำนวนเหรียญเยอะ เอาไปแลกเป็นส่วนลด หรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสมนาคุณกลับคืนให้แก่ผู้ซื้อ
เป้าหมายพาต่อยอดฯ ไประดับอาเซียน จนถึงระดับโลก
การที่มาเปิดร้านค้าในตลาดต่อยอด และต่อยอดออนไลน์จะไม่ได้หยุดแค่การขายในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป้าหมายคือนำสินค้าไทยออกไปทั่วโลก นั่นคือผู้ประกอบการสามารถเพิ่มยอดขายได้จากการส่งออกไปยังต่างประเทศ เรียกว่าสร้างโอกาสในการขายเพิ่มอีกหลายเท่าตัว
ทางต่อยอดออนไลน์ได้จับมือ “อาลีบาบา” เป็นพันธมิตรหนุนผู้ประกอบการไทยไปตลาดโลก แผนต่อไปจะเริ่มบุกโซนแอฟริกา อินโดนีเซีย อินเดีย รวมถึงรัสเซีย และตะวันออกกลางด้วย ตั้งเป้าเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม B2B ระดับโลกอีกกว่า 10 ประเทศ มีการทำ Business Matching การทำงาน Expo เพื่อให้ครอบคลุมทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
สำหรับกลยุทธ์ที่จะพาตลาดต่อยอดไปในระดับอาเซียน และระดับโลกได้นั้น นิธิรุจน์มองว่าออฟไลน์กับออนไลน์เป็นหยินหยางที่ต้องอยู่คู่กันเป็นรูปแบบ O&O ซึ่งสองสิ่งนี้ต้องไปพร้อมกัน แต่จะมีการแยกความสำคัญกัน เช่น ขายของหน้าร้านเหมาะกับนักท่องเที่ยว จะเป็น New Destination การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ นอกจากจะมาไหว้พระที่อยุธยาแล้วยังมาที่นี่ได้
สมัครง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
สำหรับผู้ประกอบการท่านไหนที่สนใจอยากเปิดร้านที่โครงการตลาดต่อยอด สามารถโทรสอบถามรายละเอียดและรับโปรโมชั่นพิเศษ ได้ที่เบอร์ 035-909 888 หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.taradtoryod.com
ส่วนต่อยอดออนไลน์ มีขั้นตอนการสมัครง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว แค่เข้าไปที่เว็บไซต์ www.toryodonline.com หรือสามารถดาวน์โหลด Application บนมือถือเพียงเซิร์จคำว่า Toryodonline ทั้งในระบบ iOS และ android จากนั้นเลือกการสมัครเป็นผู้ขายหรือผู้ซื้อ หากต้องการเปิดร้านขายบนออนไลน์ ก็จะมีขั้นตอนการตรวจสอบผู้ประกอบการว่าเป็นใคร มีสถานที่ผลิต ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ผิดลิขสิทธิ์หรือไม่ สินค้าได้คุณภาพหรือไม่ ใช้เวลาในการตรวจไม่เกิน 1 สัปดาห์
เห็นอย่างนี้แล้ว เรียกว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยที่มีแพลตฟอร์มสนับสนุนทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ อีกทั้งยังสนับสนุนให้ไปไกลถึงระดับนานาชาติอีกด้วย อย่ารอช้าที่จะมาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันกับตลาดต่อยอด