หัวเว่ยมุ่งมั่นผลักดันโลกเข้าสู่ยุคผลิตภัณฑ์อัจริยะที่เชื่อมต่อกันด้วยเครือข่าย 5 จี นำเสนอสมาร์ทโปรดักส์หลากหลาย ณ งาน MWC 2019

หัวเว่ยนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายที่งาน Mobile World Congress 2019 ได้แก่ โน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro รุ่นใหม่ โน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook 13 และ HUAWEI MateBook 14 สมาร์ทโฟน 5 จีแบบพับหน้าจอได้ HUAWEI Mate X และอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 5 จี HUAWEI 5G CPE Pro ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ของหัวเว่ยรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซต 5 จี Balong 5000 ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติด้านการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย ช่วยให้แนวคิดของโลกที่ทุกสมาร์ทดีไวซ์เชื่อมโยงกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใกล้เป็นจริงยิ่งกว่าที่เคย

ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า “ผู้บริโภคยุคปัจุบันคาดหวังจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งยุคอนาคต อันเป็นยุคที่ทุกสมาร์ทดีไวซ์สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป พร้อมสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ยุค 5 จีด้วยกลยุทธ์ด้านการสร้างและส่งเสริมการใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ที่เชื่อมโยงกันได้อย่างครบวงจร เราพร้อมจะค่อยๆ ผลักดันให้ผู้บริโภค รวมถึงสถานประกอบการเริ่มต้นใช้งานอุปกรณ์ที่รองรับเครือข่าย 5 จีเพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแห่งอนาคต อันเป็นโลกที่สมาร์ทดีไวซ์ทุกชิ้นทำงานอย่างสอดประสานกันได้สู่ท้องตลาด”

HUAWEI MateBook X Pro รุ่นใหม่

ในงาน MWC 2018 หัวเว่ยภูมิใจเสนอโน้ตบุ๊ก HUAWEI MateBook X Pro รุ่นแรก ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง รองรับทุกคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อยุคใหม่ในรูปทรงที่เพรียวบาง และใช้หน้าจอแบบ FullView HUAWEI MateBook X Pro คือจุดเริ่มต้นของหัวเว่ยในการก้าวเข้าสู่ตลาดคอมพิวเตอร์โดยมุ่งหวังจะเป็นผู้นำตลาด อีกทั้งยังสะท้อนถึงยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ต้องมีขอบหน้าจอบาง และในงาน MWC ปีนี้ หัวเว่ยนำเสนอ HUAWEI MateBook X Pro รุ่นใหม่ที่รักษาเอกลักษณ์ของโน้ตบุ๊กระดับเรือธง ทั้งงานออกแบบที่งดงาม และนวัตกรรมอัจฉริยะไว้เช่นเดิม โดยหัวเว่ยได้ยกระดับประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อของคอมพิวเตอร์แบบพกพารุ่นนี้ไปอีกขั้น

HUAWEI MateBook X Proรุ่นใหม่ ผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ไว้อย่างลงตัว โดยโครงสร้างแบบยูนิบอดี้ผลิตโดยใช้เทคนิค CNC และวัสดุโลหะที่ขัดผิวจนละเอียดเหมือนเนื้อทรายเพื่อความรู้สึกหรูหราขณะจับถือ โน้ตบุ๊กรุ่นนี้มี 2 สีให้เลือกคือสีเงินมิสติกซิลเวอร์และสีเทาสเปซเกรย์ หัวเว่ยเลือกใช้หน้าจอแบบ Ultra FullView ขนาด 13.9 นิ้ว ความละเอียด 3K โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อขอบที่ร้อยละ 91 หน้าจอนี้ยังรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชได้สูงสุด 10 จุด อีกทั้งยังเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของโลกที่รองรับการสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ (Fingers Gesture Screenshot)1 ช่วยให้ผู้ใช้สั่งการได้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น HUAWEI MateBook X Pro รุ่นใหม่ ประสิทธิภาพสูงมากเนื่องจากใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel® Core™ i7 8565 และหน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA® GeForce® MX250 พร้อมแรม GDDR5 ขนาด 2 กิกะไบต์ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไว-ไฟบรอดแบนด์ บลูทูธรุ่น 5.0 และมีพอร์ต ธันเดอร์โบลต์ 3 เพื่อการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัด หัวเว่ยยังติดตั้งระบบเสีย

Dolby Atmos® เพื่อประสบการณ์ด้านเสียงที่เต็มอิ่มทั้งสำหรับความบันเทิงหรือการทำงาน

หัวเว่ยยกระดับคุณสมบัติอัจฉริยะไปอีกขั้น ได้แก่ HUAWEI Share 3.0 OneHop2 ที่ช่วยให้การถ่ายโอนระหว่างคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นเรื่องง่าย คุณสมบัตินี้รองรับทั้งการถ่ายโอนภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และไฟล์เอกสาร3 นอกจากนี้การบันทึกภาพหน้าจอและการส่งภาพนั้นไปยังสมาร์ทโฟนก็ง่ายยิ่งกว่าเดิม ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับสามารถเขย่าสมาร์ทโฟน คลิก “PC HUAWEI Share” ที่คอมพิวเตอร์ ภาพของหน้าจอคอมพิวเตอร์จะส่งไปบันทึกไว้ที่สมาร์ทโฟนทันที4 ยิ่งไปกว่านี้ หัวเว่ยยังพัฒนาระบบแบ่งปันข้อมูลจากคลิปบอร์ด (Clipboard Sharing) ของตนเอง5 เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลที่บันทึกไว้ในคลิปบอร์ดจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ใกล้เคียงอย่างสะดวก

HUAWEI MateBook 13 และ HUAWEI MateBook 14

HUAWEI MateBook 13 และ HUAWEI MateBook 14 คือ โน้ตบุ๊กที่นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดสู่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไป สวยงาม อัจฉริยะ และมีความล้ำหน้าอย่างแท้จริง โน้ตบุ๊กทั้ง 2 รุ่นนี้ผสานหน้าจอแบบ FullView เข้ากับประสิทธิภาพที่เหนือระดับ จุดเด่นด้านการพกพา งานประกอบเปี่ยมคุณภาพ และรูปลักษณ์ที่งดงาม ช่วยให้ผู้ใช้ทำทุกอย่างได้ในโลกที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้จะพัฒนาเพื่อผู้บริโภคทั่วไป แต่ก็มีคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่ทันสมัยเทียบเท่าโน้ตบุ๊กสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ เช่นการรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้ดั่งใจ

HUAWEI MateBook 13 และ HUAWEI MateBook 14 พัฒนาสำหรับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่โดยเฉพาะใช้หน้าจอแบบ FullView ที่มีอัตราส่วนการแสดงผลที่ 3:2 ที่เอื้อกับการสร้างสรรค์งานยุคใหม่ ทั้งยังมีขอบหน้าจอบาง รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุด 10 จุด และรองรับการสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ6 ซึ่งสอดรับกับธรรมชาติของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
HUAWEI MateBook 14 ผลิตขึ้นตามแนวคิดเดียวกับโน้ตบุ๊กรุ่นก่อนหน้าของหัวเว่ย คือมีหน้าจอแบบ FullView

ผลิตอย่างพิถีพิถัน มีรูปลักษณ์ที่งดงาม และมีประสิทธิภาพสูง โน้ตบุ๊กรุ่นนี้ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอ 14 นิ้วจากคุณสมบัติของหน้าจอที่ล้ำสมัย ประสิทธิภาพระดับสูงสุด รวมไปถึงคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่เป็นที่หนึ่ง ใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel® Core™ i7-8565U รุ่นที่ 8 และหน่วยประมวลผลกราฟิก NVIDIA® GeForce® MX250 มีช่องพัดลมระบายอากาศที่ได้แรงบันดาลใจมาจากครีบของปลาฉลาม ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น แบตเตอรี่แบบมาตรฐานความจุ 57.4 วัตต์พร้อมระบบประหยัดพลังงานนั้นช่วยรองรับการใช้งานได้ตลอดวัน

HUAWEI MateBook 13 ใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel® Core™ i7-8565U processor รุ่นที่ 8 และหน่วยประมวลผลกราฟิก the NVIDIA® GeForce® MX150 ช่องพัดลมระบายอากาศ HUAWEI Shark Fin Fans 2.0 ที่ได้ แรงบันดาลใจมาจากครีบของปลาฉลาม ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น ไร้เสียงหมุนของพัดลมแม้จะกำลังทำงานด้วยความเร็วสุงสุด คอมพิวเตอร์แบบพกพารุ่นนี้ใช้หน้าจอแบบ FullView ที่มีอัตราส่วนการแสดงผลที่ 3:2 มีอัตราส่วนหน้าจอต่อขอบหน้าจอที่ร้อยละ 88 และรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม HUAWEI Share 3.0 พร้อม OneHop และระบบแบ่งปันข้อมูลจากคลิปบอร์ด 7 ช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลจากสมาร์ทโฟนไปยังคอมพิวเตอร์หรือกลับกันเป็นไปได้โดยง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากสำหรับผู้ใช้รุ่นใหม่ เช่น นักศึกษาที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาหรือพนักงานรุ่นใหม่ขององค์กร เช่น การสั่งบันทึกภาพหน้าจอโดยใช้ท่าทางการขยับนิ้วมือ 8 คุณสมบัติ Fingerprint Button 2.0 ระบบเสีย

Dolby Atmos® และอื่นๆ อีกมาก เหมาะสมกับการทำงานนอกสถานที่ และการส่งต่อหรือแบ่งปันข้อมูลอย่างไร้รอยต่อ

5G Foldable Smartphone: HUAWEI Mate X

HUAWEI Mate X คือจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนแห่งยุคอนาคต อีกทั้งยังเป็นเครื่องสะท้อนหัวใจของสมาร์ทโฟนตระกูล Mate ได้เป็นอย่างดี สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ผสานทั้งเทคโนโลยี 5 จี แนวคิดสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอพับได้ ปัญญาประดิษฐ์ และส่วนต่อประสานผู้ใช้แบบไม่เหมือนใครเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ จากสมาร์ทโฟนแนวคิดใหม่

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแบบทูอินวัน HUAWEI Mate X คือผลลัพธ์ของการทดลองด้านรูปทรงของสมาร์ทโฟนโดยหัวเว่ย โดยหัวเว่ยผสานพาเนลจอแบบ OLED ที่ยืดหยุ่นได้เข้ากับบานพับกลไกแบบฟัลคอนวิง (Falcon Wing Mechanical Hinge) ส่งผลให้สมาร์ทโฟนแห่งอนาคตนี้มีสไตล์และดูล้ำสมัย สมาร์ทโฟนพับได้ที่มีน้ำหนักเบานี้มีตัวเครื่องสีฟ้า Interstellar Blue อันเป็นสีสันใหม่ที่สื่อถึงอนาคตและความงดงามของเทคโนโลยีล่าสุด HUAWEI Mate X ผสานข้อดีของทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไว้อย่างลงตัว หน้าจอFullView OLED แบบยืดหยุ่นได้และชิปเซ็ต Balong 5000 ชิปเซ็ตโมเดม 5 จีที่มีความเร็วสุงที่สุดในปัจจุบันนำเสนอประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ผสานทั้งหน้าจอขนาดใหญ่และความสะดวกในการพกพาไว้อย่างลงตัว HUAWEI Mate X คือเครื่องมือสร้างสรรค์งานที่ยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อใช้งานในโหมดแท็บเล็ต และการสลับการทำงานระหว่างแอพลิเคชั่นก็เป็นไปโดยง่ายขึ้นอย่างยิ่ง ผู้ใช้งานสามารถทำงานโดยใช้หน้าจอ 2 หน้าจอพร้อมกันเพื่อการทำงานหลายงานพร้อมกัน สร้างความรู้สึกราวกับใช้งานเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์

สมาร์ทโฟนกลุ่มเรือธงของหัวเว่ยต้องมีกล้องถ่ายภาพที่เป็นเสิศเสมอ และ HUAWEI Mate X ยังคงรักษาหลักการนี้ไว้อย่างเคร่งครัด สมาร์ทโฟนแบบพับหน้าจอได้ช่วยให้กล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังตามต้องการ ยกระดับการถ่ายภาพไปอีกขั้น

เนื่องจากหัวเว่ยต้องการก้าวขึ้นผู้นำในยุค 5 จี HUAWEI Mate X มีนวัตกรรมที่ล้ำหน้าทั้งชิปเซ็ต แนวคิดการออกแบบอุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร กล่าวคือ สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตโมเดม Balong 5000 ชิปเซ็ตโมเดมแบบมัลติโหมดรุ่นแรกของโลกที่รองรับเทคโนยี 5 จีและผลิตโดยใช้สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร ส่งผลใช้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนในยุค 5 จี แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีความจุ 4,500 mAh อีกทั้งยังรองรับ HUAWEI SuperCharge ชาร์จแบตได้อย่างรวดเร็วสอดรับกับยุค 5 จี

อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ HUAWEI 5G CPE Pro เริ่มต้นยุค 5 จีในบ้าน

ชิปเซต Balong 5000 คือชิปเซ็ตที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุค 5 จี เนื่องจากชิปเซ็ตนี้สามารถติดตั้งในอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์รับส่งสัญญาณบรอดแบนด์ภายในบ้าน อุปกรณ์ในรถยนต์ หรือโมดูล 5 จีต่างๆ ชิปเซ็ตนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เนตที่ความเร็วระดับ 5 จีได้จากผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบ

HUAWEI 5G CPE Pro ใช้ชิปเซ็ต Balong 5000 รองรับย่านความถี่ทั้ง 4 จี และ 5 จี ชิปเซ็ตนี้ยกระดับการสื่อสารไร้สายไปอีกขั้น ทั้งสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์รับส่งสัญญาณภายในบ้าน และมาตรฐานของการสื่อสารแบบ 5 จี กล่าวคือ ชิปเซ็ตนี้ช่วยให้การดาวน์โหลดคลิปวีดีโอความละเอียด HD ขนาด 1 กิกะไบต์ใช้เวลาเพียง 3 วินาที และสามารถสตรีมคลิปวิดีโอความละเอียด 8K ได้โดยไม่มีการสะดุด HUAWEI 5G CPE Pro สามารรถใช้งานได้ทั้งที่บ้านและสำนักงานขนาดกลางและขนาดย่อมที่ต้องการการสื่อสารในความเร็วสูงสุด ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี HUAWEI HiLink ยกระดับสมาร์ทโฟนไปสู่ยุค 5 จี

ในยุคอนาคตที่เทคโนโลยี 5 จี จะช่วยเชื่อมโยงสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว และหัวเว่ยพร้อมจะเป็นผู้นำเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำงานอย่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มีผลิตภัณฑ์ 5 จีครบถ้วนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ชิปเซ็ต ระบบประมวลผลข้อมูลแบบ edge และบริการระบบคลาวด์ หัวเว่ยมุ่งมั่นจะยกระดับการสื่อสารข้อมูลแบบ 5 จีในทุกๆ สถานการณ์ และช่วยเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวผู้บริโภคเป็นหนึ่งเดียว

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ได้ที่

http://consumer.huawei.com

Facebook: https://facebook.com/huaweimobile

Twitter: https://twitter.com/huaweimobile

YouTube: https://youtube.com/huaweimobile

Instagram: https://instagram.com/huaweimobile

1 ต้องใช้โปรแกรม PC Manager รุ่น 9.1 หรือสูงกว่า

2โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเวบไซต์ของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป

3 คุณสมบัตินี้ไม่มีในผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ

4 บันทึกได้สูงสุด 60 วินาทีต่อเนื่อง

5 โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเวบไซต์ของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป

6 ต้องใช้โปรแกรม PC Manager รุ่น 9.1 หรือสูงกว่า และคอมพิวเตอร์แลปทอปที่มีหน้าจอสัมผัส

7 โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเวบไซต์ของหัวเว่ยคอนซูมเมอร์บิสสิเนสกรุ๊ป

8 ต้องใช้โปรแกรม PC Manager รุ่น 9.1 หรือสูงกว่า และคอมพิวเตอร์แลปทอปที่มีหน้าจอสัมผัส