ดุสิตธานีเผยผลประกอบการปี 2561 กำไรสุทธิเติบโต 8.6% ระบุปัจจัยหลักมาจากการเดินหน้าแสวงหาโอกาสลงทุน-สร้างความหลากหลายและกระจายความเสี่ยง

ดุสิตธานีเผยผลประกอบการประจำปี 2561 รายได้รวม 5,565 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 290 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 267 ล้านบาท คิดเป็น 8.6% แม้ว่าจะขาดรายได้จากโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส โคราช และยังมีรายจ่ายพิเศษจากการเตรียมปิดปรับปรุงโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ในช่วงต้นปี 2562  สะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จที่น่าพอใจของการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ธุรกิจ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มดุสิตธานีในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ ยังมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ของโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส โคราชที่ถูกขายออกไปในปี 2560 และยังมีรายจ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นจากการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เนื่องจากการปิดปรับปรุงโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ดุสิตธานีมีกำไรเพิ่มขึ้นนั้น มีปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ธุรกิจทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย การขยายการเติบโต การกระจายความเสี่ยง และสร้างสมดุล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับกลุ่มดุสิตธานีในระยะยาว

“จะเห็นว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ดุสิตธานีแสวงหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการเติบโต พร้อมทั้งกระจายความเสี่ยง ทำให้ธุรกิจของเรามีความหลากหลาย โดยแกนหลักยังคงเป็นธุรกิจโรงแรมที่ครอบคลุมทั้งแบรนด์ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวารณา แต่เราขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้นด้วยการสร้างโรงแรมแบรนด์อาศัย ที่จับกลุ่มมิลเลนเนียมเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่น เข้าถึงชุมชนอย่างใกล้ชิด โดยยังคงได้รับความสะดวกสบายและการบริการในระดับมาตรฐาน พร้อมๆ กันนั้น เรายังต่อยอดไปสู่ตลาดลักชัวรี่ โดยเข้าลงทุนในกิจการแบรนด์ ‘อีลิธ เฮเวนส์’ ผู้นำในธุรกิจบริหารและให้เช่าวิลล่าหรูในเอเชีย เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจการบริหารจัดการและให้เช่าวิลล่าระดับหรูแบบครบวงจร ครอบคลุมประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งอินโดนีเซีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น และประเทศไทย ทั้งหมดทำให้ภาพของธุรกิจบริการด้านโรงแรมและที่พักของดุสิตธานีครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างขึ้นและชัดเจนขึ้น” นางศุภจีกล่าว

ขณะเดียวกัน ดุสิตธานียังขยายไปสู่การลงทุนในธุรกิจอาหารอย่างจริงจัง เพราะการให้บริการด้านอาหารเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของกลุ่ม โดยเป็นการดำเนินการผ่านบริษัทดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของดุสิตธานี ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โพรดิวซ์ จำกัด หรือ NRIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องดื่มและน้ำผลไม้ และล่าสุดได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารและธุรกิจเคเทอริ่ง รวมถึงการจัดตั้งบริษัท ดุสิต กูร์เมต์ ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อต่อยอดการทำการตลาดผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ของดุสิตธานีด้วย

เกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)  ก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เมื่อปี พ.ศ. 2491 ผู้ก่อตั้งโรงแรมปริ๊นเซสแห่งแรกขึ้นบนถนนเจริญกรุง ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้นำด้านบริหารโรงแรมและด้านการศึกษา ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล  บริหารโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา  ที่เปิดให้บริการในภูมิภาคต่างๆ และยังมีโรงแรมและรีสอร์ตที่อยู่ในแผนพัฒนาเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินงานขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ในตลาดบริการที่พักเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างให้กับแขกที่เข้าพักและลูกค้า โดยได้ขยายตัวเข้าสู่ตลาดให้เช่าวิลล่าตากอากาศระดับบนผ่านการซื้อกิจการอีลิธ เฮเว่นส์ (Elite Havens) แบรนด์ผู้นำในตลาดให้เช่าวิลล่าหรูระดับบนของเอเชีย รวมไปถึงการเปิดตัวกลุ่มโรงแรมอาศัย (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมน้องใหม่สำหรับกลุ่มนักเดินทางที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียลผู้ซึ่งชื่นชอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหมือนเป็นคนท้องถิ่นแท้ๆ ตามหัวเมืองแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก

นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ยังดำเนินธุรกิจเทวารัณย์ สปา และการศึกษา โดยได้ก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานีขึ้นในปี พ.ศ. 2536 สถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท ซึ่งมีสาขาอยู่ที่กรุงเทพฯและพัทยา อีกทั้งยังบริหารโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟูดส์ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจอาหาร โดยที่ผ่านมา ดุสิตฟูดส์ได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โพรดิวซ์ จำกัด หรือ NRIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องดื่มและน้ำผลไม้ และบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารและธุรกิจเคเทอริ่ง

ในปี 2562 ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล จะเริ่มดำเนินการสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use real estate development)  อันประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าขาย และโรงแรม ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2566

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit.com