การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความร่วมมือนำข้อมูลขนาดใหญ่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยุค 4.0 ในโครงการ ‘Tourism Smart Data, The Time is Now’

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวประกาศการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และแกร็บ ประเทศไทย ภายใต้โครงการ Tourism Smart Data, The Time is Now’ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระดับประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม
 
กรุงเทพมหานคร, 26 กุมภาพันธ์ 2562 – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและจัดทำระบบจัดเก็บ ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)เพื่อขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวของประเทศอย่าง เป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ ‘Tourism Smart Data, The Time is Now’ โดยข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 องรัฐบาล ในการนำเทคโนโลยีและข้อมูลของทั้งภาครัฐและเอกชนมาใช้ประโยชน์เพื่อ ขับเคลื่อนประเทศ พร้อมสร้างนวัตกรรมที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพด้านการเดินทางและท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
 
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลรองรับการทำตลาดการท่องเที่ยว และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว จึงได้ริเริ่มโครงการ Tourism Smart Data, The Time is Now’  ขึ้นพร้อมร่วมกับ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) มาใช้พัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูล อัจฉริยะด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถนำมาใช้กำหนดยุทธศาสตร์และสร้างกลยุทธ์การตลาดในการผลักดัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและตอบรับโลกแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของเราก็คือการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมให้เดินทางกลับมาเที่ยวซ้ำ การขยายฐานลูกค้า นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ รวมถึงการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปยังเมืองรอง และการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นตลาด
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ททท. และ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) มีเป้าหมายร่วมกันในการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย พร้อมพัฒนาคุณภาพ ชีวิตและสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน การลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือ ระหว่าง ททท. และ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ครั้งสาคัญ นอกเหนือจากความร่วมมือในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวก่อนหน้านี้ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญ แกร็บสิ’ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการสนับสนุน งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจาปี 2562 ครั้งที่ 39เมื่อต้นปีนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศจำนวนมาก
 
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จะร่วมกับ ททท. ในการเดินหน้าตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลไทยที่ต้องการส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมายในโลกปัจจุบันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จะแลกเปลี่ยนข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) ที่ไม่เปิดเผยตัวตน จากการให้บริการอันหลากหลายบนแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงลึกที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและ ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ สถานที่ยอดนิยม ระยะเวลาในการพำนักในประเทศไทย รวมถึงทิศทางการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ พร้อมให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่นักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล (Data Scientists) ของแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ที่จะทางานร่วมกับทีม ททท.
 
นายยุทธศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ความร่วมมือของ ททท. กับ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) ถือเป็นการวางแผน พัฒนาและนำข้อมูลที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในทุกมิติ ท้ังผ่านการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยว การสร้างนวัตกรรมด้านการเดินทาง และการจัดแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นทั่วไทย ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการกระจายตัวของ นักท่องเที่ยวและรายได้ลงสู่ระดับท้องถิ่น ทั้งนี้ความร่วมมือของแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) กับ ททท. ในครั้งนี้ ถือเป็นการนำนวัตกรรมมาช่วยยกระดับประเทศไทยอย่างยั่งยืน และเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และการพัฒนาประเทศในระยะยาว