กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานแถลงข่าวเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 7 หรือ Thailand International Film Destination Festival 2019 : TIFDF2019 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Beyond Destination Thailand เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของโลเคชั่นยอดนิยมของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การจัดการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นที่ถ่ายทำในประเทศไทยของเหล่านักศึกษาด้านภาพยนตร์จากนานาประเทศ และนักศึกษาไทย และการจัดฉายภาพยนตร์ดังที่ใช้ประเทศไทยเป็นโลเคชั่นสำคัญในภาพยนตร์ ซึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก พร้อมด้วย 2 นักแสดงชั้นนำของเมืองไทย ต่าย – เพ็ญพักตร์ และ กอล์ฟ – พิชญะ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ที่เคยร่วมทำงานกับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติ
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า งานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 7 หรือ Thailand International Film Destination Festival 2019 : TIFDF2019 ได้มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2556 โดยถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของโลเคชั่นยอดนิยมของกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ กิจกรรมมีส่วนสำคัญในการสร้างและพัฒนาเครือข่ายบุคลากรในวงการภาพยนตร์รุ่นใหม่ในนานาประเทศ พร้อมด้วยการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากนานาประเทศ และผู้ที่ได้รับชมผลงานภาพยนตร์สั้นของผู้เข้าประกวด รวมถึงการจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์ต่างประเทศชื่อดังที่มาถ่ายทำในประเทศไทยให้ผู้สนใจได้รับชม เพื่อส่งต่อความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคนในฐานะเจ้าบ้าน พร้อมฉายภาพให้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมการเข้ามาของกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ที่ไม่ใช่เพียงการนำรายได้เข้าสู่ประเทศในทางตรง แต่ยังหมายถึงการที่ประเทศไทยจะได้สื่อสารและประชาสัมพันธ์ประเทศสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์อีกนานับประการในอนาคต
“TIFDF ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการประชาสัมพันธ์ความพร้อมของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลเคชั่นสำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศผ่านกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นใหม่ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ที่ไม่เพียงแต่ความเพียบพร้อมของสถานที่สวยงามหลากหลาย ทั้งประเพณี วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งศักยภาพของทีมงานคนไทย รวมไปถึงเครื่องมือ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของการถ่ายทำภาพยนตร์จากทั่วโลก ทั้งนี้อุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยนั้น มีความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ แต่ยังเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย เฉกเช่นความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เกิดขึ้นภายหลังการจัดฉายภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง อาทิ The Beach, Lost in Thailand, James Bond 007, Hang Over เป็นต้น”
ในปัจจุบันกองถ่ายทำภาพยนตร์ที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย มีทุกประเภท ทั้งภาพยนตร์เรื่องยาว รายการโทรทัศน์ มิวสิควิดีโอ สารคดี ซึ่งสารคดีที่ถ่ายทำเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม ประเพณีของไทยได้รับความสนใจ และเข้ามาถ่ายทำอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่ส่งต่อสู่สายตาคนทั่วโลกด้วย
ด้านนายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เผยถึงรายละเอียดของโครงการ TIFDF 2019 ว่า “ในปีนี้กิจกรรมของโครงการ TIFDF 2019 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Beyond Destination Thailand” ชูจุดเด่นของเมืองไทยที่เหนือกว่าความเป็นแค่จุดหมายปลายทางของผู้ผลิตภาพยนตร์ทั่วโลก เพราะเหนือกว่าด้วยความโดดเด่นของโลเคชั่นที่สวยงามมีความหลากหลาย ทั้งธรรมชาติที่สมบูรณ์ วัฒนธรรมและประเพณีอันล้ำค่า ที่มาพร้อมกับศักยภาพของทีมงาน และความพรั่งพร้อมของเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของกองถ่ายทำภาพยนตร์แบบ “เหนือความคาดหมาย” จนทำให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นโลเคชั่นยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคที่กองถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศให้การยอมรับ โดยได้ผสานแนวคิดนี้กับนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ 55 จังหวัดเมืองรอง เพื่อขยายโอกาสให้จังหวัดเมืองรองได้เผยแพร่ความสวยงามโดดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อัตลักษณ์ สู่สายตาชาวโลก ผ่านผลงานภาพยนตร์สั้นของผู้เข้าแข่งขันภายใต้งานเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2562 ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมตั้งแต่วันนี้จนถึง 2 เมษายน 2562 โดยในปีนี้ได้มีกิจกรรม หลัก ๆ คือ
1) การแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Beyond Destination Thailand” ที่มาพร้อมเงื่อนไขพิเศษในการให้ใช้ 55 จังหวัดเมืองรองเป็นสถานที่ถ่ายทำ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 26 – 31 มีนาคม 2562 โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 2 ประเภท คือ
-
ประเภททีมนักศึกษาต่างชาติ ทีมละ 2 คน ปีนี้นักศึกษาระดับปริญญาตรีด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก สมัครเข้ามาจำนวน 320 ทีม จาก 77 ประเทศทั่วโลก ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ประเทศแถบยุโรป เช่น บริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ สาธารณรัฐเฮเลนิก (กรีซ) โปรตุเกส รัสเซีย ประเทศทางอเมริกาใต้ เช่น บราซิล อาร์เจนตินา และประเทศแถบเอเซีย เช่น เนปาล ฟิลิปปินส์ จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย เป็นต้น โดยการคัดเลือกจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ ทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยด้านภาพยนตร์ กรรมการพิจารณาบทภาพยนตร์ฯ เป็นต้น ร่วมกันคัดเลือกทีมนักศึกษาต่างชาติให้เหลือ 20 ทีม และในแต่ละทีมจะมีการคัดเลือกนักศึกษาไทยที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ทำหน้าที่เป็น Production Assistant หรือผู้ช่วยผู้ผลิต ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในงานถ่ายทำภาพยนตร์และมีหน้าที่ในการประสานงานกับสถานที่ถ่ายทำต่าง ๆ ให้กับทีมนักศึกษาต่างชาติ ทีมละ 1 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยการผลิต และสร้างรูปแบบการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานต่างชาติและทีมงานไทย และที่สำคัญเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านภาพยนตร์ร่วมกัน ซึ่งทีมนักศึกษาต่างชาติเหล่านี้จะถูกกำหนดให้ถ่ายทำใน 55 จังหวัดเมืองรอง ภายใต้หัวข้อ “Living Eco Living Thainess” โดยรางวัลของการแข่งขันสำหรับทีมนักศึกษาต่างชาติมีทั้งสิ้น 4 รางวัล คือรางวัลผู้ชนะเลิศ 1 รางวัล จะได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท, รางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล จะได้รับเงินรางวัล 80,000 บาท และ 50,000 บาทตามลำดับ และรางวัล Social Media จำนวน 1 รางวัล จะได้รับรางวัลเป็นที่พักโรงแรมในประเทศไทย
-
ประเภททีมนักศึกษาไทย ทีมละ 2 คน ซึ่งมีนักศึกษาระดับปริญญาตรีด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของประเทศไทย สมัครเข้ามาแล้วกว่า 30 ทีม โดยจะปิดการรับสมัครวันที่ 3 มีนาคม 2562 ซึ่งการคัดเลือกจะมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง ร่วมกันให้คำแนะนำและคัดเลือกทีมนักศึกษาไทยให้เหลือ 15 ทีม โดยกำหนดให้ถ่ายทำใน 55 จังหวัดเมืองรอง ภายใต้หัวข้อ “รักษ์ไทยรักษ์โลก” โดยรางวัลของการแข่งขันสำหรับทีมนักศึกษาไทยมีทั้งสิ้น 4 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไป – กลับ รวมที่พักและบัตรเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศที่กรมการท่องเที่ยวเข้าร่วมด้วย , รางวัลรองชนะเลิศ 2 รางวัล จะได้รับเงินรางวัล 80,000 บาท และ 50,000 บาทตามลำดับ และรางวัลพิเศษ Social Media จำนวน 1 รางวัล จะได้รางวัลที่พักโรงแรมในประเทศไทย
2) การจัดฉายภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย (Thailand on Screen) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 31 มีนาคม 2562 โดยเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่อยากขอเชิญคนไทยมาร่วมภาคภูมิใจในการรับชมภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้จะจัดฉายภาพยนตร์จากทั่วโลก จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ Detective Chinatown , Bounty Hunters , Hangover Part 2 , Changeland และ Gold ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และพบกับกิจกรรมพิเศษของบรรดาเหล่านักแสดงและโปรดิวเซอร์ในเรื่องที่จัดฉายมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์และความประทับใจในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในประเทศไทย
3) การประกาศรางวัลการแข่งขันการถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (Awards Ceremony) กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2562 ณ โรงละครเคแบงก์ สยามพิฆเนศ สยามสแควร์วัน โดยในงานนี้จะมีทั้งดาราดังไทยและต่างชาติ รวมไปถึงบุคคลในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์จะมาร่วมงานด้วยมากมาย
โดยภายในงานยังได้พบกับการแสดงเปิดงานชุดพิเศษ “Beyond Destination – Thailand The Integration of Technology & Culture” โดยศิลปินมากความสามารถ รัดเกล้า อามระดิษ และตั้ม The Star พร้อมด้วย 2 นักแสดงชั้นนำของเมืองไทย ต่าย – เพ็ญพักตร์ และ กอล์ฟ – พิชญะ ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ที่เคยมีโอกาสได้ร่วมทำงานกับกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติ