“เอ็ม วิชั่น” เปิดงบปี 2561 ธุรกิจหลักโตเด่น โชว์รายได้จากการจัดงาน Thailand Mobile Expo ทำนิวไฮ แตะ119 ล้านบาท

“MVP” เผยงบปี 2561 รายได้จากการจัดงาน Thailand Mobile Expo อยู่ที่ 119 ล้านบาท พร้อมขึ้นทำนิวไฮ หนุนรายได้การจัดแสดงงานที่เป็นธุรกิจหลักแตะ 166.80 ล้านบาท เล็งผลประกอบการปี 2562 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าจัดตั้งบริษัทย่อยอีก 3 แห่ง เพื่อส่งเสริมการเติบโตในอนาคต

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการจัดงาน Thailand Mobile Expo อยู่ที่ 119 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ และบริษัทได้มีการขยายพื้นที่การจัดแสดงงานและขายพื้นที่ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการขายสื่อโฆษณาในบริเวณงานได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวยังช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการจัดแสดงงานมีรายได้อยู่ที่ 166.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10%จากปี 2560 ที่มีรายได้จากธุรกิจการจัดแสดงงานอยู่ที่ 157.70 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทมีการจัดงานกีฬา เช่น 10K Thailand Championship จอมบึงมาราธอน เขาประทับ ช้างเทรล และมีการขยายงานเพื่อให้บริการรถคาราวานเพิ่มขึ้น เช่น งานเทศกาลดนตรีรวมไปถึงการให้บริการรถคาราวานตามสวนผลไม้ต่างๆ โดยในปี 2561มีรถคาราวานให้บริการมากกว่า 70 คันและบริษัทมีรายได้จากการจัดงานด้านอื่นๆ ให้ครอบคลุมหลากหลายมากขึ้น เช่น งานโครงการเปิดตัวสินค้า งานเลี้ยงเพื่อขอบคุณตัวแทนจำหน่าย การประชุมเชิงปฏิบัติการ เป็นต้น

ขณะที่ในปี 2561 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ 223.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอยู่ที่  129% จากปี 2560 มีรายได้จากธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ 97.50 ล้านบาทเนื่องจากโครงการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือพิเศษโครงการหนึ่งให้แก่ลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นโครงการใหม่ในเดือนสิงหาคม 2561

อีกทั้งบริษัทมีรายได้จากการให้บริการงานโฆษณาและเอเจนซี่อยู่ที่ 60.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73% จากปี 2560 มีรายได้จากการให้บริการงานโฆษณาและเอเจนซี่อยู่ที่ 34.90 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงานโครงการประชาสัมพันธ์ทางการตลาดมูลค่า 14.80 ล้านบาท และโครงการวางแผนการตลาดมูลค่า 16 ล้านบาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 บริษัทมีผลขาดทุนอยู่ที่ 50.50 ล้านบาท เนื่องจากโครงการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือพิเศษ ที่ขณะนี้มีการฟ้องร้องกันโดยทางบริษัทได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี และฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญากับบริษัทคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 106.3 ล้านบาทรวมดอกเบี้ย โดยในปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

สำหรับในปี 2562 บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการปี 2562 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ เนื่องจากธุรกิจหลักมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะงาน Thailand Mobile Expo ที่ได้ย้ายสถานที่จัดงานมาอยู่ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค ทำให้บริษัทมีพื้นที่ในการให้เช่าเพิ่มมากขึ้นและทำให้มีพื้นที่ในการขายโฆษณาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงในปีนี้ทางบริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองกรณีพิเศษอีกแล้ว

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 มีมติอนุมัติการลงทุนในบริษัทร่วมแห่งใหม่จํานวน 3 บริษัท ได้แก่ 1.อนุมัติการลงทุนในบริษัทแห่งใหม่ เพื่อดําเนินธุรกิจให้คําปรึกษาด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ โดยคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทภายในไตรมาส2/62 ซึ่งมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 5 ล้านบาท และมีหุ้นสามัญจํานวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2.60 ล้านบาท และ MVP มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 52%

โดยคาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อจะสามารถเข้าถึงศิลปินไอดอลที่กําลังได้รับความนิยม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และสร้างความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท รวมทั้งได้รับส่วนแบ่งจากการเป็นนายหน้า การจัดกิจกรรม การโฆษณา การจําหน่ายสินค้า และดิจิทัลคอนเทนต์ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

2.อนุมัติการลงทุนในบริษัทย่อยแห่งใหม่ เพื่อดําเนินธุรกิจขายและให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเน้นการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่แอพพลิเคชั่น คอนเท้นต์ เน็ตเวิร์ค เซิฟเวอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงการให้บริการฝึกอบรม และการให้บริการทางการตลาด ซึ่งมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 5 ล้านบาท และมีหุ้นสามัญจํานวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2.55 ล้านบาท และ MVP มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 51% โดยคาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับ ทำให้บริษัทจะสามารถขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะนําสินค้าและบริการที่ทางบริษัทจําหน่ายและให้บริการไปในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ทําให้บริษัทสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

  1. อนุมัติการลงทนในบริษัทร่วมแหงใหม่ เพื่อดําเนินธุรกิจการให้บริการด้านการจัดแข่งขนกีฬาแบบครบวงจร ซึ่งมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 5 ล้านบาท และมีหุ้นสามัญจํานวน 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2 ล้านบาท และ MVP มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 40 %โดยคาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการจัดงานด้านกีฬา และสามารถให้บริการแบบครบวงจร สำหรับการลงทุนตั้งบริษัทใหม่ดังกล่าว โดยบริษัทมีเงินลงทุนมาจากเงินทุนเวียนของบริษัท