แกร็บ ประกาศความสำเร็จเดือนกุมภา ฉลองยอดใช้บริการสะพัดช่วงแคมเปญ 7 วันนับล้าน

● มีผู้ใช้งานและผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมมากกว่า ล้านราย ในระยะเวลาที่จัดแคมเปญเพียงเจ็ดวัน
● ยอดการใช้บริการโดยรวมของแกร็บในเดือนกุมภาพันธ์2562 จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า x2.5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมากสุดเป็นประวัติการณ์
● พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำในการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน รวมถึงจับมือหน่วยงานภาครัฐในการร่วมพัฒนาประเทศ ผ่านการมอบโอกาสในการเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตของชุมชน

แกร็บ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จของแคมเปญใหญ่อลังการรับตรุษจีน “แกร็บ เฮง เฮง เฮง แจกทีกว่า 100 ล้าน” ช่วงวันที่ 4 – 10 กุมภาพันธ์ 2562 โดยในระยะเวลาที่จัดแคมเปญเพียงเจ็ดวันมีผู้ใช้งานและผู้ประกอบการร่วมกิจกรรมมากกว่า 3 ล้านราย พร้อมตอกย้ำตำแหน่งผู้นำการเป็นซูเปอร์แอพที่ตอบรับความต้องการในทุกวันของผู้บริโภค ทั้งผ่านการให้บริการเดินทางที่พุ่งทะลุถึงกว่า 1 ล้านเที่ยว  ยอดส่งอาหารแกร็บฟู้ดที่มีมากกว่า 800,000 จาน และการเรียกบริการส่งพัสดุสินค้าในช่วงจับจ่ายและซื้อของไหว้ซึ่งทำให้ยอดแกร็บเอ็กซ์เพรสเพิ่มขึ้นกว่า x2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และการใช้คะแนนรีวอร์ดสแลกรางวัลที่มีมากถึง24 ล้านคะแนน ส่งผลให้ยอดการใช้บริการโดยรวมของแกร็บในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า x2.5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมากสุดเป็นประวัติการณ์

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทยกล่าวว่า “แกร็บ ต้องขอขอบคุณพันธมิตรชั้นนำทั้งหลาย อาทิ ทั้ง เจดีเซ็นทรัล ลาซาด้า ช้อปปี้ ไอฟลิกซ์  เมเจอร์กรุ๊ป รวมถึงโตโยต้า กรุ๊ป และฮอนด้า รวมถึงพันธมิตรบัตรเครดิตและเดบิต อาทิ ซิตี้ กสิกรไทย ยูโอบี และยูเนี่ยนเพย์ ที่ทำให้เราสามารถมอบข้อเสนอที่ดีกว่าที่เคยให้กับผู้ใช้ ความสำเร็จในครั้งนี้ยังเป็นเครื่องตอกย้ำว่าการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรนั้นช่วยสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจแกร็บในตลาด โดยต่อจากนี้ เราจะทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับที่ลึกขึ้นเพื่อมอบบริการและผลิตภัณฑ์ ตลอดจนข้อเสนอที่หลากหลายและตอบรับความต้องการของตลาดมากกว่าที่เคย”

“ทั้งนี้ เป้าหมายของแกร็บ คือตอบแทนสังคมไทย โดยการยกระดับรายได้และช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ผ่านมา นอกเหนือจากพันธมิตรในภาคเอกชน อาทิ กสิกรไทยในการพัฒนาบริการทางการเงิน และเซ็นทรัล กรุ๊ป ในการนำผู้ประกอบการอาหารในเครือขึ้นมาให้บริการบนแกร็บฟู้ด  เรายังได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งการเข้าไปสนับสนุนการให้บริการเดินทางที่งานบุรีรัมย์ โมโต จีพี และวิสับทัศน์บุรีรัมย์โมเดล ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหน่วยงานรัฐบาลในระดับท้องถิ่น รวมถึงผู้ขับขี่ทั้งรถแท็กซี่ รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์รับจ้างในจังหวัด, การสนับสนุนร่วมจัดระเบียบผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้จากการเข้าร่วมแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะเข้าร่วมกับแกร็บในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ทำให้เราสามารถให้บริการรับส่งในกรุงเทพฯ โดยมีระยะเวลาที่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บไบค์วินไปรับผู้โดยสารโดยเฉลี่ยน้อยกว่า 5 นาทีรวมถึงการจับมือสำนักงานประกันสังคม ภายใต้กระทรวงแรงงาน สนับสนุนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เข้าสู่ระบบประกันสังคมตามมาตรา 40 โดยมอบเงินสมทบ 3 เดือนแรก ให้กับผู้ขับขี่ 200ราย นอกเหนือจากการมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่รวมมูลค่า 1 ล้านบาท ในโครงการ “Grab the Future”  และล่าสุดคือการจับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลอัจฉริยะ (Smart Data System) ที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และแคมเปญการตลาดร่วมกันด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของแกร็บในการร่วมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับประเทศไทย”

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจแกร็บในปี 2561 ที่ผ่านมานั้นมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกบริการเฉลี่ยรวมกันมากกว่าเท่าตัว โดยบริการแกร็บฟู้ดเติบโตอย่างโดดเด่นที่สุด คือมากกว่า 40เท่า (หรือ 4,000 เปอร์เซ็นต์) ในด้านจำนวนออร์เดอร์ ทำให้แกร็บฟู้ดเป็นหมายเลข 1 ในอุตสาหกรรมการสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นในไทยภายหลังเปิดตัวเพียงแค่ประมาณหนึ่งปี โดยปัจจุบัน แกร็บฟู้ด เป็นแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารที่ครอบคลุมการให้บริการมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม

เกี่ยวกับ แกร็บ

แกร็บ (Grab) คือแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของลูกค้าในการเดินทาง รับประทานอาหาร ส่งของ รวมไปถึงชำระเงินผ่านมือถือและโมบายวอลเล็ต ซึ่งได้รับการเรียกใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกร็บ เชื่อว่าชาวเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล จึงได้ให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมการเดินทาง การรับส่งอาหาร การจัดส่งพัสดุสินค้า รวมไปถึงการชำระเงินผ่านมือถือและบริการทางการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน แกร็บให้บริการใน 8 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม พม่าและกัมพูชา สามารถอ่านและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.grab.com