บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แต่งตั้ง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด คนใหม่

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง มร. กัลดริค ดอนเนอซาน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เข้ารับตำแหน่งต่อจากมร. ลาร์ส นีลเซ่น ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ภูมิภาคตะวันออกกลางของบีเอ็มดับเบิลยู ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป

มร. ดอนเนอซาน ได้ร่วมงานกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มานานกว่า 15 ปี โดยก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย มร. ดอนเนอซานเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ฝ่ายขายประจำภูมิภาค บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ณ ประเทศออสเตรีย ดูแลบริหารงานโดยรวมส่วนภูมิภาค ครอบคลุม 9 ประเทศ ในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ในตำแหน่งใหม่นี้ มร. ดอนเนอซานจะรับผิดชอบการบริหารและพัฒนาภาพรวมของการตลาดและการขายของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย รวมถึงการบริหารแบรนด์ การวางแผนการขาย การวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และการสื่อสารการตลาดสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั้งรุ่นนำเข้าและรุ่นประกอบในประเทศไทย

มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมมีความยินดีที่ มร. กัลดริค ดอนเนอซานได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทย ซึ่งในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด มร. ดอนเนอซานจะมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการบริหารและวางกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดเพื่อร่วมผลักดันความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป ซึ่งผมมั่นใจว่าประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการขายและการตลาดของ มร. ดอนเนอซานจะช่วยให้เราสามารถสร้างการเติบโตได้อีกมากมายในตลาดยนตรกรรมพรีเมียมของประเทศไทย”

“และในโอกาสนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับ มร.ลาร์ส นีลเซ่น สำหรับตำแหน่งใหม่ ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มร. นีลเซ่นไม่เพียงเป็นเรี่ยวแรงที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของยอดจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย ซึ่งได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์และอัตราการเติบโตสูงที่สุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกถึงสองปีซ้อนในปี 2560 และ 2561 แต่ยังได้แสดงถึงความทุ่มเทและความสามารถในการบริหารและสนับสนุนโครงการของสายงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในนามของคณะผู้บริหารบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ผมขอขอบคุณ มร. นีลเซ่นและขอให้เขาประสบความสำเร็จกับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้”

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 30 แห่งใน 14ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

ในปี พ.ศ. 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2,490,000 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 165,000 คันทั่วโลก กำไรสุทธิในปีงบประมาณ 2560 ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อยู่ที่ 10.655 พันล้านยูโร จากรายได้รวมทั้งหมด 98.678 พันล้านยูโร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 129,932 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

ในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้เป็นสถิติใหม่ที่ 12,036 คัน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 20% และยังนับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในเครือข่ายของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน ส่วนยอดการส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 122% ขณะที่มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดการส่งมอบรถตลอดปีสูงเป็นสถิติใหม่เช่นกันที่ 1,051 คัน (เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า) และ 2,154 คัน (เพิ่มขึ้น 8%) ตามลำดับ

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 30 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 12 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 และบีเอ็มดับเบิลยู X3 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 750 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 2 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 530e และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le