ดร.มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทีโอที เปิดเผย ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ส่งโครงการเน็ตประชารัฐซึ่งดูแลรับผิดชอบโดย ทีโอที เข้าประกวดเพื่อชิงรางวัล WSIS Project Prize 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU ได้รับการโหวตจากจนติด 1 ใน 5 โครงการพื้นฐานของสารสนเทศและการสื่อสารที่ดีที่สุดของโลก
“ทีโอที มีความยินดีเป็นอย่างมากที่โครงการเน็ตประชารัฐ ได้รับการโหวตให้เป็นโครงการที่ดีที่สุดหนึ่งโครงการ เนื่องจากโครงการเข้าถึงผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่จนถึงปัจจุบันกว่า 1 ล้านคน และมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มถึง 10 ล้านคนภายในปีหน้า ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงเป้าหมายหลักขององค์กรในการเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นอกจากโครงการเน็ตประชารัฐแล้ว บริษัทฯ ยังมีโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการวางโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อีกได้แก่ โครงการทดสอบ 5G (5G Testbed) ในระเบียงพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โครงการ Big Rock โครงการ USO และโครงการติดตั้งระบบโทรคมนาคมงานสำคัญสำคัญของหน่วยงานภาครัฐ”
นอกจากนี้ โครงการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือโครงการ Big Rock ดำเนินงานปรับปรุงโครงข่ายเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังโรงเรียนและโรงพยาบาลของรัฐที่ยังไม่มีการเข้าถึง รวมถึงดำเนินการขยายความจุอินเทอร์เน็ต (Bandwidth) ให้กับโรงพยาบาลเพื่อรองรับการตรวจรักษาทางไกล (Tele-Medicine)
ส่วน โครงการ USO หรือ โครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ของสำนักงาน กสทช. เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีเป้าหมายในการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมให้ทุกคนได้รับบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง ทั้งผู้ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อย โดย ทีโอที ชนะการประมูลและรับหน้าที่ก่อสร้างอาคารศูนย์ USO Net จำนวน 391 แห่ง และจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) ในพื้นที่ชายขอบดังกล่าวอีกด้วย
ดร.มนต์ชัย กล่าวต่อไปว่า ด้านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ คือ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ของภาครัฐ อันได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา, โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การพัฒนาโครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3, การพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบับ ระยะที่ 3, โครงการพัฒนารถไฟฟ้ารางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ, โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
และล่าสุด ในส่วนของโครงการ 5 G Testbed บริษัท ฯ ยังเป็นผู้ลงทุน ในการพัฒนาเครือข่าย โดยได้นำระบบ Infrastructure Sharing มาทดสอบใช้ ซึ่งปัจจุบันประเทศผู้นำทางด้านคมนาคมหลายหลายประเทศก็มีการนำระบบนี้มาใช้แล้ว ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือ ลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในติดตั้ง สามารถขยายโครงข่ายได้ครอบคลุมมากขึ้น
อนึ่ง บมจ. ทีโอที เป็นผู้นำการให้บริการโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลของประเทศ ด้วยพันธกิจหลัก คือการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้า, ให้บริการอย่างมีคุณภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยสู่ยุคดิจิทัล