กลายเป็นไวรัลที่โลกจับตาบน Twitter สำหรับคลิปที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงสะบัดพระหัตถ์ (มือ) เพื่อไม่ให้ศาสนิกชนเข้ามาถวายความเคารพด้วยการจูบที่พระธำมรงค์ประจำตำแหน่ง (แหวน) คลิปนี้ถูกสื่อพาดหัวว่าเป็นคลิปที่ “หยุดดูไม่ได้” ล่าสุดยอดชมบน Twitter ทะลุ 9 ล้านครั้ง ถูก Retweets ไม่ต่ำกว่า 17,000 ครั้งในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
คลิปวิดีโอนี้ถูกโพสต์จนแพร่หลายครั้งแรกโดยผู้ใช้ Twitter นามว่า Catholic Sat (@CatholicSat) ซึ่งเป็นช่องสถานีสำหรับชาวคาทอลิกผ่านดาวเทียมและระบบสตรีมมิ่งบนอินเทอร์เน็ต คำบรรยายของคลิประบุว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไม่โปรดให้ใครมาจุมพิตพระธำมรงค์ พร้อมกับโพสต์คลิปที่สามารถยืนยันความจริงนี้ได้ชัดเจน
Pope Francis really doesn’t want anyone kissing his ring.
This from today, after Mass … pic.twitter.com/CZUO8ppNfo— Catholic Sat (@CatholicSat) 25 มีนาคม 2562
ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง คลิปนี้มียอด Like เกิน 51,286 ครั้ง ท่ามกลางผู้แสดงความคิดเห็นเกิน 5 พันครั้ง ส่วนใหญ่วิจารณ์โป๊ปในแง่ลบ โดยบางเสียงบอกว่าปวดใจหากเปรียบเทียบกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ทรงยิ้มให้ศาสนิกชนจนทุกคนประทับใจ
ไม่นาน วิดีโอนี้ถูกนำมาเผยแพร่บน YouTube จนมียอดชมเกิน 229,000 ครั้งในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยวิดีโอถูกโพสต์แบบปิดความเห็น
ปรากฏการณ์นี้ทำให้วงการคาทอลิกโลกเกิดกระแสหลากหลาย เพราะการจุมพิตที่พระธำมรงค์เป็นสิ่งที่ชาวคาทอลิกปฏิบัติมานานนับร้อยปี เนื่องจากเป็นการสื่อถึงความศรัทธาและภักดีต่อศาสนจักร แต่บางสื่อวิเคราะห์ไปว่าโป๊ปฟรานซิสโปรดการแสดงความภักดีเป็นการส่วนตัว มากกว่าการแสดงความภักดีต่อศาสนจักร จุดนี้ผู้สนับสนุนโป๊ปฟรานซิสบางรายเห็นด้วยกับการยกเลิกการจุมพิต โดยมองว่าเป็นธรรมเนียมของการแสดงความภักดีต่อกษัตริย์ ซึ่งไม่จำเป็นในทางศาสนา ขณะที่บางรายมองว่าการยกเลิกธรรมเนียมนี้จะลดความรู้สึกว่าพระองค์คือตัวแทนของพระเยซู ซึ่งจะดีกว่าการที่โป๊ปถูกมองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าถึงยาก
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในขณะนี้คือ กระแสดังกล่าวนำไปสู่การหยิบข่าวคราวที่เกี่ยวกับโลกคาทอลิกขึ้นมารายงานอีกครั้ง ทั้งกรณีที่ส่วนรักษาความปลอดภัยพระสันตปาปากำลังจะใช้เทคโนโลยี 3D printing ในการพิมพ์หมวกอัศวินพลาสติกที่จะมองดูเหมือนโลหะเก่าแก่ ทั้งหมดนี้สะท้อนความเปลื่ยนแปลงในโลกคาทอลิก ซึ่งอาจจะส่งผลถึงธรรมเนียมและแนวคิดของชาวคาทอลิกในอนาคต
ที่ผ่านมา สำนักวาติกันพยายามปรับตัวให้เข้ากับยุตดิจิทัลเพื่อไม่ให้ถูกดิสรัปจนกู่ไม่กลับ โลกเริ่มเห็นวาติกันเปิดตัวช่องของตัวเองบน YouTube เมื่อปี 2009 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก่อนจะขยายมาเปิดเว็บไซต์ข่าว News.va เพื่อต่อยอดการสื่อสารทั้งบน YouTube, Twitter และ Instagram ด้านสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสนั้นทรงมีบัญชี Instagram ของพระองค์เองในปี 2016 ในชื่อ Franciscus
สำหรับปีที่แล้ว วาติกันสร้างมิติใหม่ด้วยการจับมือกับภาคเอกชน เช่น Google, Microsoft, SalesForce รวมนักศึกษา 120 ชีวิตเข้าร่วมประกาศเฟ้นหาสุดยอดนักแฮกมือทองในงาน Hackathon งานนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VHacks ซึ่งวาติกันวางเป้าหมายให้เทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา และ การช่วยเหลือผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ซึ่งมีอยู่ในตัวนักศึกษาเหล่านี้ นอกจากนี้ วาติกันยังมีการสร้างเกมชื่อ JC Go เพื่อให้ผู้เล่นสะสมสัญลักษณ์ในไบเบิลตามสไตล์ “Pogemon Go” โดย JC ย่อมาจาก Jesus Christ ซึ่งวาติกันหวังว่าจะสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วยเกม โดยศาสนิกชนสามารถบริจาคเงินผ่านเกมได้ด้วย.
ที่มา :
- https://www.youtube.com/watch?v=55e58LCv79c#action=share
- https://twitter.com/CatholicSat/status/1110216790985113600
- https://www.instagram.com/franciscus/?hl=en
- https://www.fastcompany.com/90325520/i-cant-stop-watching-pope-francis-try-to-stop-people-from-kissing-his-ring