ไซเบอร์ดายน์ บริษัท หุ่นยนต์ไซบอร์กการแพทย์ชั้นนำของโลกจากญี่ปุ่นเปิดตัวในไทย เชื่อมั่นศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับโลก

บริษัทไซเบอร์ดายน์ แถลงเปิดตัวธุรกิจให้บริการหุ่นยนต์ไซบอร์กทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELSในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งการเปิดตัวจัดขึ้นภายในงานสัมมนาการแพทย์หุ่นยนต์ล้ำยุคประจำปี2562(International Advanced Medical Robotics Symposium 2019) จัดขึ้นโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELSในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ โรงแรมสุโกศล กรุงเทพฯ

การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทCyberdyneประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับหรือเดินได้ให้มีความสามารถในการเดินหรือช่วยตัวเองได้อีกครั้งหนึ่งในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ ซาอุดิอาระบีย มาเลเซีย และ ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยศูนย์ฟื้นฟูกายภาพบรุ๊คส์ (Brooks Rehabilitation) ในมลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลด้านกายภาพบำบัดที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของสหรัฐ ได้ใช้หุ่นยนต์ไซบอร์กของCyberdyne ในการกายภาพบำบัดให้แก่คนไข้ที่ไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายให้เดินเองได้ด้วยวิธีการรักษาแบบปกติ

ศ.ดร. โยชิยูกิ ซานไค ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัทไซเบอร์ดายน์กล่าวว่า “มนุษย์ทุกคนเกิดมา พอมีอายุที่มากขึ้นความสามารถของร่างกายเริ่มถดถอยลง หลายคนต้องเผชิญกับโรคร้ายทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ เช่น โรคสโตรค หรือ เส้นเลือดในสมองแตก รวมทั้งโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงได้มีการสร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนเหล่านี้ตลอดจนผู้สูงอายุการทำงานของหุ่นยนต์ไซบอร์ก Cyberdyne ใช้ระบบปฏิบัติการผสมผสาน (HAL – Hybrid Assitive Limb)ซึ่งเป็นระบบที่แพทย์สามารถเลือกได้ระหว่างแบบให้คนไข้สั่งการหุ่นยนต์เองด้วยการคิด หรือ แบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหุ่นยนต์Cyberdyne ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หุ่นยนต์ของCyberdyneเป็นไซบอร์กด้วย เนื่องจาก ระบบการทำงานที่คนไข้สั่งการได้เองจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสัญญาณไฟฟ้าจากสมองมนุษย์(Bio Electrical Signal) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหุ่นยนต์ การทำงานช่วยเหลือกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์นี้เองทำให้หุ่นยนต์ก้าวเดินหรือขยับตามคำสั่งจากสมองมนุษย์ การฟื้นฟูร่างกายด้วยวิธีนี้จึงเปรียบเสมือนการทำงานปกติระหว่างสมองและร่างกายนั่นเอง ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลการรักษาในคนไข้ทั่วโลกปรากฏว่า การรักษาด้วยวิธีการนี้ (Cybernic Treatment) มีผลให้เส้นใยประสาทที่ขาดไปกลับมามีปฏิสัมพันธ์กันและเชื่อมต่อกันอีกครั้ง มีผลให้คนไข้จำนวนมากสามารถขยับ เดิน และ พึ่งตนเองได้อีกครั้งหนึ่งโดยทางไซเบอร์ดายน์ได้พัฒนาหุ่นยนต์นี้มาตั้งแต่ปี 1991 จนถึงปัจจุบัน รวมเวลาเกือบ 30 ปีจนกระทั่งหุ่นยนต์สามารถเชื่อมต่อกับความคิดของคนได้สำเร็จ”

ดร.ซานไค ยังเผยถึงสาเหตุที่มาเปิดตัวในประเทศไทยว่า “ประเทศไทยเหมาะแก่การพัฒนาและมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็น medical Hub แห่งหนึ่งของโลก     และด้วยวันนี้ ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0 มีการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ตนจึงมีแนวคิดว่าจะตั้งเป็นสมาคมประชาชาติเอเชียในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ ล้ำสมัยขึ้นมาโดยอาศัยความร่วมมือกับรัฐบาลไทย รวมถึง TCELSในการให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประชาชาติอาเซียนที่สามารถพัฒนาหุ่นยนต์ชั้นสูงในการรักษาทางการแพทย์ได้” ดร.ซานไค กล่าว

ด้านดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ (TCELS) กล่าวว่า“เราอยากให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมทางการแพทย์ แต่ในขณะเดียวกัน ต้องช่วยยกระดับคุณภาพชีวีตของประชาชนด้วย ซึ่งการวิจัยอาจจะเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย หรือมีสถาบันอื่นๆเข้ามาช่วย แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าจะไปให้ถึงมือผู้ใช้จริง เราจำเป็นต้องให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม  ซึ่งการดูแลสุขภาพของคนไม่ใช่เรื่องผูกขาด  จำเป็นต้องดึงเอาองค์ความรู้จากต่างประเทศมาหรือเราต้องพัฒนาความรู้ของเราเองแล้วไปแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศ

สำหรับการพัฒนาหุ่นยนต์ไซเบอร์ดายน์ ตนเชื่อว่าในอนาคตหากมีการร่วมมือพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี ทำวิจัยร่วมกัน จะสามารถไปได้ไกล ส่วนการเข้าถึงผู้ป่วยเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมาก ซึ่งได้มีการคุยกันว่าถ้าแพง เกินไปอาจจะทำได้ในวงจำกัด จึงอยากให้เกิดการร่วมกันพัฒนาให้เทคโนโลยีแผ่ขยายไปในวงกว้าง และสุดท้าย หากได้ผลจริง และมีการวางระบบที่ดี ตนเชื่อว่าหลักประกันสุขภาพจะสามารถเข้ามามีบทบาทในระบบเบิกจ่ายได้  ซึ่งจะเป็นอีกเส้นทางนึงที่จะทำให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์”  ดร.นเรศ กล่าว

Cyberdyneให้บริการเช่าหุ่นยนต์ไซบอร์กทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูความสามารถในการทำงานของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คนที่เป็นอัมพาตส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงเท้าจะใช้ไซบอร์กรุ่นระบบขา(HAL Lower Limb Type), คนไข้ที่ไม่สามารถยกตัวขึ้นได้หรือสูญเสียความสามารถในการนั่งจะใช้ไซบอร์กระบบเอว (HAL Lumbar Type), คนไข้ที่ไม่สามารถยืดหรือหดข้อได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อแขน มือ เข่า หรือ เท้า จะใช้ไซบอร์กระบบข้อ(HAL Single Joint Type)และ คนไข้ที่มีปัญหาในการขยับนิ้วมือจะใช้ระบบมือในการช่วยฟื้นฟูความสามารถในการหยิบจับกำและแบมือ(Hand of Hope)

โดย Cyberdyneจะให้บริการเช่าหุ่นยนต์ไซบอร์กทางการแพทย์ผ่านการให้บริการของโรงพยาบาลหรือคลินิกฟื้นฟูกายภาพเท่านั้น โดยมีตัวแทนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย คือ Zignature Robotics ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 02-115-8981ตามเวลาราชการ หรือ [email protected]