ปั๊มน้ำมันยุคนี้ต้องมี 100 ล้าน ! เอสโซ่ปาร์ค ดึงแบรนด์ดังร่วมลุยค้าปลีก

ภาพจาก : https://web.facebook.com/essoparkbangbuathong/

หลังจากสร้างความฮือฮาเมื่อช่วงปลายปี โดยมี “สตาร์บัค คอฟฟี่” ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกาที่ขยายมาเปิดสาขาไดรฟ์ทรู ในสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ปาร์ค บางบัวทองแห่งใหม่ เป็นครั้งแรก นับเป็นการจับคู่ต่างธุรกิจที่ “วิน วิน” ทั้งคู่

จะว่าไปแล้ว ปั๊มน้ำมัน ถือเป็นช่องทางขายที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนชั้นกลางเป็นจำนวนมากมาใช้บริการ พูดง่ายๆ ต้องขับรถมาถึงจะใช้บริการได้ และคนยุคนี้เองก็นิยมเดินทางท่องเที่ยว จำเป็นต้องมี “สาขา” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้ครบ จึงทำให้สตาร์บัคส์ที่วางแผนจะเปิด 400 สาขาภายในปีนี้ (2562) ต้องมอง “ปั๊มน้ำมัน” ในการเปิดสาขา และมาลงตัวที่เอสโซ่ บางบัวทอง, เพชรบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในรูปแบบอันหลากหลายของสตาร์บัคส์ที่เข้าไปเปิดสาขาไม่ว่าจะเป็น เช่น โชว์รูมรถ อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างกันไป

ส่วนปั๊มน้ำมันยุคนี้ ก็จำต้องพึ่งธุรกิจ non-oil จึงเปิดพื้นที่ “ค้าปลีก” ขึ้นมา จนกลายเป็นศูนย์การค้าย่อมๆ ไปแล้ว  ร้านค้าที่มาเปิดให้บริการยิ่งเป็น “แบรนด์ดัง” มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะจะเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดให้คนมาใช้บริการ

อภิสิทธิ์ ธนาดำรงศักดิ์ ประธานบริหารฝ่ายค้าปลีก บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด เปิดเผยว่า​ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เปิดสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ปาร์ค บางบัวทองแห่งใหม่ บริเวณบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางขาออกสุพรรณบุรี – ชัยนาท บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ กำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 เมษายนนี้

การร่วมมือกับ “สตาร์บัค คอฟฟี่” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์คนรุ่นใหม่ ชูจุดขายมากกว่าปั๊มน้ำมัน ด้วยการออกแบบตกแต่งดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจาก​​ วรรณคดีขุนช้างขุนแผน มั่นใจเป็นจุดแวะพักแห่งใหม่ของนักเดินทางเส้นบางบัวทอง-สุพรรณ ดีเดย์เปิดให้บริการ 6 เมษายนนี้

โดยสาขานี้ถือเป็นหนึ่งในปั๊มน้ำมัน Flagship ของ ESSO ที่ร่วมมือกับ “Starbucks” ร้านกาแฟชื่อดังสัญชาติอเมริกา​เปิดให้บริการในปั๊มน้ำมันของเมืองไทย ภายในมีให้บริการแบบนั่งในร้าน ออกแบบอาคารสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย ตัวอาคารสร้างจากวัสดุที่มีในยุคอดีตอย่าง ”อิฐดินเผา” มีการนำการ “ย่อมุม” หนึ่งในภูมิปัญญาของสถาปัตยกรรมไทย มาลดทอนความแข็งของอาคาร

ปัจจุบันธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน มีการแข่งขันสูงและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ส่งผลให้ปั๊มน้ำมันในยุคนี้ไม่ใช่ปั๊มน้ำมันอีกต่อไป แต่เปรียบเหมือนจุดแวะพักระหว่างทาง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงกลุ่มครอบครัว สำหรับคอนเซปการตกแต่งภายในสถานีบริการน้ำมันทั้งหมด ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน”

โดยอาคารร้านค้า ร้านขายของที่ระลึกภายในจะพบกับ อาคารสถาปัตยกรรมในรูปแบบ เรือนไทย เช่นเดียวกับการตกแต่งสวนที่เลือกใช้พันธุ์ไม้ก็ได้แรงบันดาลใจจากกาพย์กลอนบรรยายพันธุ์ไม้ในเรื่องขุนช้างขุนแผนอีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในสถานีบริการน้ำมัน ยังประกอบไปด้วยร้านอาหาร เครื่องดื่ม ของฝาก ทั้งร้านเคเอฟซี มินิบิ๊กซี ร้านเพลินพุง ซาลาเปาวราภรณ์ นมหนองโพ ร้านไท้เฮียง บีควิก เป็นต้น และยังตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่ม ตั้งแต่ที่จอดรถสำหรับ Big Bike ตอบโจทย์ไลฟ์สไตส์คนรุ่นใหม่ ที่จอดรถสำหรับคนพิการ บริการห้องน้ำสะอาดสำหรับทุกผู้ทุกวัย รวมไปถึงที่เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กทารก

ที่ขาดไม่ได้ คือ แชะแล้วแชร์ โดยมีจุดถ่ายภาพ รูปปั้น “ฝูงควายไทย” และภาพวาดสไตล์ไทย “ควายเล่นน้ำกับเด็กน้อย” “ไก่ชนไทย” และ “ปลากัดไทย” ให้ถ่ายรูปเล่นเป็น จุด Check-in เป็นที่ระลึกอีกด้วย.

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9620000034656