วันนี้ หัวเว่ยได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ประจำปี 2562 ด้วยยอดขาย 179.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ราว 8% สูงขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา[1]
หัวเว่ยยังคงเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีและสมาร์ทดีไวซ์ และเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้ผลประกอบการไตรมาส 1/2562 นี้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับปี 2562 จะเป็นปีของการใช้งาน 5G ขนาดใหญ่ทั่วโลก นั่นหมายความว่าธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ยจะมีโอกาสการเติบโตสูงมากกว่าที่เคยเป็นมา โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 หัวเว่ยได้ลงนามสัญญา 5G เชิงพาณิชย์กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำทั่วโลกแล้ว 40 ฉบับ และได้จัดส่งสถานีฐาน 5G ไปยังตลาดประเทศต่างๆ ทั่วโลกแล้วกว่า 70,000 ชุด
ในไตรมาสแรกของปี 2562 ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยก็ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) และกลยุทธ์ใหม่ที่เรียกว่า “Huawei Inside” ขึ้น โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานด้านดิจิทัลให้กับประเทศจีนและทำหน้าที่เป็นแกนหลักของโลกดิจิทัล ด้วยการส่งมอบ Digital Platform ควบคู่ไปกับการเชื่อมต่อในทุกหนแห่งรวมถึงการใช้งานเชิงอัจฉริยะอย่างแพร่หลาย ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยยังได้ใช้ระบบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต Wi-Fi 6 ที่เอื้อให้ใช้งาน 5G ได้จริงเป็นตัวแรกของโลกด้วย โดยไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 หัวเว่ยได้มีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 6 มากกว่าบริษัทอื่นๆ ทั่วโลก
ส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ยก็ยังคงสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยกลยุทธ์หลักของบริษัทคือการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานอัจฉริยะในทุกรูปแบบการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค โดยในไตรมาสแรกของปี 2562 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนไปแล้วกว่า 59 ล้านเครื่อง และในกลุ่มเซ็กเมนต์อื่นๆ เช่น พีซี อุปกรณ์ wearable และสมาร์ทโฮม ผู้บริโภคทั่วโลกก็ไว้วางใจเลือกใช้หัวเว่ย เนื่องจากนวัตกรรมชั้นนำของผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า
หัวเว่ย คลาวด์ (HUAWEI CLOUD) ยังคงเน้นในเรื่องของนวัตกรรม โดยตั้งเป้าสร้างไฮบริดคลาวด์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมนำเสนอโซลูชั่น AI แบบ Full-stack เพื่อสร้างความอัจฉริยะให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ และทำให้การผนวกรวม AI เกิดขึ้นได้จริง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาและผู้ใช้งานองค์กรกว่า 1 ล้านรายเลือกที่จะทำงานกับ HUAWEI CLOUD โดยในไตรมาสแรกนี้ HUAWEI CLOUD ได้มีการเปิดให้บริการในประเทศสิงคโปร์ รวมถึงเปิดตัวตลาด AI model ของบริษัท ส่วน ModelArts ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนา AI แบบ one-stop-shop ของ HUAWEI CLOUD ก็มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งทั้งในด้านการฝึกคัดแยกและการอนุมานภาพในการแข่งขัน Deep Learning ของ Stanford DAWNBench ด้วย
[1] ข้อมูลทางการเงินทั้งหมดเป็นตัวเลขที่ยังมิได้ผ่านการตรวจสอบทางบัญชีตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 ได้แก่ 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ = 6.7112 หยวน (อ้างอิงจากรอยเตอร์ส)
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ
ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด
นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 188,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com หรือติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechThailand