พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาสิงห์ปาร์คเชียงราย(Singha Park Chiang Rai) ได้จัดกิจกรรมมากมายทั้งในพื้นที่ของสิงห์ปาร์คฯเอง และการร่วมสนับสนุนกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย เพื่อให้เชียงรายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ จนสามารถสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจ ชุมชน การท่องเที่ยว ฯลฯ ในจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผลจากการพัฒนาโครงการต่างๆ ทำให้สิงห์ปาร์คเชียงราย ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย แต่ยังเป็น “สถานที่” รองรับการจัดประชุม สัมมนา จัดนิทรรศกาลระดับนานาชาติ ตลอดจนการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลหรืออุตสาหกรรมไมซ์(MICE : Meetings, Incentives, Conventions and Exhibitions) ด้วย เนื่องจากสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีความพร้อมทั้งมาตรฐานและความปลอดภัย
ล่าสุด สิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังได้รับรางวัลมาตรฐานไมซ์ หรือ “Thailand MICE Venue Standard” ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ(Special Event Venue) จากสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. โดยรางวัลดังกล่าว มอบให้กับผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานจัดงานที่มีคุณสมบัติด้านกายภาพ ความปลอดภัย การสนับสนุน และการจัดการอย่างยั่งยืน
“เป้าหมายของสิงห์ปาร์คฯ คือการพัฒนาสู่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ในแต่ละอีเวนท์ควรมีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามาด้วย เพราะจะยิ่งทำให้การท่องเที่ยวเป็นที่รู้จักและเป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลกมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้ก็จะนำการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความกินดีอยู่ดีให้คนและชุมชนเชียงรายอย่างยั่งยืนต่อไป”
สำหรับโครงการมาตรฐานไมซ์ หรือ “Thailand MICE Venue Standard” สสปน.ได้ดำเนินโครงการเพื่อยกระดับมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย มุ่งพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการด้านสถานที่จัดงานให้ได้มาตรฐานสากล สอดคล้องกับนโยบายของสสปน. ในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยให้เติบโตทัดเทียมกับการแข่งขันของนานาประเทศ และก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เป้าหมายหลักในการดำเนินงาน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้หลักของประเทศ ด้วยการให้ความสำคัญทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพของสถานที่และบริการ รวมถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
นายพงษ์รัตน์ กล่าวเสริมว่า แนวทางการพัฒนาสิงห์ปาร์คเชียงรายจากนี้ไป จะมุ่งมั่นยกระดับสถานที่สู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก หรือ “World-Class Destination” ในหลายๆด้าน ทำให้แต่ละปีมีการจัดกิจกรรม(Event)มากมาย เพื่อเติมแม่เหล็กในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม อาทิ งานเทศกาล Farm Festival on The Hill ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 เป็นเทศกาลความสุขประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของภาคเหนือ ภายในงานประกอบไปด้วยกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส อาทิ คอนเสิร์ตจากศิลปินดังจากทั่วฟ้าเมืองไทย อิ่มอร่อยกับเทศกาลอาหาร มีร้านเด็ดดังมาให้ลิ้มลองจำนวนมาก ตลอดจนการเยี่ยมชมทำกิจกรรมในโซนต่างๆ อาทิ ศิลปะวัฒนธรรม โซนสิงห์อาสา บุญรอดฟาร์ม เป็นต้น
เทศกาลบอลลูนนานาชาติ (Singha Park Chiangrai International Balloon Fiesta) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ และยังคงครองตำแหน่งเทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค มีไฮไลท์สำคัญด้วยการระดมบอลลูนแฟนซีจำนวนมากจากหลายประเทศทั่วโลกมาให้คนไทยและต่างชาติได้ชม โดยเฉพาะปีนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีบอลลูนมากถึง 35 ลูก จาก 13 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน และที่ขาดไม่ได้คือการเปิดให้ “คู่รัก” จากทั่วโลกได้จดทะเบียนลอยฟ้าบนบอลลูนจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Love Destination เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงโขนกลางแปลง คอนเสิร์ตจัดเต็มด้วยแสงสีเสียงและสิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังร่วมกับศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรม “มหัศจรรย์สีสันคนบนดอย” นำศิลปะและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขา 9 เผ่า ในจังหวัดเชียงรายมาจัดแสดง และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านชนเผ่าจำนวน 11 ชนิดกีฬา เป็นต้น
โดยทั้ง 2 ถือเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยงานจะมีขึ้นในช่วงฤดูหนาว แต่ละงานมีประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานจำนวนมากถึงหลัก “แสนคน”
“สิงห์ปาร์คเชียงราย มุ่งมั่นในการพัฒนาเป็น World-Class Destination ในหลายๆเรื่อง ที่ต้องนำมาประกอบร่วมกัน ส่งผลให้ใน1 ปี เรามีการจัดกิจกรรมต่างๆเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นงาน International Balloon Fiesta ซึ่งในวันนี้เราเป็นก้าวสู่การเป็น World-Class Love Destination ส่วนในอนาคตข้างหน้า เรามีเป้าหมายในการเป็นผู้จัดงานคอนเสิร์ตระดับโลกหรือ World-Class Outdoor Concert Destination และมองไปถึงการจะจัดงานศิลปะหรือ Art Exhibition ซึ่งต้องเป็น World-Class Art Destination เช่นกัน”
สำหรับกิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ยังสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกมีการเติบโต โรงแรมมียอดการจองห้องพักในอัตราที่ดีขึ้น ประชาชนในพื้นที่มีงานทำ เฉพาะโครงการสิงห์ปาร์ค เชียงราย สามารถจ้างงานจำนวนมาก เมื่อประชาชนมีรายได้ สามารถนำไปจับจ่ายใช้สอย กินดี อยู่ดี มีเงินหมุนเวียนในระบบ สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ภารกิจพัฒนาสิงห์ปาร์คเชียงราย ยังถูกยกระดับเป็น “เชียงรายโมเดล” เนื่องจากโครงการมีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาคประชาชนให้เกิดการท่องเที่ยวมิติต่างๆ ดังนั้น สิงห์ปาร์ค เชียงราย มีความยินดี หากสามารถเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆได้ ในการนำพัฒนาพื้นที่และต่อยอดด้านการท่องเที่ยว เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการกระจายความสุข ความกินดี อยู่ดีไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยในทุกจังหวัด