ใครจะคาดคิดว่า สมาร์ทโฟน แบล็คเบอร์รี่ เครื่องสีดำ มีจอคีย์บอร์ด เคยใช้งานกันในหมู่นักธุรกิจ ด้วยฟังก์ชันพุชเมล จะพุ่งทะลุความนิยมในหมู่ลูกค้า Mass ถึงเพียงนี้ ไม่ได้นิยมธรรมดา แต่ถึงขั้นที่ว่า หากไม่อยากเชย หรือไม่อยากตกกระแส ก็ต้องมีไว้ในครอบครอง
มีเอเยนซี่บางคนเล่าว่า ไปงานชุมนุมศิษย์เก่าที่เรียนการตลาดมาด้วยกัน ไม่กล้าหยิบมือถือของตัวเองออกมา เพราะกลัวถูกหาว่าเชย เนื่องจากเพื่อนฝูงกว่าครึ่งพกบีบีกันมาเป็นแถว แถมเวลาจะจากกัน แทนที่จะขอเบอร์มือถือ ก็เปลี่ยนไปขอ Pinn บีบีกันแล้ว
“บีบี” เป็นชื่อย่อที่เหล่าสาวกใช้เรียก Blackberry ที่ใช้กันแพร่หลายมากในไทยเวลานี้ ชื่อย่อนี้ถูกเผยแพร่โดยเหล่า “เซเลบฯ” ทั้งหลาย ทั้งพิธีกรชื่อดัง นักแสดง นักร้อง
ก็ด้วยกลยุทธ์ “Celebrity Marketing” ที่ทำให้แบล็คเบอร์รี่ประสบความสำเร็จในวงกว้าง ขยับจากที่เคยใช้กันในหมู่นักธุรกิจขยายมาสู่ลูกค้าทั่วไป จนฝ่ากำแพงกระแส “ไอโฟน” ซึ่งเคยฮอตฮิตมมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคู่แข่งรายไหนแซงหน้าไอโฟนได้อีกแล้ว
กลยุทธ์ Celebrity Marketing ของบีบี น่าสนใจมาก เพราะประสบความสำเร็จมาแล้วในสหรัฐอเมริกา ส่วนในไทยนั้นเป็นฝีไม้ลายมือของค่าย เอไอเอส ที่ลุกขึ้นมาทำตลาดด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นรายแรกๆ เพราะเอไอเอสนั้น มี “ต้นทุน” ในเรื่องนี้อยู่แล้ว จัดอีเวนต์อยู่บ่อยๆ ทำให้คุ้นเคยกับดารา นักร้องเบอร์ดังๆ อยู่แล้ว เมื่อมาใช้กลยุทธ์นี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่หารายชื่อดารา พิธีกร นักจัดอีเวนต์ ระดับตัวแม่และตัวพ่อ มาเป็นผู้ใช้กลุ่มแรกๆ ให้ทดลองฟรี และขายให้ด้วยแพ็กเกจราคาถูกๆ ก็สร้างแรงกระเพื่อมได้สมใจ
ต้องรู้ว่าผู้บริโภคไทยนั้นคลั่งไคล้และเอาอย่างดารา นักร้องดังเพียงใด ยิ่งเมื่อเหล่าดารา นักร้องนิยมใช้กันแบบยกแก๊ง ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าจะมีภาพดาราใช้บีบีกันปรากฏอยู่บนหน้าสื่อกันเอิกเกริก ทั้งให้สัมภาษณ์ และเขียนคอลัมน์ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ แล้วจะไม่ฮิตไปได้อย่างไร
ความดังของบีบียังได้แรงหนุนกระแส Social Networking ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม และฟังก์ชันของบีบี สามารถอัพโหลดข้อมูลไปยัง YouTube และ Facebokk ได้ง่ายดาย จึงเป็นสปริงบอร์ดชั้นดี ทำให้บีบีฮิตติดลมบน แซงหน้าไอโฟนไปแบบไม่เห็นฝุ่น แม้ว่าไอโฟนจะมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกใช้มากมาย แต่ดูเหมือนว่าข้อดีเหล่านี้ก็ได้ถูกบดบังไปแล้ว นับเป็นกรณีศึกษาที่ไม่ควรพลาด
ฉบับนี้ยังได้พบกับเบื้องหลังโฆษณามิสทิน ที่สามารถดึง เพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกยอดนิยมคืนจอได้สำเร็จ กลายเป็น Talk of the town ที่สามารถยึดพื้นที่ข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์หัวสีระดับบิ๊ก เป็นข่าวทีวีทุกช่อง สื่อออนไลน์ต่อเนื่องติดต่อกัน
นับว่าเป็น “พีอาร์มาร์เก็ตติ้ง” ที่ประสบความสำเร็จอีกชิ้นนึ่ง หากตีมูลค่าสื่อที่ลงข่าวนี้ มิสทินอาจต้องควักเงินก้อนโต แต่นอกจากมิสทินไม่ต้องควักเงินเพิ่มแล้ว ยังได้ภาพลักษณ์ในเรื่องของ CSR ไปเต็มๆ ทำให้คนดูรู้สึกดีไปกับแบรนด์ เพราะสามารถนำพาคนรุ่นเก่าได้ย้อนกลับไปรำลึกความหลังในวัยเยาว์ ส่วนคนรุ่นใหม่ก็อยากติดตามดู
กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง และสร้างให้เป็นกระแส Talk of the town ยังคงเป็นคัมภีร์การตลาดที่ใช้ได้เสมอ