“โอกาส” เกิดขึ้นได้เสมอท่ามกลาง “วิกฤต”
คำพูดนี้ยังคลาสสิกเสมอ ยิ่งเป็นนักธุรกิจ การตลาด หรือใครก็ตาม ต้องเสาะแสวงหา “โอกาส” ใหม่ๆ เพราะหลายครั้งที่โอกาสเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญให้กับธุรกิจได้ ต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่เดิมได้เสมอ
กรณีของไทยพรีเมียร์ลีกก็เช่นกัน ถือว่าเป็น “โอกาสท่ามกลางวิกฤต” เป็นผลมาจากกฎเหล็กของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียที่ออกกติกาใหม่ หากอยากยกระดับไปฟาดแข้งในระดับเอเชียหรือระดับโลก ก็ต้องสร้างมาตรฐานกันใหม่ บริหารจัดการทีมให้เป็นมืออาชีพแบบสากล
ทุกสโมสรจึงต้อง “ยกเครื่อง” พร้อมกับเปิดทางให้กลุ่มธุรกิจและการเมืองเข้ามาถือหุ้น เพื่อมาเติมเต็มเงินทุน ธุรกิจ และการตลาดให้กับทีมฟุตบอลของตัวเอง ซึ่งทุกคนก็เห็นตัวอย่างความสำเร็จของทั้งฝั่งยุโรปและเอเชียกันมาแล้ว
โฉมหน้าวงการฟุตบอลไทยจึงเปลี่ยนไป ทั้งนักฟุตบอล แฟนคลับ กองเชียร์ สนามฟุตบอล เกมการแข่งขันก็เลยคึกคัก ใส่กลไกการตลาด กลายเป็นบิ๊กอีเวนต์เรียกคนดูและสปอนเซอร์มาอย่างคึกคัก
กลายเป็นปรากฏการณ์ดังชั่วข้ามคืน ที่เวลานี้ไม่เพียงแต่ใครๆ ก็พูดถึง ทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง ตบเท้าเข้าเจรจาขอซื้อสโมสรฟุตบอล และอีกไม่นานรายชื่อจะถูกเปิดเผยออกมา
บัตรสมาชิก หรือคลับการ์ด (ขึ้นอยู่ว่าใครจะเรียกแบบไหน) ท่วมทะลักเมืองอยู่ในเวลานี้ ได้สะท้อนถึง ดีกรีการแข่งขันของห้างสรรพสินค้าและห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่นับวันจะหาความแตกต่างได้ยาก ทำเลก็ยังใกล้กันแบบหายใจรดต้นคอ ลูกค้าไม่มีความจงรักภักดี ทำให้ทุกห้างเวลานี้ต้องเลือกนำกลยุทธ์ CRM มาใช้
ทุกห้างฯ หวังว่า ฐานข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าที่ถูกนำมาประมวลผล จะกลายเป็นข้อเสนอใหม่ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย เป็นไม้ตายที่ทุกห้างฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถมัดใจลูกค้าไม่ให้จากไปไหน
ด้วยกระแสตอบรับด้านบวกของวินโดว์ส 7 จึงเป็น “โอกาส” ครั้งใหม่ของไมโครซอฟท์กลับมายืนอยู่ในใจผู้บริโภคได้อีกครั้ง หลังจากที่ผิดหวังกับวิสต้า
ทำให้แผนการเปิดตัววินโดวส์ 7 ในไทย ไมโครซอฟท์ต้องคิดใหม่ทำใหม่เพื่อช่วงชิงโอกาสใหม่นี้ จึงไม่ได้เปิดตัวแบบม้วนเดียวจบเหมือนในอดีต
ทั้งหมดนี้คือ ส่วนหนึ่งของกรณีศึกษาของการแสวงหาโอกาสให้กับธุรกิจ ส่วนใครจะบรรลุเป้าหมายได้แค่ไหน ต้องติดตาม