กรีนเกินร้อย (Sustainable Fest) 21 – 30 มิถุนายน ที่ Glass House ชั้น 3 ตอน Pop-Artisan นิทรรศการ “แปลง+สาน+งานหัตถกรรม”

101 True Digital Park พื้นที่ความสุขแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ พาทุกท่านไปร่วมสำรวจพัฒนาการของงานหัตถกรรมไทยในรูปแบบสมัยใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน กับเทศกาล 101 กรีนเกินร้อย (Sustainable Fest) ตอน Pop-Artisan นิทรรศการ “แปลง+สาน+งานหัตถกรรม” ผ่านมุมมองของ ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบและศิลปินไทยมากฝีมือ

นิทรรศการ Pop-Artisan ว่าด้วยการใช้งานออกแบบเข้ามาเพิ่มมูลค่าของงานหัตถกรรมที่ผลิตจากชุมชนต่างๆ ทั่วภูมิภาคของไทยในแบบฉบับของ “ศรัณย์ เย็นปัญญา” นักออกแบบและผู้ก่อตั้ง “56thStudio” รูปแบบของนิทรรศการจึงเป็นส่วนผสมของโรงรับจำนำ ร้านขายของเก่า รถซาเล้ง และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ที่ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมได้ในทุกกระบวนท่า ตั้งแต่การเอาของเก่ามาแลกของใหม่ การชุบชีวิตให้กับขยะหรือของทั่วไปที่คนมองข้าม จนไปถึงการแปรรูปงานหัตถกรรมที่ผลิตขึ้นจากความร่วมมือของช่างฝีมือระดับครูจากทั่วประเทศ

การพัฒนาสินค้าจากชุมชนอย่างยั่งยืนถือเป็นโจทย์หลักในการออกแบบ และพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ๆ ซึ่งในนิทรรศการนี้นำเสนอรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านที่ใช้วัสดุท้องถิ่น มารื้อ ถอน ปู้ยี่ปู้ยำ และประกอบกลับเข้าไปใหม่ ในแบบที่สนุกสนานราวกับเป็นงานศิลปะแบบ Pop Art สไตล์ไทยๆ เช่น เสื่อจันทบูร หรือเสื่อกกจากภาคอีสาน ที่ถูกปักทับด้วยลวดลายกราฟฟิกเฟี้ยวฟ้าว แล้วเอาไปใช้เป็นวัสดุหุ้มเบาะเก้าอี้โรงเตี๊ยมที่คุ้นตา หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ถูกทิ้ง และ/หรือเป็นของค้างสต๊อคจากร้านขายของเก่าก็ถูกจับมาแต่งตัวใหม่ด้วยลวดลายที่แปลกตา

ภายในนิทรรศการจะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวดังต่อไปนี้

1. ประกอบ (Assemble)

เก้าอี้ก๋วยเตี๋ยว หรือเก้าอี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเก้าอี้เหล็กราคาถูกที่นิยมใช้ตามร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนนทั่วๆ ไป จะถูกนำมาจัดแสดงทั้งหมดกว่าร้อยตัวในแบบที่ยังไม่ถูกประกอบขึ้นมาเป็นเก้าอี้ที่สมบูรณ์ แต่ผู้เข้าชมนิทรรศการสามารถเลือกที่จะนำเอาโครงเก้าอี้ และเบาะที่ผลิตจากวัสดุท้องถิ่นทั้งหมดมาประกอบขึ้นมาเป็นเก้าอี้ของตัวเองได้ทุกอณู ผลลัพธ์คือเก้าอี้ที่มีแค่หนึ่งเดียวในโลกซึ่งถูกเลือกสรร และประกอบขึ้นมาจากความต้องการของคนดูล้วนๆ

2. ชุบชีวิต (Revive) เก้าอี้เก่า หรือเก้าอี้วินเทจที่ค้างสต๊อค ขายไม่ออก หรือถูกทิ้งแล้ว ถูกนำมารื้อ และประกอบเข้าไปใหม่ เปรียบเสมือนการชุบชีวิตให้กับของที่คนเคยมองข้าม ลดปริมาณขยะ ให้กลายเป็นงานศิลปะหายาก และเต็มไปด้วยคุณค่าของงานฝีมือ

3. แลกเปลี่ยน (Exchange)

กองเก้าอี้โรงเตี๊ยมที่คุ้นตาถูกดัดแปลงให้กลายเป็นงานศิลปะจัดวาง หรือ Installation Art ซึ่งคนดูสามารถเลือกเอาเก้าอี้ชนิดนี้มาถอดประกอบใหม่ หรือเปลี่ยนเบาะหุ้ม เพื่อให้เป็นงานชิ้นใหม่ได้ในนิทรรศการนี้เลยทันที ราวกับอยู่ในโรงรับจำนำหรือรถซาเล้งที่ยอมให้เกิดการแลกเปลี่ยนของเก่า และของใหม่ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด หรือจะแบกเก้าอี้โรงเตี๊ยมเหลือใช้มาจากบ้านก็ไม่มีใครว่าเช่นกัน

4. กอบกู้ (Rebuild)

พื้นที่สีขาวว่างเปล่าเปรียบเสมือนกับผ้าใบดิบคือพื้นที่ที่จำลองเอากระบวนการผลิตเก้าอี้ในแบบของ 56thStudio มาให้ดูสดๆ ตั้งแต่วัตถุดิบ ขั้นตอนการหุ้ม รื้อถอน ปัก ละเลงสี จนสำเร็จกลายเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ที่ชวนมอง

5. เชิดชู (Celebrate)

โต๊ะเก่า และเก้าอี้เก่าที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่ใช้แล้ว ถูกนำมาประกอบเข้ากับงานจักสานของชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย กลายเป็นพื้นที่ที่คนดูสามารถเข้ามานั่ง สัมผัส และมีปฏิสัมพันธ์กับงานออกแบบ ไปจนถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ชมด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน

6. บูชา (Worship)

เปรียบเสมือนห้องรับแขกที่ผู้ชมสามารถเข้ามานั่งนอนเอกเขนกได้ บนงานหัตถกรรมที่เลือกสรรมาจากทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีผลงานซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 56thStudio กับร้านเย็บหมอนไหว้เจ้าเฮงเสงในย่านเจริญกรุงที่เปิดกิจการมากว่าร้อยปี โดยนำเอาเทคนิคการจับจีบเบาะด้วยมือ มาผสมผสานเข้ากับวัสดุ และวัตถุใหม่ๆ ที่คุ้นตา จนกลายเป็นงานศิลปะที่ไม่คุ้นตา

นิทรรศการ Pop-Artisan เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล 101 กรีนเกินร้อย Sustainable Fest ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่วันที่ 21 – 30 มิถุนายน ที่ Glass House ชั้น 3 101 True Digital Park เวลา 10.00 – 22.00 น.

ข้อมูลเพิ่มเติม

101 True Digital Park จัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านค้าที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตประจำวันไว้ในพื้นที่หลัก 3 โซน ได้แก่

1. 101 Garden พื้นที่ภายในอาคารและภายนอกอาคารจะถูกผสานรวมกันด้วยพื้นที่พื้นที่สีเขียวกว่า 5,000 ตารางเมตรที่สอดแทรกอยู่ทั่วคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีแลนด์สเคปเป็นพื้นที่แนวนอนกว่า 3 ไร่ (เสร็จสมบูรณ์ในปี 2563) ประกอบด้วยสวนบนดาดฟ้า สวนที่ออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติท้องถิ่นเพื่อคืนระบบนิเวศดั้งเดิมสู่พื้นที่

โดยรอบโครงการ และสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่สามารถดัดแปลงเป็นลานกิจกรรม โดยผู้ใช้บริการจะได้ชมการแสดงไปพร้อมๆ กับพักผ่อนท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่นในแบบเดียวกับสวนสาธารณะตามเมืองใหญ่ๆ ของโลก

2. Hillside Town นี่คือพื้นที่ค้าปลีกที่ไม่ได้มีเพียงร้านค้าเรียงตัวกัน แต่แตกต่างด้วยประสบการณ์การช้อปและชิมท่ามกลางบรรยากาศเมืองเล็กๆ กลางหุบเขา ลัดเลาะตามทางเดินบนเนินที่โค้งตัวไปมา สำรวจสินค้าไลฟ์สไตล์และอาหารหลากหลายประเภทที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย ทั้งร้านอาหารง่ายๆ สำหรับวันสบาย ร้านอาหารที่ตกแต่งสวยงามสำหรับโอกาสพิเศษ รวมถึงร้านสุดชิคที่คุณไม่ควรพลาด

3. 24-Hour Street เพราะชีวิตคนเมืองไม่เคยหยุดนิ่ง 101 @True Digital Park จึงเปิดให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด ในถนนที่ไม่มีวันหลับไหลสายนี้รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพร้อมทั้งร้านอาหาร คาเฟ่และร้านสะดวกซื้อ เพื่อตอบโจทย์คนนอนดึก

ทั้งนี้ โครงการฯยังได้รับรางวัลจากThe Japan International Property Awards 2018 จัดโดยบริษัท Property Access สาขา Best Mix – Integrated Development และ Best Townshipรวมทั้งได้รับรางวัล BCI Asia Top 10 Award ซึ่งถือเป็นรางวัลสำคัญด้านสถาปัตยกรรมและอสังหาริมทรัพย์ที่มอบให้แก่นักสถาปนิกและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลงานดีเด่นและมีอิทธิพลต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

เกี่ยวกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ดำเนินธุรกิจการพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม และโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำระดับสากล พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้คำมั่นสัญญา ‘for all well-being’

MQDC พัฒนาที่อยู่อาศัยและโครงการมิกซ์ยูสภายใต้แบรนด์ “แมกโนเลียส์” (Magnolias) “วิสซ์ดอม” (Whizdom) ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) และมัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulberry Grove) เพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและสร้างการใช้ชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

MQDC ได้ให้การรับประกัน 30 ปีในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม

การประยุกต์ปรัชญา ‘นวัตกรรมแห่งความยั่งยืน’ MQDC มุ่งมั่นที่จะนำพาภาคธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น MQDC ได้ให้การสนับสนุนงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นศูนย์การวิจัยแห่งแรกของเอเชียที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกสรรพสิ่งบนโลก

MQDC ดำเนินงานพร้อมกับการคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก มากกว่านั้นยังมีเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อสังคมโดยรวม

ข้อมูลเพิ่มเติม www.mqdc.com

เกี่ยวกับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งแรกในไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับคนยุคดิจิทัล ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 101 ติดรถไฟฟ้าปุณณวิถี ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีขนาดพื้นที่ 43 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ พื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล พื้นที่ไลฟ์สไตล์ และที่พักอาศัยที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้แนวคิด “Digital Lifestyle – Connecting Possibilities”

ด้วยการออกแบบพื้นที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อถึงกันแบบอิสระ เติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ทุกด้าน ด้วยการผสมผสานพื้นที่สำหรับการทำงานและพักผ่อนครบครันในที่เดียว เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีระบบนิเวศครบวงจรในแนวคิด Open Innovation ศูนย์รวมบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เหล่า

สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ทำให้เกิดชุมชนเพื่อผู้ประกอบการเริ่มต้น เป็นแหล่งหลอมรวมองค์ความรู้ที่เอื้อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ทรู ดิจิทัล พาร์ค ออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมล้ำสมัยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 4G+ และ WiFi ครอบคลุมทั่วทั้งโครงการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.truedigitalpark.com