มั่นคงเคหะการ จับเทรนด์โลก ยึดแนวคิด “Well-being” เป็นหลักดำเนินงาน ส่งต่อสู่การพัฒนาโครงการ มุ่งสร้างสุขทั้งระบบอย่างยั่งยืน

บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เข้าใจผู้บริโภคหาจุดต่าง สร้างจุดขาย ด้วยการนำแนวคิด “Well-being” เทรนด์มาแรงระดับโลกเข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการ รวมไปถึงกิจกรรมเพื่อลูกบ้าน หวังชูให้เป็น Unique Selling Point เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าอย่างยั่งยืนและมั่นคง นำไปสู่การเติบโตในธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป และเข้าใจผู้บริโภคเป็นสำคัญ

นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ เผยถึงการนำแนวคิด Well-being เข้ามาใช้ในการสร้างจุดเด่นและความแตกต่างของสินค้าและบริการของบริษัทฯ ว่า “ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคต่างตระหนักและให้ความสำคัญกับการกิน อยู่ และการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เช่น หันมาออกกำลังกาย ซึ่งเห็นได้จากการเติบโตของฟิตเนสหลายหลายแบรนด์ กระแสการวิ่งมาราธอนที่มีทุกสัปดาห์ทั่วประเทศ การเลือกอุปโภคบริโภคแบบออร์กานิคหรือปลอดสารเคมี การที่ร้านอาหารเพื่อสุขภาพเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ซึ่งเราในฐานะหน่วยทำงานด้านที่พักอาศัย การสร้างบ้าน ให้คนอยู่จึงเห็นว่า การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นอีกภาระหน้าที่หนึ่งที่ผู้ประกอบการควรต้องคำนึงถึง ดังนั้น ทางมั่นคงฯ จึงหันมาสร้างจุดขายของตัวเองในปีนี้และปีต่อๆ ไป ด้วยการนำแนวคิดความเป็นอยู่แบบ Well-being หรือ การมีสุขภาวะที่ดี เข้ามาอยู่ในโครงการของเราด้วยนั่นเอง”

Well-being คือ แนวคิดแบบสุขภาวะที่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ มั่นคงเคหะการ ให้ความสำคัญและยึดถือเป็นหลัก ในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดย นางสาวดุษฎี กล่าวต่อไปว่า “Well-being สุขภาวะแบบองค์รวม เป็นการมุ่งเน้นสร้างความสุขทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ภายในองค์กรผ่านการดูแลพนักงานซึ่งนับเป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้มีสภาวะการทำงานที่ดี เพื่อพร้อมส่งต่อความสุขไปยังผู้บริโภคผ่านสินค้าและบริการ ของ มั่นคงเคหะการ หรือ MK ในขณะที่ภายนอกองค์กรจะมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าบนทำเลที่ดี มีฟังก์ชั่นที่คำนึงถึง     การใช้ชีวิตครอบคลุมกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย สามารถตอบโจทย์การใช้งานแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ตั้งแต่การวางผังภายในบ้านให้เหมาะกับทิศทางลม ทั้งนี้จากงานวิจัยของ International Centre for Indoor Environment and Energy, department of Civil Engineering, Technical University of Denmark พบว่า การอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากในห้องปรับอากาศนั้นจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มาจากการหายใจออก การเผาผลาญของร่างกาย ของผู้อยู่อาศัยในห้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปวดศีรษะ เหนื่อยง่าย รวมถึงมีผลต่อการตัดสินใจและประสิทธิภาพการทำงานลดลง ทุกวันนี้เราอยู่ในห้องปรับอากาศแทบจะตลอดเวลา ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน หรือแม้กระทั่งในห้องนอนซึ่งห้องปรับอากาศส่วนใหญ่จะไม่มีระบบอากาศหมุนเวียนจากภายนอกเข้ามา ทำให้เราหายใจเอาอากาศเก่าเข้าร่างกายและได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากกว่าที่ควรจะเป็น โดยเบื้องต้นร่างกายจะไม่แสดงอาการอะไรออกมาจนกว่าจะเกิดการสะสมในระยะยาว ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น ความจำเสื่อมของผู้สูงวัย, สมองพัฒนาล่าช้าสำหรับวัยเด็ก  ดังนั้นเราจึงเพิ่มจุดระบายอากาศและช่องแสงธรรมชาติเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่เกิดความอับชื้น อีกทั้งการมีห้องอเนกประสงค์บริเวณชั้นล่างซึ่งสามารถปรับเป็นห้องผู้สูงอายุได้, ส่วนการออกแบบผังโครงการก็ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อาทิ สวนส่วนกลางที่มีทางเดินนวดเท้าเพื่อสุขภาพ, Educational playground สำหรับเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กๆ, การมีเทคโนโลยีอันทันสมัย, การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน รวมถึงคำนึงถึงชุมชนที่อยู่อาศัยร่วมกัน”  

สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 ยังคงเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งมีความชำนาญ ความน่าเชื่อถือและได้รัการยอมรับจากลูกค้ามากว่า60 ปี ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคุ้มค่า คุ้มราคา สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ทั้งเพื่อขาย เพื่อเช่าและการบริการอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ได้วางไว้ โดยเตรียมเปิดตัวโครงการเพื่อขายใหม่จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ บ้านแฝด 1 โครงการ และทาวน์โฮม 3 โครงการมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,560 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพภายใต้แนวคิด Well-being

“เรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และการบริการเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาวะแบบองค์รวมที่ดีอย่างคุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในส่วนขององค์กร, ลูกบ้านและชุมชน เพื่อมุ่งมั่นส่งเสริมการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในสังคม ทั้งหมดนี้คือแนวคิดการดำเนินงานในแบบ Well-being ของ มั่นคงเคหะการ” นางสาวดุษฎีกล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบัน บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK มีโครงการแนวราบทั้งหมด 12 โครงการ บนทำเลศักยภาพ แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 4โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 1, ชวนชื่น ทาวน์ ราชพฤกษ์-345, ชวนชื่น ทาวน์ กาญจนาบางใหญ่, ชวนชื่นทาวน์ แก้วอินทร์-บางใหญ่, บ้านแฝด 3 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี, ชวนชื่น พาร์ค กาญจนา-บางใหญ่, ชวนชื่น พาร์ค อ่อนนุช-วงแหวนและ บ้านเดี่ยว 5 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพปทุมธานี,  ชวนชื่น ซิตี้ ไพร์มพาร์ค วัชรพล, ชวนชื่น ซิตี้ เบลล์พาร์ค วัชรพล, ชวนชื่น ซิตี้ นอร์ทวิลล์-วัชรพล และ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและการบริการ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการเช่าทรัพย์สิน พร้อมทั้งสร้างเสถียรภาพทางด้านการเงินในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการพาร์ค คอร์ท สุขุมวิท 77, โครงการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ, โครงการบางกอกฟรีเทรดโซนโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่าที่บริหารงานโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด