ภาพ : Native Shoes
มาแล้วเทรนด์รองเท้าผ้าใบยุคหน้า แทนที่จะใช้ยาง หนังสัตว์ หรือผ้า แต่เป็นเส้นใยจากพืชที่ทำให้รองเท้าทั้งคู่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ เรียกว่าไม่ต้องโยนรองเท้าเก่าทิ้งลงถังขยะอีกแล้ว เพราะสามารถทิ้งลงในถังหมักขยะผักผลไม้ได้เลยโดยที่พื้นรองเท้าก็สามารถย่อยสลายได้เกลี้ยงเกลา
วันนี้อุตสาหกรรมรองเท้าเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศโลก โดยเฉพาะพลาสติกหลายรูปแบบที่ทำให้อุตสาหกรรมรองเท้าเป็นต้นเหตุของมลภาวะจำนวนไม่น้อย ผลคือหลายบริษัทกำลังพยายามออกแบบรองเท้าใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและปล่อยมลพิษน้อยลง โดย Native Shoes บริษัทรองเท้าสัญชาติแคนาดาเป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถสร้างรองเท้าที่ย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ เพราะส่วนประกอบทุกอย่างในรองเท้าทำมาจากพืชทั้งหมด
รองเท้านี้มีชื่อเป็นทางการว่า Plant Shoe จุดเด่นคือการสร้างจากเส้นใยธรรมชาติที่มีความคงทนเช่นเปลือกสับปะรด ยังมีพื้นยางที่ผลิตจากปอกระเจา และเส้นใยอื่นซึ่งมีน้ำมันมะกอกเป็นตัวประสาน ทั้งหมดนี้กลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้รองเท้าทั้งคู่สลายตัวได้สมบูรณ์
ตลาดรองเท้ายั่งยืน
เทรนด์รองเท้าจากพืชถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของ sustainable footwear หรือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมรองเท้า โดยนอกจาก Native ยังมีแบรนด์รองเท้าอื่นในสหรัฐฯที่เริ่มบุกเบิกกลยุทธ์การผลิตรองเท้าที่ยั่งยืนกว่าการใช้หนังและยางพาราแบบดั้งเดิม โดย Everlane นำขวดพลาสติกมารีไซเคิลเพื่อผลิตรองเท้าผ้าใบและ Allbirds ใช้เส้นใยยูคาลิปตัสและอ้อยในการผลิตรองเท้าสำหรับนักวิ่ง ขณะที่รองเท้าแนวคิดใหม่ของ Adidas ถูกชูจุดขายว่าสามารถหั่นย่อยและนำกลับมาใช้ใหม่เป็นรองเท้าใหม่ได้ทุกส่วน
Mike Belgue ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Native กล่าวว่าหลังจากที่บริษัทใช้เทคนิคการผลิตรองเท้าผ้าใบจากวัสดุ EVA หรือ ethylene vinyl acetate วัสดุเดียวกับที่ใช้ในรองเท้า crocs ซึ่งสามารถขึ้นรูปเป็นแม่พิมพ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2009 ล่าสุดบริษัทต้องการรีไซเคิลรองเท้าทั้งหมดด้วยการบดแล้วสร้างเป็นวัสดุใหม่เช่นพื้น หรือฉนวนกันความร้อน สถิติปัจจุบันคือบริษัทสามารถรีไซเคิลรองเท้าได้ประมาณ 40,000 คู่ และจะเริ่มใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อสร้างรองเท้าใหม่ทั้งหมดในอนาคตอันใกล้
Belgue ยอมรับว่าเมื่อบริษัทเริ่มทำได้ ก็จะเริ่มนึกถึงว่าจะต้องมีการพัฒนาอย่างไรต่อไป บริษัทจึงต้องการหาวิธีที่จะกำจัดของเสียจากรองเท้าอย่างสิ้นเชิง และทำให้รองเท้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากโลก และกลับสู่โลกโดยสมบูรณ์
รองเท้ายุคใหม่ไร้กาว
แม้ Native จะสามารถออกแบบรองเท้าที่ใช้วัสดุจากพืชและย่อยสลาย 100% ได้ทางชีวภาพในปี 2017 แต่ Belgue ระบุว่าส่วนที่ยากที่สุดคือการขึ้นรูปรองเท้า น้ำยางพาราและเยื่อยูคาลิปตัสถูกนำมาใช้แทนที่โฟมสังเคราะห์ ซึ่งมักใช้เป็นพื้นรองเท้าทั่วไป แต่ Native ใช้วัสดุกลุ่มปอแก้ว ป่าน และข้าวโพด ร่วมกับผ้าฝ้ายออร์แกนิก และเปลือกสับปะรด ทั้งหมดนี้ใช้การเย็บ ไม่ใช่กาวซึ่งเป็นสารเคมีหนักและไม่ย่อยสลายทางชีวภาพ
จุดเด่นของรองเท้า Native จึงอยู่ที่การเย็บด้วย สายการผลิตหลักอยู่ในโรงงานที่โปรตุเกส ซึ่งจะใช้ปอกระเจาในท้องถิ่นมาแช่ในน้ำมันมะกอก ทำให้ได้ความเหนียมและนุ่มนวล การเย็บเป็นกระบวนการที่ใช้แรงงานมากทำให้ราคารองเท้านี้พุ่งถึง 200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,500 บาท สะท้อนว่าปัญหาการผลิตคือความท้าทายใหญ่ที่รอ Native อยู่
Belgue ย้ำว่ารองเท้า Plant Shoe นี้จะเสื่อมสภาพเช่นเดียวกับรองเท้าทั่วไป แต่แทนที่จะทิ้งรองเท้าลงในถังขยะ รองเท้านี้สามารถทิ้งในถังหมักได้เพราะเมื่อรองเท้าสัมผัสกับแบคทีเรียและสารทำปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ รองเท้าก็จะเริ่มสลายตัวในเวลาประมาณ 45 วัน และเนื่องจากทุกส่วนประกอบของรองเท้าทำขึ้นโดยไม่มีสารเคมีหรือสารสังเคราะห์ รองเท้าจึงไม่เป็นอันตรายต่อโลกใบนี้แบบ 100%.