รอยัล พารากอน ฮอลล์ ครองเบอร์ 1 สถานที่จัดงานระดับโลกใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยมีอัตราเติบโตถึง 10% และมียอดจองล่วงหน้า 2 ปีจากผู้จัดงานทั้งในไทยและต่างประเทศ การันตีด้วยรางวัลระดับโลก
นายทาลูน เทง กรรมการผู้จัดการ รอยัล พารากอน ฮอลล์ กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจ การจัดงานอีเวนต์ ปีนี้จะเติบโต 5%-10% มีมูลค่าสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโต ในแนวโน้ม ที่ดีมาก ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นเบอร์ 1 ของสถานที่จัดงานจึงตั้งเป้าที่จะยกระดับ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ไปอีกขั้น และตั้งกลยุทธ์สัดส่วนทางการตลาดในประเทศไว้ที่ 70% และตลาดต่างประเทศอีก 30%
โดยจะพัฒนาทั้งด้านมาตรฐานงานบริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ยกระดับทีมผู้บริหารที่มีความ เชี่ยวชาญในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนของงานด้านการบริการ มีการส่ง บุคคลากรไปร่วมอบรมหลักสูตรระดับสากลต่างๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในธุรกิจ MICE ระดับโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้ดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน รอยัล พารากอน ฮอลล์ เป็นสถานที่จัดงานที่มีบุคลากรผ่านการอบรม หลักสูตรสากลมากที่สุดในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย CEM (Certified Exhibition Management) 11 ท่าน ซึ่งในปีนี้ส่งเพิ่มอีก 4 ท่าน, EMD (Exhibition Management Development) 2 ท่าน, CMP (Certified Meeting Professional) 3 ท่าน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีบุคลากร ผ่านหลักสูตรนี้
อีกทั้งยังมี 2 รางวัลระดับเอเชียอย่าง Asia Pacific Entrepreneurship Award 2018 ในประเภท Corporate Excellence และ Outstanding เพื่อเป็นเครื่องการันตีสถานที่จัดงาน ระดับโลกอีกด้วย และยังได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand MICE Venue Standard 2019 ประเภท Special Event Venue ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่จะมอบให้กับสถานที่จัดงานที่ผ่าน การประเมินมาตรฐานประเภท สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ งานคอนเสิร์ต Entertainment show ต่างๆ เป็นต้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับตราสัญลักษณ์ประเภท Exhibition Venue และ Meeting Room มาแล้ว รวมถึงได้รับรางวัล Thailand Superbrands 2017-2018 ในฐานะที่เป็นแบรนด์สถานที่จัดงานระดับโลกที่มีความโดดเด่น และเป็นที่หนึ่งในใจของทุกคน
นอกจากนั้นทางด้วยความพร้อมของทีมบริหาร รอยัล พารากอน ฮอลล์ ทำให้มีการขยาย ขอบเขตการให้บริการของธุรกิจออกไป ด้วยการเป็นผู้จัดงานและผู้รับเหมาก่อสร้างสิ่งตกแต่ง การจัดงานในคราวเดียวกัน เพื่อให้บริการลูกค้าแบบ One Stop Service
แม้จะเป็นสถานที่จัดงานใจกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความหรูหราและเทคโนโลยี แต่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ยังมีแผนด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้ร่วม โครงการ Care the bear ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานอีเว้นท์ ตามแนวทาง ลดสภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง โดยเป็นการรณรงค์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับงาน ดำเนินกิจกรรมผ่าน นโยบายที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ เชิญชวนให้เดินทางโดยรถสาธารณะ, ใช้วัสดุตกแต่งที่รีไซเคิลได้, ลดขยะที่เกิดจากการจัดงาน, ลดใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการใช้ หลอดไฟ LED, ลดการใช้กระดาษและพลาสติก โดยจากผลการดำเนินโครงที่ผ่านมาเฉลี่ย 1 งานจะช่วยลด ปริมาณ Carbon Footprint ได้ถึง 9,276 kg.CO2e. ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูก ต้นไม้ใหญ่ได้ถึง 1,031 ต้น
ในปีที่แล้วรอยัล พารากอน ฮอลล์ ได้รับความไว้วางใจให้จัดงานระดับโลกมากมาย เช่น Overwatch World Cup 2018 งานแข่งขัน E-Sport ระดับโลก , Thailand 2018 World Stamp Exhibition มหกรรมแสดงตราไปรษณียากรระดับโลก , Thailand Game Show 2018 มหกรรมเกมส์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และงานที่ได้รับความนิยมจากคนไทยอย่าง Note Udom No.12 – เดี่ยว 12 และตารางงานในปีนี้ตอกย้ำความเป็นระดับโลกขึ้นไปอีกขั้น เมื่อได้รับความไว้วางใจจาก IBM, Google, Herbal Life Bangalore และ Kotra รวมถึงงานมหกรรมดนตรี “What The Fest!” Music Festival, คอนเสิร์ต “SINGING BIRD” (ซิงกิ้ง เบิร์ด) ครั้งที่ 1 ตอน “เพลงตามคำขอ” ครั้งแรก ของเบิร์ด ธงไชย และงานอีเวนต์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต่อคิวใช้งานสถานที่จัดงานระดับโลกอย่าง รอยัล พารากอน ฮอลล์
“แม้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่รอยัล พารากอนฮอลล์ ยังได้รับความ ไว้วางใจจากผู้จัดงาน นั่นเป็นเพราะทางเรามีจุดแข็งด้านความปลอดภัย สถานที่ตอบโจทย์ การจัดงานที่หลากหลาย ทำเลที่ตั้งเดินทางสะดวก โดยเราจะไม่หยุดพัฒนาอยู่แค่นี้ ล่าสุดได้นำ ระบบ ระบบ Visitor Management System มาใช้ในระบบการรักษาความปลอดภัยที่สามารถ ตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่เข้าออกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรักษา 3 ระบบมาตรฐาน ISO และ TIS เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าต่อไป และก้าวไปเป็นสถานที่จัดงานระดับโลก อย่างเต็มตัว” นายทาลูนกล่าวทิ้งทาย